สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน
ผมขอเกริ่นก่อนว่า กระทู้เหตุการณ์นี้จะออกแนวเล่าเรื่องราวระบายอารมณ์ ปนคำถามให้ได้ลองเอาไปคิดกันเล่นๆ(อยากรู้ว่าชาวพุทธอย่างเรา มีความเห็นกับสถานการณ์นี้กันอย่างไร?) โดยจะออกแนวดราม่าหน่อยนะครับ
สำคัญเลยคือเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสนาด้วย ผมเข้าใจดีอยู่ว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมนี้ อาจจะดูเล็กน้อยในสายตาบางคน แต่ผมคิดว่า เรื่องเล็กๆแบบนี้แหล่ะ ที่เราหละหลวมกันจนอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ในวันข้างหน้าได้
สถานการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11/05/2558 ที่ผ่านมานี้เอง ส่วนรายละเอียดด้านสถานที่ที่เกิดเหตุนั้น ผมจำเป็นต้องปิดรายละเอียดพอสมควร
เนื่องจากผมไม่มีหลักฐานใดๆเป็นชิ้นเป็นอันเลย(แต่สาบานต่อหน้าพระเจ้าทุกศาสนาว่าสถานการณ์นี้เกิดขึ้นจริง และเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิตผม)และเพื่อปกป้องตัวผมเองอ่ะครับ
เข้าเรื่องกันเลยครับ...
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมและแฟนของผมได้ไปเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะเป็นทริปสามวันสองคืน ทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดีจนกระทั่งวันที่ต้องเดินทางกลับ ซึ่งผมกับแฟนได้เดินทางออกจากเกาะหลีเป๊ะเพื่อมารอขึ้นเครื่องบิน ณ อำเภอ... ในจังหวัด...(เชื่อว่าคนที่เคยเดินทางเที่ยวหลีเป๊ะน่าจะรู้ดี) เพื่อที่จะได้นั่งเครื่องบินกลับดอนเมืองครับ พอดีว่าเรามาถึงที่หมายเร็วกว่ากำหนด(เครื่องออก 5 โมง แต่มาถึงตั้งแต่บ่ายกว่าๆ) เราจึงหาที่ทานข้าวและเดินเวิ่นฆ่าเวลากัน
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนถึงบ่ายสองครึ่งกว่าๆ ผมและแฟนก็รู้สึกว่า หากเราเดินแบกเป้หาที่เที่ยวกันลำพังอย่างนี้ คงไม่ดีแน่ เลยตัดสินใจโบกรถตุ๊กๆให้เขาพาเที่ยว แต่ด้วยงบฯและเวลาอันจำกัด จึงตกลงปลงใจไปที่วัดแห่งหนึ่ง(เป็นวัดชื่อดังที่มีไฮไลท์และขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวประจำย่านนั้นเลยก็ว่าได้) ผมกับแฟนก็เดินถ่ายรูปเล่นกันสักแป้บก็เผลอเข้าไป ณ ห้องๆหนึ่ง ที่ผนังห้องนั้นเต็มไปด้วยช่องใส่โถบรรจุอัฐิอยู่รอบห้องเลย(ถ้าจำไม่ผิด) แล้วก็ได้ยินเสียงชายห่มผ้าเหลืองพูดเสียงดังฟังชัด เชื้อเชิญให้หยิบดอกไม้ธูปเทียนแผ่นทองมากราบไว้องค์พระพุทธรูปที่อยู่ในห้องนี้
หลังจากที่เราได้กราบไว้เรียบร้อยชายห่มผ้าเหลืองก็ถามเราประมาณว่า มาจากไหนกันล่ะ? มาเที่ยวกันเหรอ? อะไรประมาณนี้ คือถามตั้งแต่เดินเข้าห้องมาละครับ ก็ถามอยู่เรื่อยๆ แต่ด้วยความที่เราทั้งสองเป็นคนแบบซื่อๆก็ตอบไปตามจริงว่ามาเที่ยวอย่างนั้นอยู่กี่วันกลับอย่างงี้ๆๆ จนกระทั่งคุยกันเพลินๆเรากำลังจะขอตัวลากลับ ชายห่มผ้าเหลืองจึงถามว่า "สนใจถวายสังฆทานมั้ย? ร้อยเดียวเองนะโยม" พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบสังฆทานที่หน้าตาดูแล้วราคาไม่ควรจะถึงร้อยมาชุดนึง เอามาวางไว้ข้างหน้าเราสองคน "เอาซองๆไปด้วยโยม" ...มีหยิบซองให้เราด้วย!?
