ทาสแม้วดิ้นหนัก.....เปิด “PEACE TV” ออนไลน์ "นปช.” ไม่หยุดท้าชน “คสช." (โจ ขิง)

กระทู้คำถาม
คำเตือน ก่อนอ่าน.....เนื้อหาเกิน 3 บรรทัด  คนเสื้อแดงโปรดอ่านให้จบก่อนเม้นท์



รายงานการเมือง
      
       แม้ช่อง PEACE TV สถานีโทรทัศน์เพื่อคนเสื้อแดง เพื่อประโยชน์ของพรรคเพื่อไทย ที่มีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช. มากหน้าหลายตาคอยสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นกล่อมมวลชนคนเสื้อแดง ให้อยู่ในคาถา จะโดนลงดาบจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. สั่งเพิกถอนใบอนุญาต
      
       แต่แกนนำนปช.อย่าง “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ลดละยกธงขาวยอมแพ้ง่ายๆ พยายามหาช่องทางมานั่งหน้าสลอนออกทีวี เพราะรู้ว่าหากเสียพื้นที่หน้าจอไป ช่องทางการสื่อสารกับมวลชนคนเสื้อแดงจะน้อยลงทันที
      
       เพราะอีกทางหนึ่งชัดเจนแล้วว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งขีดเส้นไม่ให้นักการเมืองลงพื้นที่พบปะกับประชาชน ปิดประตูนักกาเมือง-นักเคลื่อนไหวค่ายแดง บางส่วนที่แอบใช้ช่วงจังหวะที่คสช. เผลอลงพื้นที่พบประชาชนบ่อยครั้ง
      
       โดยเฉพาะ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่อาศัยช่วงเสือหลับเดินสายเป็นว่าเล่นทั้งพื้นที่ภาคอีสาน-เหนือ-กลาง สั่งสมกำลังเครือข่ายไว้แน่นปึ้ก หวังส่งตัวเองขึ้นเป็น “นอมินี” ของ นช.แม้ว ในการศึกชิงอำนาจครั้งหน้า
      
       เมื่อแกนนำนปช.ลงพื้นที่ไม่ได้ แถม PEACE TV ถูกปิด ทีมงานนปช.จึงต้องถอยมาตั้งหลักกันใหม่ เพื่อคิดกลอุบายหาช่องทางสื่อสารกับมวลชนให้ได้ โดยไม่เดือดร้อนช่องทางสื่อสารหลักช่องทางอื่น
      
       มีบางคนเสนอให้แกนนำนปช.ไปใช้พื้นที่ของช่อง TV 24 แต่คิดคาดการณ์กันว่าอาจจะโดน กสทช. มาลงดาบเพิกถอนใบอนุญาตอีก เพราะเมื่อไมโครโฟนจ่อปากไม่มีอะไรมาควบคุมหรือสั่งการให้ แกนนำนปช.พูดเหน็บแนม คสช. หรือพูดปลุกระดมมวลชนได้ ขึ้นชื่อว่าแกนนำนปช.ปากพาซวยเกือบทุกคน
      
       หากใช้ TV 24 เป็นช่องทางการสื่อสารใหม่ มีหวังซวยซ้ำซวยซ้อน โดนเพิกถอนใบอนุญาตขึ้นมา จะเสียพันธมิตรสถานีเครือข่าย ที่แม้จะไม่มีพาว์เวอร์มากพอ แต่ก็พอถูๆไถๆไปได้ เรียกแขกได้ในบางจังหวะเวลา
      
       แนวคิดยึดฐานที่มั่น TV 24 จึงต้องล้มพับกลับไป เพราะดีดลูกคิดคำนวณกันถี่ถ้วยทบต้นทบดอกแล้วไม่คุ้มค่า
      
       ทำให้แกนนำนปช.ต้องนำมุกใหม่มาใช้ โดยการถ่ายทอดสดช่อง PEACE TV ผ่านทาง ยูทูบ เพราะเชื่อว่าปลอดภัยจากการโดน คสช. ตรวจสอบ และการสั่งปิด ยูทูบ ไม่สามารถกระทำได้โดยง่าย เนื่องจากมีเงื่อนไขอยู่มากมาย
      
       เริ่มที่ “ตุ๊ดตู่” จะเป็นคนประเดิมออกมาจ่อหน้าจอคนแรก กับรายการมองไกล ทุกวันเวลา 19.00-20.00 น. และหลังจากนั้นแกนนำนปช.คนอื่นจะทยอยออกมาเสนอหน้าตามหน้าจอในช่วงเวลาอื่นสลับสับเปลี่ยนกันไป ต่างคนต่างมีรายการของตัวเอง แต่เนื้อหายังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรผิดเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะยังมีความคิดแบบเดิมๆ ไม่มีอะไรก้าวหน้าไปมากกว่านี้
      
       แต่ที่น่ากลัวคือมีแรงเชียร์จากเครือข่ายแดง ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศให้ แกนนำนปช. ใช้ช่องทาง PEACE TV ออนไลน์ เพราะสามารถสื่อสารกับคนเสื้อแดงในต่างแดนได้อีกทางหนึ่ง
      
       ดูเหมือนว่าแม้ คสช. จะบีบ-ขอความร่วมมืออย่างไรแกนนำนปช.ยังคงดื้อไม่ยอมให้เกิดความสงบสุขของประเทศโดยง่าย หาช่องทางที่จะเคลื่อนไหว เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองตลอดเวลา
      
