ธรรมจาก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
อุบายธรรมต่าง ๆ ที่กำหนดจดจำ
ไปประพฤติปฏิบัติ ได้หรือไม่ได้
ขึ้นอยู่กับบุญบารมีเก่าเราทำมามากหรือไม่
บุญบารมีใหม่ ใจปัจจุบันของเราตั้งมั่นหรือไม่
ใจปัจจุบันเป็นหลักสำคัญที่เราทุกคน
ทุกดวงใจจะประมาทไม่ได้
พระพุทธเจ้า พระองค์เตือนว่า
ผู้ไม่ประมาทย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญ
ผู้ประมาทมัวเมาเป็นไปเพื่อความเสื่อม
วันคืนเดือนปี หมดไป สิ้นไป
แต่อย่าเข้าใจว่าวันคืนนั้นหมดไป
วันคืนไม่หมด
ชีวิตของแต่ละบุคคลหมดไปสิ้นไป
มันหมดไปทุกลมหายใจเข้าออก
ฉะนั้นให้ภาวนาดูว่าวันคืนล่วงไป
เราทำอะไรอยู่ ทำบุญหรือทำบาป
เราภาวนาใจสงบหรือยัง เราละกิเลสได้หรือยัง
เรามัวเพลิดเพลินอะไรอยู่
ไปมัวเสียอกเสียใจอย่างไรอยู่
ทำไมไม่ภาวนา ทำไมไม่ละกิเลส
ภาวนาให้มันหมดสิ้นไป
เวลาความแก่มาถึงเข้า
หรือเวลาความเจ็บไข้มาถึงเข้า จิตก็ว้าวุ่น
ยิ่งความตายจะมาถึง
เราละกิเลสไว้ก่อนหรือยัง
ก็ตอบได้ด้วยตนเอง ว่ายังไม่หมด
เมื่อยังไม่หมดเรามัวไปทำอะไรอยู่
ชีวิตของคนเราหมดไป
เหมือนจุดเทียนขึ้นมาแล้ว
ไฟมันก็ไหม้ไส้เทียนจนหมด เราทำอะไรอยู่
ไม่พินิจพิจารณา
ต้องเตือนใจของตนเองว่าเราภาวนาแล้วหรือยัง
อย่าประมาท คือภาวนาทุกลมหายใจเข้าออก
เราทุกคนก็ต้องโอปนยิกธรรม น้อมเข้ามา
รวมเข้ามาสอนตัวเองเข้ามาให้ได้อยู่ทุกวันเวลา
มรรคผล นิพพาน ก็ไม่ต้องไปหาที่อื่น
มันอยู่ที่ความเพียร ความหมั่น ความขยัน
ในการภาวนาไม่ให้ขาด นั่งก็ภาวนา นอนก็ภาวนา
หลับแล้วก็แล้วไป ตื่นขึ้นก็ภาวนาต่อ
ให้เป็นวงจรอยู่ตลอดเวลา จิตใจย่อมมีกำลัง
มีความสามารถอาจหาญไม่ท้อแท้อ่อนแอในหัวใจ
ความไม่ประมาท คือ ?
อุบายธรรมต่าง ๆ ที่กำหนดจดจำ
ไปประพฤติปฏิบัติ ได้หรือไม่ได้
ขึ้นอยู่กับบุญบารมีเก่าเราทำมามากหรือไม่
บุญบารมีใหม่ ใจปัจจุบันของเราตั้งมั่นหรือไม่
ใจปัจจุบันเป็นหลักสำคัญที่เราทุกคน
ทุกดวงใจจะประมาทไม่ได้
พระพุทธเจ้า พระองค์เตือนว่า
ผู้ไม่ประมาทย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญ
ผู้ประมาทมัวเมาเป็นไปเพื่อความเสื่อม
วันคืนเดือนปี หมดไป สิ้นไป
แต่อย่าเข้าใจว่าวันคืนนั้นหมดไป
วันคืนไม่หมด
ชีวิตของแต่ละบุคคลหมดไปสิ้นไป
มันหมดไปทุกลมหายใจเข้าออก
ฉะนั้นให้ภาวนาดูว่าวันคืนล่วงไป
เราทำอะไรอยู่ ทำบุญหรือทำบาป
เราภาวนาใจสงบหรือยัง เราละกิเลสได้หรือยัง
เรามัวเพลิดเพลินอะไรอยู่
ไปมัวเสียอกเสียใจอย่างไรอยู่
ทำไมไม่ภาวนา ทำไมไม่ละกิเลส
ภาวนาให้มันหมดสิ้นไป
เวลาความแก่มาถึงเข้า
หรือเวลาความเจ็บไข้มาถึงเข้า จิตก็ว้าวุ่น
ยิ่งความตายจะมาถึง
เราละกิเลสไว้ก่อนหรือยัง
ก็ตอบได้ด้วยตนเอง ว่ายังไม่หมด
เมื่อยังไม่หมดเรามัวไปทำอะไรอยู่
ชีวิตของคนเราหมดไป
เหมือนจุดเทียนขึ้นมาแล้ว
ไฟมันก็ไหม้ไส้เทียนจนหมด เราทำอะไรอยู่
ไม่พินิจพิจารณา
ต้องเตือนใจของตนเองว่าเราภาวนาแล้วหรือยัง
อย่าประมาท คือภาวนาทุกลมหายใจเข้าออก
เราทุกคนก็ต้องโอปนยิกธรรม น้อมเข้ามา
รวมเข้ามาสอนตัวเองเข้ามาให้ได้อยู่ทุกวันเวลา
มรรคผล นิพพาน ก็ไม่ต้องไปหาที่อื่น
มันอยู่ที่ความเพียร ความหมั่น ความขยัน
ในการภาวนาไม่ให้ขาด นั่งก็ภาวนา นอนก็ภาวนา
หลับแล้วก็แล้วไป ตื่นขึ้นก็ภาวนาต่อ
ให้เป็นวงจรอยู่ตลอดเวลา จิตใจย่อมมีกำลัง
มีความสามารถอาจหาญไม่ท้อแท้อ่อนแอในหัวใจ