บอร์ด กทค. มีมติให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานต้องขอใบอนุญาต กสทช. จ่ายค่าต๋ง 4.75%
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กทค. เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทรูโกรท (TRUEIF) จะต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมตามกฎหมาย โดยมอบให้สำนักงาน กสทช.ทำหนังสือแจ้งให้กองทุนฯ ทราบและปฏิบัติ
ทั้งนี้ กสทช.จะต้องทำหนังสือถึงกองทุนฯ เพื่อแจ้งมติในเรื่องนี้ และให้แจ้งเรื่องบทลงโทษถ้าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติ นอกจากนี้ ได้ให้ กสทช.จัดทำรายงานวิเคราะห์เกี่ยวกับการดำเนินการของกองทุนที่มีอยู่ทั้งหมดให้ที่ประชุม กทค.พิจารณาอีกครั้งเพื่อสร้างความชัดเจน แต่กองทุนทั้งหมดต้องเข้ามาขอใบอนุญาตตามมติของที่ประชุม กทค.
สำหรับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทรูโกรท (TRUEIF) มี บลจ.ไทยพาณิชย์เป็นที่ปรึกษาบริษัทจัดการกองทุน ต้องเข้ามาขอใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ประเภทที่ 3 แบบมีโครงข่ายเป็นของตัวเอง และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมรายปี 2% ค่าธรรมเนียมรายปีเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) ปีละ 2.75% รวมค่าธรรมเนียมรายปี 4.75% เริ่มตั้งแต่ปี 2557
ทั้งนี้ กองทุนถือเป็นผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคม ประเภท 3 เนื่องจากกองทุนได้นำทรัพย์สินโทรคมนาคมออกให้เช่าแก่กลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น และบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จึงต้องขออนุญาต
รายงานข่าวแจ้งว่า กรรมการ กทค.บางคนได้เสนอว่าการทำหนังสือไปยัง บลจ.จะต้องมีมาตรการเชิงรุก คือ ถ้าไม่จ่ายภายในกี่วันจะถูกปรับหรือต้องสอบสวน เพราะก่อนหน้านี้ กสทช.ได้เคยทำหนังสือไปถึงกองทุน เรื่องการจ่ายค่าธรรมเนียมมาแล้ว
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธาน กทค. ชี้แจงว่า มติดังกล่าวเป็นการมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. สอบถามไปยังกองทุนฯ ถึงรูปแบบการประกอบธุรกิจและการดำเนินงานของกองทุนรวมฯ TRUEIF เพราะต้องพิจารณาลักษณะรูปแบบการดำเนินกิจการของกองทุนฯ หากนำเสาไปให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่มีใบอนุญาตเช่าเป็นรูปแบบหนึ่ง แต่หากให้เช่าเสาแก่ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตก็เป็นอีกลักษณะหนึ่ง
แหล่งข่าว โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตามจิกค่าต๋งกองทุนมือถือฯ มติบอร์ด กทค. เก็บทรูโกรท 4.75%
บอร์ด กทค. มีมติให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานต้องขอใบอนุญาต กสทช. จ่ายค่าต๋ง 4.75%
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กทค. เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทรูโกรท (TRUEIF) จะต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมตามกฎหมาย โดยมอบให้สำนักงาน กสทช.ทำหนังสือแจ้งให้กองทุนฯ ทราบและปฏิบัติ
ทั้งนี้ กสทช.จะต้องทำหนังสือถึงกองทุนฯ เพื่อแจ้งมติในเรื่องนี้ และให้แจ้งเรื่องบทลงโทษถ้าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติ นอกจากนี้ ได้ให้ กสทช.จัดทำรายงานวิเคราะห์เกี่ยวกับการดำเนินการของกองทุนที่มีอยู่ทั้งหมดให้ที่ประชุม กทค.พิจารณาอีกครั้งเพื่อสร้างความชัดเจน แต่กองทุนทั้งหมดต้องเข้ามาขอใบอนุญาตตามมติของที่ประชุม กทค.
สำหรับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทรูโกรท (TRUEIF) มี บลจ.ไทยพาณิชย์เป็นที่ปรึกษาบริษัทจัดการกองทุน ต้องเข้ามาขอใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ประเภทที่ 3 แบบมีโครงข่ายเป็นของตัวเอง และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมรายปี 2% ค่าธรรมเนียมรายปีเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) ปีละ 2.75% รวมค่าธรรมเนียมรายปี 4.75% เริ่มตั้งแต่ปี 2557
ทั้งนี้ กองทุนถือเป็นผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคม ประเภท 3 เนื่องจากกองทุนได้นำทรัพย์สินโทรคมนาคมออกให้เช่าแก่กลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น และบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จึงต้องขออนุญาต
รายงานข่าวแจ้งว่า กรรมการ กทค.บางคนได้เสนอว่าการทำหนังสือไปยัง บลจ.จะต้องมีมาตรการเชิงรุก คือ ถ้าไม่จ่ายภายในกี่วันจะถูกปรับหรือต้องสอบสวน เพราะก่อนหน้านี้ กสทช.ได้เคยทำหนังสือไปถึงกองทุน เรื่องการจ่ายค่าธรรมเนียมมาแล้ว
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธาน กทค. ชี้แจงว่า มติดังกล่าวเป็นการมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. สอบถามไปยังกองทุนฯ ถึงรูปแบบการประกอบธุรกิจและการดำเนินงานของกองทุนรวมฯ TRUEIF เพราะต้องพิจารณาลักษณะรูปแบบการดำเนินกิจการของกองทุนฯ หากนำเสาไปให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่มีใบอนุญาตเช่าเป็นรูปแบบหนึ่ง แต่หากให้เช่าเสาแก่ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตก็เป็นอีกลักษณะหนึ่ง
แหล่งข่าว โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้