สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ตามความคิดเห็นที่ 10 เลยค่ะ แต่ขอขยายความเพิ่มเติม
ปกติแล้วในพื้นที่แถบเขตร้อนอย่างบ้านเรา ตอนบนของชั้นบรรยากาศที่เรียกว่า Tropopause มีอุณหภูมิต่ำมากๆ ค่ะ อากาศในบรรยากาศชั้นนี้ยิ่งสูงยิ่งหนาว ดังนั้นก้อนเมฆที่เกิดในพายุที่ก่อตัวก็สามารถก่อขึ้นไปได้สูงๆ และเจอสภาพแวดล้อมที่หนาวเหน็บ ตั้งแต่ต่ำกว่า 0 ไปจน -40 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่า ไอน้ำและหยดน้ำก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง (glaciate จนกลายเป็น ice nuclei)
ทีนี้เมฆที่ก่อตัวไปจนสูงใหญ่ จนฝนตก ถ้ามีน้ำแข็ง (ice nuclei) อยู่ด้านบน น้ำแข็งก็จะตกลงมา แต่กว่าจะถึงพื้นมันก็ละลายไปแล้วเมื่อเจออากาศใกล้พื้นดินที่ร้อนแสนร้อน แต่ในกรณีที่เกิดลูกเห็บ มีลมที่พัดตีขึ้น (updrafts) ที่แรง ทำให้น้ำแข็งที่โตพอจนเริ่มตกลงมา ลอยอยู่ในอากาศได้นานพอ ประกอบกับตกลงมาเจอหยดน้ำที่ตอนกลางของก้อนเมฆที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาแต่ยังไม่แข็งเป็นน้ำแข็ง (supercooled water) พอมันชนกัน น้ำที่เย็นจัดก็เกาะก้อนน้ำแข็ง แล้วก็เกิดการเยือกแข็ง และเกาะติดก้อนน้ำแข็งก้อนหลักไปเรื่อยๆ (เรียกว่า riming หรือ accretion) ถ้าอยู่ในอากาศได้นานพอก็จะเกิดเป็นลูกเห็บค่ะ
ดังนั้น สรุปแล้วลูกเห็บเกิดได้ในฤดูร้อนเพราะ
(๑) ก้อนเมฆด้านบนยังไงมันก็หนาวมากๆ
(๒) อากาศพื้นผิวร้อนและชื้นมากพอให้เมฆใหญ่ก่อตัวสูงจนมีหยดน้ำเกิดขึ้น และมีก้อนน้ำแข็งในส่วนข้างบนๆ
(๓) ก้อนน้ำแข็งที่เกิดขึ้นตกลงมา และถูกลมตีขึ้นให้อยู่ในอากาศได้นานพอ ยังไม่ละลายกลายเป็นน้ำฝน
(๔) ก้อนน้ำแข็งไปชนกับหยดน้ำ supercooled water แล้วน้ำก็กลายเป็นน้ำแข็ง เกาะก้อนน้ำแข็งหลัก น้ำแข็งก็งอกขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ
(๕) มันหนักแล้ว อากาศตีขึ้นไม่ไหวแล้ว (ฝืนแรงเสียดทานไม่ไหว) ก็ตกลงมาค่ะ ตกมาเร็วพอที่น้ำแข็งยังไม่ละลาย ก็เลยเห็นเป็นลูกเห็บบนพื้นดิน
ปกติแล้วในพื้นที่แถบเขตร้อนอย่างบ้านเรา ตอนบนของชั้นบรรยากาศที่เรียกว่า Tropopause มีอุณหภูมิต่ำมากๆ ค่ะ อากาศในบรรยากาศชั้นนี้ยิ่งสูงยิ่งหนาว ดังนั้นก้อนเมฆที่เกิดในพายุที่ก่อตัวก็สามารถก่อขึ้นไปได้สูงๆ และเจอสภาพแวดล้อมที่หนาวเหน็บ ตั้งแต่ต่ำกว่า 0 ไปจน -40 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่า ไอน้ำและหยดน้ำก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง (glaciate จนกลายเป็น ice nuclei)
ทีนี้เมฆที่ก่อตัวไปจนสูงใหญ่ จนฝนตก ถ้ามีน้ำแข็ง (ice nuclei) อยู่ด้านบน น้ำแข็งก็จะตกลงมา แต่กว่าจะถึงพื้นมันก็ละลายไปแล้วเมื่อเจออากาศใกล้พื้นดินที่ร้อนแสนร้อน แต่ในกรณีที่เกิดลูกเห็บ มีลมที่พัดตีขึ้น (updrafts) ที่แรง ทำให้น้ำแข็งที่โตพอจนเริ่มตกลงมา ลอยอยู่ในอากาศได้นานพอ ประกอบกับตกลงมาเจอหยดน้ำที่ตอนกลางของก้อนเมฆที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาแต่ยังไม่แข็งเป็นน้ำแข็ง (supercooled water) พอมันชนกัน น้ำที่เย็นจัดก็เกาะก้อนน้ำแข็ง แล้วก็เกิดการเยือกแข็ง และเกาะติดก้อนน้ำแข็งก้อนหลักไปเรื่อยๆ (เรียกว่า riming หรือ accretion) ถ้าอยู่ในอากาศได้นานพอก็จะเกิดเป็นลูกเห็บค่ะ
ดังนั้น สรุปแล้วลูกเห็บเกิดได้ในฤดูร้อนเพราะ
(๑) ก้อนเมฆด้านบนยังไงมันก็หนาวมากๆ
(๒) อากาศพื้นผิวร้อนและชื้นมากพอให้เมฆใหญ่ก่อตัวสูงจนมีหยดน้ำเกิดขึ้น และมีก้อนน้ำแข็งในส่วนข้างบนๆ
(๓) ก้อนน้ำแข็งที่เกิดขึ้นตกลงมา และถูกลมตีขึ้นให้อยู่ในอากาศได้นานพอ ยังไม่ละลายกลายเป็นน้ำฝน
(๔) ก้อนน้ำแข็งไปชนกับหยดน้ำ supercooled water แล้วน้ำก็กลายเป็นน้ำแข็ง เกาะก้อนน้ำแข็งหลัก น้ำแข็งก็งอกขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ
(๕) มันหนักแล้ว อากาศตีขึ้นไม่ไหวแล้ว (ฝืนแรงเสียดทานไม่ไหว) ก็ตกลงมาค่ะ ตกมาเร็วพอที่น้ำแข็งยังไม่ละลาย ก็เลยเห็นเป็นลูกเห็บบนพื้นดิน
แสดงความคิดเห็น
ทำไม ลูกเห็บ ที่เป็นก้อนน้ำแข็ง สามารถเกิดในประเทศเขตร้อน ในช่วงหน้าร้อนครับ แล้วมันไม่ละลาย ระหว่างที่กำลังตกลงมาเหรอ ?
ทำไม ลูกเห็บที่เป็นน้ำแข็ง ถึงเกิดขึ้นพร้อมๆกับพายุฤดูร้อน แล้วเกิดในหน้าร้อน ของประเทศเขตร้อนได้ครับ ขอบคุณครับ
ลูกเห็บที่ภูเรือ เมื่อปีที่แล้ว ตกมาขาวโพลนอย่างกับหิมะ แล้วกว่าจะละลายก็นาน ทั้งๆที่อากาศร้อน
ล่าสุดตกที่กรุงเทพ แถวๆรัฐสภา แต่ขนาดเล็กหน่อยแค่นิ้วก้อยเท่านั้น