แน่นอนครับว่า ขณะที่เรากำลังอึ้งกิมกี่กันอยู่นั้น มนุษย์ป้าที่เพิ่งจะไซ้ผมหงอกให้เพื่อนของนางเสร็จ รีบแจ้นเข้ามาผสมโรงกับชายห่มผ้าเหลืองทันที โดยมีทีท่าเดินเข้ามาอย่างเรียบร้อยและสงบพร้อมกับพูดว่า "หนึ่งร้อยคือค่าสังฆทานส่วนซองสีชมพูสำหรับใส่ปัจจัยถวายให้หลวงพ่อค่ะ" กู เอ้ย! เราทั้งสองนี่เงิบเลยครับ
มากันเป็นทีม!(สงบสติอารมณ์แพร้พ
)
และนี่คือคำถาม...ว่าถ้าคุณโดนเหมือนอย่างผม คุณจะทำกันอย่างไร? ......ดราม่าได้ตามสบายครับ ผมก็มาเล่าตามที่ผมและแฟนไปโดนมานั่นแหล่ะ
ส่วนผมและแฟนทำอย่างไรกัน? ก็ตามเกมสิครับ เพราะนอกจากจะมัดมือชกกันขนาดนี้แล้ว ที่นี่ก็ไม่ใช่ถิ่นผมด้วย ถ้าเป็นวัดแถวบ้านผมนี่คงองค์ลงไปแล้วล่ะครับ เราจัดแจงจ่ายค่าสังฆทานและใส่ซอง 20 บาทให้ชายห่มผ้าเหลือง...แน่นอนครับ ว่าเราต่างแอบสังเกตเห็นอาการสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยของชายห่มผ้าเหลืองท่านนั้น แล้วเราก็ประเคนกันไปตามระเบียบ หลังจากนั้นชายห่มผ้าเหลืองก็ตามพิธีเลย ให้เราท่องมโน เอ้ย! นโม 3 จบ สวดอาระหังสัมมา ละก้อสวดถวายสังฆทานกรวดน้ำไปตามระเบียบ จากนั้นเราก็ได้ขอตัวกราบลาชายห่มผ้าเหลืองคนนั้น และนั่งรถตุ้กๆไปสู่สนามบินอย่าง งงๆ
นับว่าเป็นครั้งแรกของผมและแฟนเลยก็ว่าได้ครับ ที่เจออะไรอย่างนี้ ไม่คิดเลยว่าจะมีอะไรอย่างนี้เกิดขึ้นกับตนเองด้วย เคยอ่านและเห็นเรื่องโสมมในวงการศาสนาบ้านเราที่โพสกันในเน็ตมาก็เยอะ แต่ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสกับเราเอง ไม่ชอบเลย พูดตรงๆ แต่ก็ต้องจำไว้เป็นบทเรียน ขอให้เพื่อนๆทุกคนระวังกันด้วยนะครับ
ขอบคุณที่ฟังผมระบายจนจบนะครับชาวพันทิป
ปล.ผิดพลาดประการใด จักขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ถามเพื่อนๆว่า ถ้าคุณโดนชายห่มผ้าเหลือง ทำแบบนี้กับคุณ...คุณจะทำอย่างไร?
ผมขอเกริ่นก่อนว่า กระทู้เหตุการณ์นี้จะออกแนวเล่าเรื่องราวระบายอารมณ์ ปนคำถามให้ได้ลองเอาไปคิดกันเล่นๆ(อยากรู้ว่าชาวพุทธอย่างเรา มีความเห็นกับสถานการณ์นี้กันอย่างไร?) โดยจะออกแนวดราม่าหน่อยนะครับ
สำคัญเลยคือเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสนาด้วย ผมเข้าใจดีอยู่ว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมนี้ อาจจะดูเล็กน้อยในสายตาบางคน แต่ผมคิดว่า เรื่องเล็กๆแบบนี้แหล่ะ ที่เราหละหลวมกันจนอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ในวันข้างหน้าได้
สถานการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11/05/2558 ที่ผ่านมานี้เอง ส่วนรายละเอียดด้านสถานที่ที่เกิดเหตุนั้น ผมจำเป็นต้องปิดรายละเอียดพอสมควร
เข้าเรื่องกันเลยครับ...
