***สวัสดีเพื่อนๆชาว Pantip ทุกคน เรื่องที่เราเล่าต่อไปนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับนักธุรกิจเพิ่งเริ่มต้น เป็นเรื่องราวที่ส่งผลกระทบแย่มากสำหรับเราตอนนี้ เรื่องมีอยู่ว่าเราเอาอาคารพาณิชย์ไปยื่นขอ OD กับธนาคารสีเขียวสาขาย่านสาทร ประมานปลายปีที่แล้ว ราคาประเมินได้มา 3 ล้านสองแสน แต่เราบอกกับพนักงานตอนเราขอทำเรื่องว่า เราขอแค่ 2 ล้านพอ (จิงๆได้ 80 เปอร์เซ็น ประมาน 2 ล้าน 5) เอามาเป็นทุนสำรองหมุนเวียนและซื้อเครื่องจักรราคาไม่แพงมาก เอกสารการยื่นทำเรื่องขอ OD แน่นอนว่าจะต้องมี STATEMENT ย้อนหลังทั้งส่วนตัวและของบริษัท ต้องบอกก่อนว่า STATEMENT บริษัทช่วงตอนยื่นขอ ก้อไม่ค่อยดี เพราะเราไม่ค่อยได้เดินบัญชี ส่วนบัญชีส่วนตัวก้อยังพอมีเงินอยู่บ้างไม่มาก ไม่ได้มีเป็นหลักหลายแสนหลายล้านอะไร ทางพนักงานสาขาก้อบอกว่าไม่มีปัญหาเรื่องนั้นเดี๋ยวจะลองหาวิธีช่วยดู
***ช่วงระหว่างนั้นเราก้อเตรียมเอกสารทั้งส่วนตัวและบริษ้ท พอเตรียมเอกสารเรียบร้อย เราก้อรู้ตัวอยู่แล้วแหละว่าต้องติดปัญหาเรื่อง STATEMENT แน่เลย พนักงานสาขานั้นทั้งตำแหน่งระดับสูงและระดับพนักงานทั่วไปก้อมาเข้ามารุมคุยกับเรา พูดประมาณว่าก้อช่วยทำบัตร WISxxx สิ เดวจะหาวิธีช่วยเรื่องที่ติดปัญหาของ STATEMENT ตัวนี้ให้ เอาประกันมาล่อเรา อารมณ์เหมือนต้องยื่นหมูยื่นแมว คุณขาแล้วรู้มั้ยคะ !! เบี้ยประกันที่เราจะต้องจ่าย ปีละ 400,000 กว่า กับอายุอย่างเราวัยไม่ถึง 30 เรารู้ในใจอยู่ใจอยู่แล้ว หาจ่ายค่าเบี้ยประกันขนาดนี้ต้องลำบากแน่ๆ แต่สถานการณ์ตอนนั้นเราก้ออยากได้เงินหมุนเวียนเพื่อที่จะขยายธุรกิจ เพราะเครื่องจักรมันก้อแย่มากแล้ววว ลูกค้าก้อเพิ่งเพิ่มขึ้นมา
***ตอนนั้นเราเครียด สับสนมาก อยากได้เงินมา เพื่อความก้าวหน้า แต่ก้อยังคุยกะแฟนว่า เห้ยยย!! ช่วยเรายื่นขอ OD แบบไม่มีประกันไม่ได้หรอ เราเอาคำถามนี้ไปถามทางสาขาวันรุ่งขึ้น รู้มั้ยย !! เราได้คำตอบว่าอะไร คำตอบประมานเดิมเลยคะ "มันก้อต้องประมานยื่นหมูยื่นแมวเนาะ เพราะถ้าไม่ช่วยทำบัตร WISxxx มันก้อค่อนข้างผ่านยาก เพราะตัวเลขในบัญชีของน้องไม่ดี" เรากับแฟนหันมามองหน้ากัน ถึงเวลานั้นเราก้อเหมือนหมาจนตรอก จำเป็นต้องยอม ทั้งๆที่ในใจยังคิดว่าจะหาตังมาส่งค่าเบี้ยประกันจากไหนปีละมากมายขนาดนี้ แต่เหตุผลที่หนักแน่นของธุรกิจมันก้อบีบบังคับให้เราต้องยอม พอยื่นเรื่องเสร็จ ทำประกันชีวิตได้บัตร WISxxx มาเรียบร้อย เราได้จากเงินจากการขอ OD มา 2 ล้านตามที่ขอไป หลังจากนั้นผ่านมาสามสี่เดือน ลูกค้าเราก้อมีเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจดีขึ้น งานเยอะจนเครื่องจักรที่มีผลิตไม่ทัน เราก้อยังจ่ายดอกเบี้ย OD ทุกเดือนไม่เคยผิดนัดชำระ เราก้อยังมีเข้าไปใช้บริการกับสาขานั้นเป็นปกติ เราลืมบอกก่อนหน้านี้เราได้ 2 ล้านมา เราโดนหักค่าประกันชีวิตไปเลยจ้า 500,000 กว่าบาท