เรื่องที่ผ่านไปนานแล้ว แต่ยังไม่หลุดไปจากจิตใจของใครหลายๆคน ..หรือเพราะว่ามันเป็นวิบากกรรมที่ทำร่วมกันมาและบางคนยังต้องรับหรือชดใช้กรรมกันอยู่ในสภาพนี้ ..จะอดีตหรือปัจจุบันเวลาพูดถึงการเมืองไทยทำไมต้องมีชื่อทักษิณ หรือถ้าพูดถึงคนโกง ก็ต้องเป็น ทักษิณ .. ทำไมคนๆเดียวที่ชื่อทักษิณ คือต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวงในประเทศได้ถึงขนาดนี้..ไม่เพียงแค่นั้น ทักษิณ ยังเป็นที่มาของการสถาปนา ภาคคนดีและทักษิณ ถูกจำกัดให้เป็นได้แค่ ภาคคนเลว..วันนี้ไม่ว่าทักษิณ จะอยู่ที่ใด แม้ทักษิณ จะยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ก็ตาม ชนกลุ่มเดิมก็ยังคงวนเวียนติดอยู่กับอดีต ติดอยู่กับ ชื่อทักษิณ ยัดเยียดเปลี่ยนสถานะบุคคลไปเป็น ระบอบทั้งๆที่ยังไม่มีใครอธิบายได้ว่า ระบอบทักษิณ คืออะไร มุ่งหมายจะทำลายระบอบนี้ให้ราบคาบ แต่ถึงจะเป็นทักษิณหรือระบอบทักษิณหรืออะไรก็ตามที ชื่อนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเพราะกลุ่มชนที่สร้างอดีตให้ยึดติดอยู่กับภาพทักษิณจะเป็นภาพที่ปรากฏอยู่อย่างนั้นตราบนานเท่านาน..
คำพูดที่ว่า..แม้สงครามมันจะจบไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือภาพแห่งสงครามและการสูญเสียที่ไม่มีวันเลือนหายไป จะถูกบันทึกอยู่ในกาลเวลาไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่มนุษย์ย่อมต้องดำเนินชีวิตต่อไป และก้าวให้พ้นความโกรธแค้น แรงอาฆาตอันเกิดจากผลแห่งสงคราม...ถ้าวันนี้เรายอมให้อคติเปลี่ยนผ่านไปตามเวลาจิตใจย่อมเป็นสุข แต่ที่น่าเวทนาคือ จิตวิญญาณที่ยังหมกมุ่นอยู่กับกรรมและการจองเวรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด . เหมือนวิญญาณที่มีแต่กิเลส วนเวียนเร่ร่อนไปเรื่อยๆ รอจนกว่าจะถึงเวลาของตัวเองว่าจะได้ไปผุดไปเกิดที่ไหนตามแต่เวรกรรมบุญบาปที่ทำกันมาจะหมด พวกนี้แหละน่าสงสาร จะไปก็ไม่ได้ครั้นจะอยู่ก็เคว้งคว้างลำบากต้องรอขอส่วนบุญเขาไปเรื่อยๆ ส่วนที่หลุดพ้นไปแล้วจะนรกหรือสวรรค์ ก็ด้วยตัวของเขา พวกนี้ถือว่ามีที่กิน มีที่อยู่แน่นอนของเขา จะลำบากจะสบายก็ด้วยกรรมของเขา ผิดกับพวกวิญญาณกิเลสหนาวนเวียนเร่ร่อนโดยที่ยังหวังอะไรไม่ได้ อยู่ก็ต้องอยู่ที่เก่า ภาพที่เห็นก็ภาพเก่า ส่วนบุญไม่ต้องพูดได้บ้างไม่ได้บ้างหรือแทบไม่ได้รับกันเลย เฝ้าแต่รอคอยเศษบุญจากการแบ่งปันของผู้อื่น ..น่าจะพอกันได้แล้ว คิดไว้เสมอ "อยู่ก็สบาย ไปก็ไม่ต้องเป็นห่วง"เรามิได้ทำงานเพื่อตัวเอง แต่เป็นการทำงานเพื่อคนอื่น เพื่อส่วนรวม แล้วจะห่วงอะไร...
หยุดได้แล้ว“สัมภเวสี กาลีเมือง”
คำพูดที่ว่า..แม้สงครามมันจะจบไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือภาพแห่งสงครามและการสูญเสียที่ไม่มีวันเลือนหายไป จะถูกบันทึกอยู่ในกาลเวลาไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่มนุษย์ย่อมต้องดำเนินชีวิตต่อไป และก้าวให้พ้นความโกรธแค้น แรงอาฆาตอันเกิดจากผลแห่งสงคราม...ถ้าวันนี้เรายอมให้อคติเปลี่ยนผ่านไปตามเวลาจิตใจย่อมเป็นสุข แต่ที่น่าเวทนาคือ จิตวิญญาณที่ยังหมกมุ่นอยู่กับกรรมและการจองเวรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด . เหมือนวิญญาณที่มีแต่กิเลส วนเวียนเร่ร่อนไปเรื่อยๆ รอจนกว่าจะถึงเวลาของตัวเองว่าจะได้ไปผุดไปเกิดที่ไหนตามแต่เวรกรรมบุญบาปที่ทำกันมาจะหมด พวกนี้แหละน่าสงสาร จะไปก็ไม่ได้ครั้นจะอยู่ก็เคว้งคว้างลำบากต้องรอขอส่วนบุญเขาไปเรื่อยๆ ส่วนที่หลุดพ้นไปแล้วจะนรกหรือสวรรค์ ก็ด้วยตัวของเขา พวกนี้ถือว่ามีที่กิน มีที่อยู่แน่นอนของเขา จะลำบากจะสบายก็ด้วยกรรมของเขา ผิดกับพวกวิญญาณกิเลสหนาวนเวียนเร่ร่อนโดยที่ยังหวังอะไรไม่ได้ อยู่ก็ต้องอยู่ที่เก่า ภาพที่เห็นก็ภาพเก่า ส่วนบุญไม่ต้องพูดได้บ้างไม่ได้บ้างหรือแทบไม่ได้รับกันเลย เฝ้าแต่รอคอยเศษบุญจากการแบ่งปันของผู้อื่น ..น่าจะพอกันได้แล้ว คิดไว้เสมอ "อยู่ก็สบาย ไปก็ไม่ต้องเป็นห่วง"เรามิได้ทำงานเพื่อตัวเอง แต่เป็นการทำงานเพื่อคนอื่น เพื่อส่วนรวม แล้วจะห่วงอะไร...