       กระนั้นแกนนำนปช.ที่ไปใช้ช่องทาง ยูทูบ ก็อย่าคิดว่า คสช. จะปล่อยให้พวกผีเจาะปากได้จ้อกล่อมมวลชนได้โดยง่าย ทีมงานที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของแกนนำนปช.ยังคงเกาะติดไม่หยุดหย่อนแน่นอน เพราะถ้าหย่อนยานเมื่อไร อาจจะโดนแว้งกัดได้ทันที
      
       หน่วยติดตามของคสช. รวมถึงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ต้องทำงานมอนิเตอร์ช่องทางสื่อสารของมวลชนคนเสื้อแดงอย่างหนักเพิ่มมากขึ้น เพราะเนื้อหาที่จะพูดหนีไม่พ้นการโจมตีการทำงานของ “บิ๊กตู่” อยู่แล้ว
      
       ดังนั้นจึงต้องหาช่องทางมาบล็อคไม่ให้แกนนำนปช.เคลื่อนไหวผ่านโซเชียลได้อย่างไร้การควบคุม เพราะจะส่งผลเสียต่อ คสช.-รัฐบาล เอง ทางหนึ่ง “ไอซีที” ต้องหามาตรการไว้เล่นงานเมื่อแกนนำนปช.ทำผิดเงื่อนไขของ ยูทูบ
      
       ซึ่งในกฏของ ยูทู๊บ มีระบุไว้ค่อนข้างชัดเจนว่าเงื่อนไขใดบ้างที่จะถือเป็นการทำผิดกฎ จนอาจจะโดนลบหรือสั่งห้ามใช้ช่องทางของ ยูทู๊บ มาถ่ายทอดสดได้ เช่น การเสนอเนื้อหาความเกลียดชัง การข่มขู่ เป็นต้น
      
       งานนี้ดูกันไปไม่ต้องนานมาก ผ่านไปสักเทป-สองเทป มีหวังแกนนำนปช.อดรนทนไม่ได้พูดส่งเสริมความเกลียดชัง-ข่มขู่ฝั่งตรงข้าม ออกมาให้เห็นแน่ อยู่ที่ว่า “ไอซีที” จะจับจุดไปเล่นงานได้หรือไม่ “ไอซีที” จะเขี้ยวพอหรือเต็มใจทำตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ รอพิสูจน์กันในไม่ช้า
      
       เพราะมีข่าวลือหนาหูว่าการเมืองภายใน “ไอซที” ยังคงแรงอยู่ไม่ใช่เล่น ลูกน้องเก่าของ “อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” อดีตรัฐมนตรีไอซที ยังคงทำงานลับให้ “นายเก่า” อยู่หลายครั้ง รับจ็อบสืบข่าวลับผ่านเว็บไซต์ให้อยู่ก็หลายที
      
       งานนี้รอพิสูจน์ฝีมือของคน “ไอซีที” อย่ากระพริบตา ดีไม่ดีไม่โยกย้ายนอกฤดูให้เห็นกันอีก
      
       เห็นได้ว่าแกนนำนปช.ไม่ยอมหยุดที่จะเคลื่อนไหว เพราะโลกปัจจุบันมีช่องทางการสื่อสารมากมายที่สามารถเปิดออกมาได้ถ้ามีเงิน ดังนั้นหาก คสช. จะขุดรากถอนโคนคนเสื้อแดง และไม่ให้แกนนำนปช.ออกมาเคลื่อนไหวจริงๆ คงต้องไล่บี้บรรดาท่อน้ำเลี้ยงให้สิ้นซาก
      
       ท่อน้ำเลี้ยงที่แกนนำนปช.ใช้เป็นถิ่นฐานอย่าง เจ้าของห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว “สงคราม กิจเลิศไพโรจน์” แม้ระยะหลังจะทำตัวโลว์โปรไฟล์ แต่ในฐานะเจ้าของรังแดงก็มีส่วนสนับสนุนเงินทุนไม่น้อย ผนวกกับบรรดาเจ้าของธุรกิจมือที่ทำกันโจ๋งครึ่มในช่วงรัฐบาลปูแดง ซึ่งคสช.เองรู้ดีว่ามีใครอยู่ในลิสต์รายชื่อบ้าง
      
       ดังนั้นสิ่งที่จะเป็นพิษภัยต่อตัวเองคสช. ควรขจัดเสี้ยนหนามที่ขวางทางการปฏิรูปประเทศออกไป เพื่อไม่ให้กลับมาทิ่มแทงตัวเองในภายหลัง
      
       บทเรียนจากการรัฐประหาร 2549 ที่ทิ้งแผลไว้สุดท้ายแผลก็ขยายนำมาสู้ความขัดแย้งอย่างกว้างขวาง หากคสช. ไม่ต้องการให้การรัฐประหารเสียของที่โอ้อวดสรรพคุณไว้ บางทีการใช้ไม้กระบองเฆี่ยนแรงๆพวกที่ไม่เชื่อฟังก็อาจจะทำให้ประเทศสงบสุขขึ้นมาได้
      
       เมื่อทางรอดทางเดียวของแกนนำนปช.-นช.แม้ว-พรรคเพื่อไทย คือการพิงหลังประชาชน จึงไม่ยอมปล่อยให้กระแสของตัวเองตกลงหรือลดน้อยลง ตามความตั้งใจของ “คสช.” หมากเกมนี้จึงต้องสู้กันหนัก ไม่มีใครยอมลดละอย่างแน่นอน
      
       ยิ่งเวลาของ คสช. เหลือน้อยลงเท่าไร แกนนำนปช. ยิ่งต้องเคลื่อนไหวให้หนักขึ้นเท่านั้น เพื่อสะสม มวลชน ไว้เป็นฐานเสียงในการเลือกตั้ง หรือหลอกใช้ มวลชน มาต่อสู้จนต้องบาดเจ็บล้มตายกันอีกในอนาคต

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000053845

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่