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมและแฟนของผมได้ไปเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะเป็นทริปสามวันสองคืน ทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดีจนกระทั่งวันที่ต้องเดินทางกลับ ซึ่งผมกับแฟนได้เดินทางออกจากเกาะหลีเป๊ะเพื่อมารอขึ้นเครื่องบิน ณ อำเภอ... ในจังหวัด...(เชื่อว่าคนที่เคยเดินทางเที่ยวหลีเป๊ะน่าจะรู้ดี) เพื่อที่จะได้นั่งเครื่องบินกลับดอนเมืองครับ พอดีว่าเรามาถึงที่หมายเร็วกว่ากำหนด(เครื่องออก 5 โมง แต่มาถึงตั้งแต่บ่ายกว่าๆ) เราจึงหาที่ทานข้าวและเดินเวิ่นฆ่าเวลากัน
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนถึงบ่ายสองครึ่งกว่าๆ ผมและแฟนก็รู้สึกว่า หากเราเดินแบกเป้หาที่เที่ยวกันลำพังอย่างนี้ คงไม่ดีแน่ เลยตัดสินใจโบกรถตุ๊กๆให้เขาพาเที่ยว แต่ด้วยงบฯและเวลาอันจำกัด จึงตกลงปลงใจไปที่วัดแห่งหนึ่ง(เป็นวัดชื่อดังที่มีไฮไลท์และขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวประจำย่านนั้นเลยก็ว่าได้) ผมกับแฟนก็เดินถ่ายรูปเล่นกันสักแป้บก็เผลอเข้าไป ณ ห้องๆหนึ่ง ที่ผนังห้องนั้นเต็มไปด้วยช่องใส่โถบรรจุอัฐิอยู่รอบห้องเลย(ถ้าจำไม่ผิด) แล้วก็ได้ยินเสียงชายห่มผ้าเหลืองพูดเสียงดังฟังชัด เชื้อเชิญให้หยิบดอกไม้ธูปเทียนแผ่นทองมากราบไว้องค์พระพุทธรูปที่อยู่ในห้องนี้
หลังจากที่เราได้กราบไว้เรียบร้อยชายห่มผ้าเหลืองก็ถามเราประมาณว่า มาจากไหนกันล่ะ? มาเที่ยวกันเหรอ? อะไรประมาณนี้ คือถามตั้งแต่เดินเข้าห้องมาละครับ ก็ถามอยู่เรื่อยๆ แต่ด้วยความที่เราทั้งสองเป็นคนแบบซื่อๆก็ตอบไปตามจริงว่ามาเที่ยวอย่างนั้นอยู่กี่วันกลับอย่างงี้ๆๆ จนกระทั่งคุยกันเพลินๆเรากำลังจะขอตัวลากลับ ชายห่มผ้าเหลืองจึงถามว่า "สนใจถวายสังฆทานมั้ย? ร้อยเดียวเองนะโยม" พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบสังฆทานที่หน้าตาดูแล้วราคาไม่ควรจะถึงร้อยมาชุดนึง เอามาวางไว้ข้างหน้าเราสองคน "เอาซองๆไปด้วยโยม" ...มีหยิบซองให้เราด้วย!?
แน่นอนครับว่า ขณะที่เรากำลังอึ้งกิมกี่กันอยู่นั้น มนุษย์ป้าที่เพิ่งจะไซ้ผมหงอกให้เพื่อนของนางเสร็จ รีบแจ้นเข้ามาผสมโรงกับชายห่มผ้าเหลืองทันที โดยมีทีท่าเดินเข้ามาอย่างเรียบร้อยและสงบพร้อมกับพูดว่า "หนึ่งร้อยคือค่าสังฆทานส่วนซองสีชมพูสำหรับใส่ปัจจัยถวายให้หลวงพ่อค่ะ" กู เอ้ย! เราทั้งสองนี่เงิบเลยครับ
และนี่คือคำถาม...ว่าถ้าคุณโดนเหมือนอย่างผม คุณจะทำกันอย่างไร? ......ดราม่าได้ตามสบายครับ ผมก็มาเล่าตามที่ผมและแฟนไปโดนมานั่นแหล่ะ
ส่วนผมและแฟนทำอย่างไรกัน? ก็ตามเกมสิครับ เพราะนอกจากจะมัดมือชกกันขนาดนี้แล้ว ที่นี่ก็ไม่ใช่ถิ่นผมด้วย ถ้าเป็นวัดแถวบ้านผมนี่คงองค์ลงไปแล้วล่ะครับ เราจัดแจงจ่ายค่าสังฆทานและใส่ซอง 20 บาทให้ชายห่มผ้าเหลือง...แน่นอนครับ ว่าเราต่างแอบสังเกตเห็นอาการสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยของชายห่มผ้าเหลืองท่านนั้น แล้วเราก็ประเคนกันไปตามระเบียบ หลังจากนั้นชายห่มผ้าเหลืองก็ตามพิธีเลย ให้เราท่องมโน เอ้ย! นโม 3 จบ สวดอาระหังสัมมา ละก้อสวดถวายสังฆทานกรวดน้ำไปตามระเบียบ จากนั้นเราก็ได้ขอตัวกราบลาชายห่มผ้าเหลืองคนนั้น และนั่งรถตุ้กๆไปสู่สนามบินอย่าง งงๆ
นับว่าเป็นครั้งแรกของผมและแฟนเลยก็ว่าได้ครับ ที่เจออะไรอย่างนี้ ไม่คิดเลยว่าจะมีอะไรอย่างนี้เกิดขึ้นกับตนเองด้วย เคยอ่านและเห็นเรื่องโสมมในวงการศาสนาบ้านเราที่โพสกันในเน็ตมาก็เยอะ แต่ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสกับเราเอง ไม่ชอบเลย พูดตรงๆ แต่ก็ต้องจำไว้เป็นบทเรียน ขอให้เพื่อนๆทุกคนระวังกันด้วยนะครับ
ขอบคุณที่ฟังผมระบายจนจบนะครับชาวพันทิป
ปล.ผิดพลาดประการใด จักขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