เราก้อทำใจ ตอนนั้นใจคิดเพราะหมาจนตรอกอย่างเรา ไม่มีหนทางไหนแล้วนิ งานมันเยอะขึ้นเครื่องจักรที่มีไม่พอ มันก้ออยากได้อีกสักเครื่อง เราเลยไปยื่นขอเพิ่มวงเงิน OD อีกรอบ ปรากฎว่าครั้งนี้ เราก้อยื่นหลักฐานอะไรคล้ายๆเดิม พนักงานก้อรับปากว่าจะช่วยเรื่อง STATEMENT อีก แต่ความหนักแน่นทางสายตาและน้ำเสียงไม่มีเหมือนเดิม เราก้อเริ่มเอะใจละ จะผ่านไหมเนี่ย??? เพราะครั้งนี้ไม่มีอะไรแลกเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจเรื่องยอด
***เวลาผ่านไปเกือนเดือน เราก้อเข้าไปสอบถามเค้าเรื่องผลการอนุมัติ ครั้งแรกพนักงานเค้าก้อบอกกะลังดูเรื่อง STATEMENT เดวจะช่วยหาวิธีเหมือนครั้งแรก สุดท้ายผลก้อออกมาว่าไม่ผ่าน เราก้อถามพนักงานเลยว่าทำไม เค้าบอก STATEMENT ไม่ค่อยสวย เราเลยถามเค้ากลับว่า อ่าววว !! แล้วรับปากดิบดีว่าจะช่วยให้เหมือนครั้งแรกไง คราวนี้เงียบตอบอะไรไม่ได้ บอกแต่ว่าต้องขอโทษจิงๆๆนะคะ/ครับ เราเลยมานั่งคิด จนถึงบางอ้อออ ว่าก่อนหน้านี้เคยโดนรุมขายบัตรพรีเมีxx เป็นประกันเหมือนกัน แต่เราบอกเราไม่ไหว แค่นี้ก้อหาเงินออมเครียดจะตายอยู่แล้ว แต่เงินที่ควรจะได้ อีกห้าแสนกว่าที่เราควรจะได้ตั้งแต่แรก ทำไมไม่สามารถอนุมัติให้ได้ทั้งๆที่มันจะได้ตั้งแต่แรกที่เรายื่นไป หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างที่เราเจอ เรารู้สึกแย่มากอ่ะ เราตั้งคำถามว่าทำไม?????? ไม่มีผลประโยชน์ไม่ช่วยกันเลยหรอ คนเราอ่ะ ถ้ามันมีตัง มันจะไปขอกู้แบงก์ทำไม ทุกวันนี้เครียด อยากจะเอาเงิน 500,000 กว่าที่เสียค่าเบี้ยปีแรกคืนมากกก มาพัฒนาเครื่องจักรต่อ ก้อทำไม่ได้ โทรหาศูนย์ประกีนชีวิต เค้าก้อบอกว่าถ้าเวนคืนตอนนี้ ได้คืนไม่กี่หมื่น เรานี่เข่าแทบทรุดดด ตอนนี้เงินก้อไม่ค่อยมีหมุนเวียน เราจะยื่น OD เพิ่ม ถ้าไม่ทำประกันช่วยยอดพนักงานหนทางได้เงินก้อยากนัก เราควรจะทำไงดีเนี่ยยย ???
บริการยัดเยียดประกันตอนเดือดร้อนก้อปวดใจนะ T_T
***ช่วงระหว่างนั้นเราก้อเตรียมเอกสารทั้งส่วนตัวและบริษ้ท พอเตรียมเอกสารเรียบร้อย เราก้อรู้ตัวอยู่แล้วแหละว่าต้องติดปัญหาเรื่อง STATEMENT แน่เลย พนักงานสาขานั้นทั้งตำแหน่งระดับสูงและระดับพนักงานทั่วไปก้อมาเข้ามารุมคุยกับเรา พูดประมาณว่าก้อช่วยทำบัตร WISxxx สิ เดวจะหาวิธีช่วยเรื่องที่ติดปัญหาของ STATEMENT ตัวนี้ให้ เอาประกันมาล่อเรา อารมณ์เหมือนต้องยื่นหมูยื่นแมว คุณขาแล้วรู้มั้ยคะ !! เบี้ยประกันที่เราจะต้องจ่าย ปีละ 400,000 กว่า กับอายุอย่างเราวัยไม่ถึง 30 เรารู้ในใจอยู่ใจอยู่แล้ว หาจ่ายค่าเบี้ยประกันขนาดนี้ต้องลำบากแน่ๆ แต่สถานการณ์ตอนนั้นเราก้ออยากได้เงินหมุนเวียนเพื่อที่จะขยายธุรกิจ เพราะเครื่องจักรมันก้อแย่มากแล้ววว ลูกค้าก้อเพิ่งเพิ่มขึ้นมา
***ตอนนั้นเราเครียด สับสนมาก อยากได้เงินมา เพื่อความก้าวหน้า แต่ก้อยังคุยกะแฟนว่า เห้ยยย!! ช่วยเรายื่นขอ OD แบบไม่มีประกันไม่ได้หรอ เราเอาคำถามนี้ไปถามทางสาขาวันรุ่งขึ้น รู้มั้ยย !! เราได้คำตอบว่าอะไร คำตอบประมานเดิมเลยคะ "มันก้อต้องประมานยื่นหมูยื่นแมวเนาะ เพราะถ้าไม่ช่วยทำบัตร WISxxx มันก้อค่อนข้างผ่านยาก เพราะตัวเลขในบัญชีของน้องไม่ดี" เรากับแฟนหันมามองหน้ากัน ถึงเวลานั้นเราก้อเหมือนหมาจนตรอก จำเป็นต้องยอม ทั้งๆที่ในใจยังคิดว่าจะหาตังมาส่งค่าเบี้ยประกันจากไหนปีละมากมายขนาดนี้ แต่เหตุผลที่หนักแน่นของธุรกิจมันก้อบีบบังคับให้เราต้องยอม พอยื่นเรื่องเสร็จ ทำประกันชีวิตได้บัตร WISxxx มาเรียบร้อย เราได้จากเงินจากการขอ OD มา 2 ล้านตามที่ขอไป หลังจากนั้นผ่านมาสามสี่เดือน ลูกค้าเราก้อมีเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจดีขึ้น งานเยอะจนเครื่องจักรที่มีผลิตไม่ทัน เราก้อยังจ่ายดอกเบี้ย OD ทุกเดือนไม่เคยผิดนัดชำระ เราก้อยังมีเข้าไปใช้บริการกับสาขานั้นเป็นปกติ เราลืมบอกก่อนหน้านี้เราได้ 2 ล้านมา เราโดนหักค่าประกันชีวิตไปเลยจ้า 500,000 กว่าบาท เราก้อทำใจ ตอนนั้นใจคิดเพราะหมาจนตรอกอย่างเรา ไม่มีหนทางไหนแล้วนิ งานมันเยอะขึ้นเครื่องจักรที่มีไม่พอ มันก้ออยากได้อีกสักเครื่อง เราเลยไปยื่นขอเพิ่มวงเงิน OD อีกรอบ ปรากฎว่าครั้งนี้ เราก้อยื่นหลักฐานอะไรคล้ายๆเดิม พนักงานก้อรับปากว่าจะช่วยเรื่อง STATEMENT อีก แต่ความหนักแน่นทางสายตาและน้ำเสียงไม่มีเหมือนเดิม เราก้อเริ่มเอะใจละ จะผ่านไหมเนี่ย??? เพราะครั้งนี้ไม่มีอะไรแลกเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจเรื่องยอด
***เวลาผ่านไปเกือนเดือน เราก้อเข้าไปสอบถามเค้าเรื่องผลการอนุมัติ ครั้งแรกพนักงานเค้าก้อบอกกะลังดูเรื่อง STATEMENT เดวจะช่วยหาวิธีเหมือนครั้งแรก สุดท้ายผลก้อออกมาว่าไม่ผ่าน เราก้อถามพนักงานเลยว่าทำไม เค้าบอก STATEMENT ไม่ค่อยสวย เราเลยถามเค้ากลับว่า อ่าววว !! แล้วรับปากดิบดีว่าจะช่วยให้เหมือนครั้งแรกไง คราวนี้เงียบตอบอะไรไม่ได้ บอกแต่ว่าต้องขอโทษจิงๆๆนะคะ/ครับ เราเลยมานั่งคิด จนถึงบางอ้อออ ว่าก่อนหน้านี้เคยโดนรุมขายบัตรพรีเมีxx เป็นประกันเหมือนกัน แต่เราบอกเราไม่ไหว แค่นี้ก้อหาเงินออมเครียดจะตายอยู่แล้ว แต่เงินที่ควรจะได้ อีกห้าแสนกว่าที่เราควรจะได้ตั้งแต่แรก ทำไมไม่สามารถอนุมัติให้ได้ทั้งๆที่มันจะได้ตั้งแต่แรกที่เรายื่นไป หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างที่เราเจอ เรารู้สึกแย่มากอ่ะ เราตั้งคำถามว่าทำไม?????? ไม่มีผลประโยชน์ไม่ช่วยกันเลยหรอ คนเราอ่ะ ถ้ามันมีตัง มันจะไปขอกู้แบงก์ทำไม ทุกวันนี้เครียด อยากจะเอาเงิน 500,000 กว่าที่เสียค่าเบี้ยปีแรกคืนมากกก มาพัฒนาเครื่องจักรต่อ ก้อทำไม่ได้ โทรหาศูนย์ประกีนชีวิต เค้าก้อบอกว่าถ้าเวนคืนตอนนี้ ได้คืนไม่กี่หมื่น เรานี่เข่าแทบทรุดดด ตอนนี้เงินก้อไม่ค่อยมีหมุนเวียน เราจะยื่น OD เพิ่ม ถ้าไม่ทำประกันช่วยยอดพนักงานหนทางได้เงินก้อยากนัก เราควรจะทำไงดีเนี่ยยย ???