ความน่ากลัวที่ไม่น่ากลัว 9/5/58
ความเชื่อมั่นของผู้คน ว่าตลาดหุ้นจะยังคงเป็นขาขึ้นไป 1700 นั้นลดลงเรื่อยๆ จากการที่ขึ้นไป test 1600 จุด 3 รอบแล่วไม่ผ่าน รอบ 4 ได้แค่ 1570 จุด ภาคเศรษฐกิจจริง slow down ทุก sector ถ้วนหน้า graph เรี่มเสีย shape ดูเหมือนจะเริ่มเป็นขาลง pattern เริ่มคล้าย ปี 2537 ที่ test 1500 กว่าจุดไม่ผ่าน 4 รอบแล้วลงยาว บรรยากาศเศรษฐกิจโลกก็เริ่มคล้ายก่อนเกิด วิกฤต ปี40 ประธาน fed เองยังกังวลต่อตลาดหุ้น Dow jones ว่าแพงไป usd แข็งไป ทำให้คนส่วนใหญ่กังวลว่าถ้า สหรัฐเริ่มขึ้นดอกเบี้ย จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นสหรัฐ และทั่วโลก ฯลฯ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกำลังหันกลับมาเข้า track ของระบบผลประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ถ้าเกิดเงินบาทอ่อนถึง 35 และหุ้นตกลงมาถึง 1450 หรือตำ่กว่าบ้าง จะยิ่งเพิ่มบรรยากาศของความกลัว และเข้าทางระบบผลประโยชน์มากขึ้นไปอีก (เงินบาทอาจถึง 35 รอบนี้หรือรอบอื่นก็ได้ตรงนี้ไม่แน่นะครับ แต่อย่างไรก็ตาม 40 บาทมาแน่ใน1-3 ปีข้างหน้า) ผมตีความผ่านระบบว่าช่วง1-3เดือนนี้ set น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 1450-1550 จุด หลังจากนั้นจะทะลุขึ้นไป 1700 -1800 จุด สวนทางกับเหตผลและข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ชี้ว่าราคาน่าจะลง และเมื่อราคาเคลื่อนไปในทิศทางที่ระบบได้ประโยชน์แล้ว คือปรับตัวขึ้น ราคาก็จะไปเปลี่ยนแปลงให้สถานการณฺต่างๆดีขึ้นได้
คนส่วนใหญ่ที่ยึดติดกับเหตผล ข้อเท็จจริง และเรียนรู้จากประสบการณ์ ที่อยากจะทยอยลดพอร์ทหุ้นในช่วงนี้และในอนาคต แม้จะถูกตามเหตผลแต่จะไม่ได้กำไรนะครับ ลองฝืนใจตัวเองดูสักครั้ง ลองศึกษาทฤษฎีระบบผลประโยชน์ดู เปลี่ยน structure การคิดไม่ให้เหมือนครั้งเก่าๆ ถ้าทำยากให้เลิกดูหุ้นไปเลย ไปทำงาน ไปเที่ยว มาดูหุ้นอีกทีสิ้นปีไปเลย ก็ดีครับ
ที่มา
http://www.moneychannel.co.th/columnist_blog_detail/56 
ความน่ากลัวที่ไม่น่ากลัว 9/5/58 พิชัย จาวลา
ความเชื่อมั่นของผู้คน ว่าตลาดหุ้นจะยังคงเป็นขาขึ้นไป 1700 นั้นลดลงเรื่อยๆ จากการที่ขึ้นไป test 1600 จุด 3 รอบแล่วไม่ผ่าน รอบ 4 ได้แค่ 1570 จุด ภาคเศรษฐกิจจริง slow down ทุก sector ถ้วนหน้า graph เรี่มเสีย shape ดูเหมือนจะเริ่มเป็นขาลง pattern เริ่มคล้าย ปี 2537 ที่ test 1500 กว่าจุดไม่ผ่าน 4 รอบแล้วลงยาว บรรยากาศเศรษฐกิจโลกก็เริ่มคล้ายก่อนเกิด วิกฤต ปี40 ประธาน fed เองยังกังวลต่อตลาดหุ้น Dow jones ว่าแพงไป usd แข็งไป ทำให้คนส่วนใหญ่กังวลว่าถ้า สหรัฐเริ่มขึ้นดอกเบี้ย จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นสหรัฐ และทั่วโลก ฯลฯ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกำลังหันกลับมาเข้า track ของระบบผลประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ถ้าเกิดเงินบาทอ่อนถึง 35 และหุ้นตกลงมาถึง 1450 หรือตำ่กว่าบ้าง จะยิ่งเพิ่มบรรยากาศของความกลัว และเข้าทางระบบผลประโยชน์มากขึ้นไปอีก (เงินบาทอาจถึง 35 รอบนี้หรือรอบอื่นก็ได้ตรงนี้ไม่แน่นะครับ แต่อย่างไรก็ตาม 40 บาทมาแน่ใน1-3 ปีข้างหน้า) ผมตีความผ่านระบบว่าช่วง1-3เดือนนี้ set น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 1450-1550 จุด หลังจากนั้นจะทะลุขึ้นไป 1700 -1800 จุด สวนทางกับเหตผลและข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ชี้ว่าราคาน่าจะลง และเมื่อราคาเคลื่อนไปในทิศทางที่ระบบได้ประโยชน์แล้ว คือปรับตัวขึ้น ราคาก็จะไปเปลี่ยนแปลงให้สถานการณฺต่างๆดีขึ้นได้
คนส่วนใหญ่ที่ยึดติดกับเหตผล ข้อเท็จจริง และเรียนรู้จากประสบการณ์ ที่อยากจะทยอยลดพอร์ทหุ้นในช่วงนี้และในอนาคต แม้จะถูกตามเหตผลแต่จะไม่ได้กำไรนะครับ ลองฝืนใจตัวเองดูสักครั้ง ลองศึกษาทฤษฎีระบบผลประโยชน์ดู เปลี่ยน structure การคิดไม่ให้เหมือนครั้งเก่าๆ ถ้าทำยากให้เลิกดูหุ้นไปเลย ไปทำงาน ไปเที่ยว มาดูหุ้นอีกทีสิ้นปีไปเลย ก็ดีครับ
ที่มา http://www.moneychannel.co.th/columnist_blog_detail/56