เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ด้านหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม พร้อมพวกรวม 5 คน
ได้มายืนถือป้ายพร้อมกับยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้รัฐบาลช่วยเร่งดำเนินการออกกฎหมายควบคุมการค้าปลีกและกฏหมายการแข่งขันทางการค้ากรณีร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลิฟเว่น ขยายสาขาและขายสินค้าและบริการโดยใช้อำนาจเหนือตลาดแย่งอาชีพประชาชนหรือไม่
เช่น จำหน่ายไข่ต้ม ข้าวโพดต้ม หมูปิ้ง กาแฟสด บริการซักอบรีดฯ และขายยาโดยไม่มีเภสัชกร เอารัดเอาเปรียบคู่ค้าและเพื่อนร่วมธุรกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญให้ร.อ.ทรงกลด และคณะเข้าไปยื่นหนังสือภายในศูนย์บริการประชาชน (ฝั่งสำนักงานก.พ.) ผ่านนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน โดยนายสุขสวัสดิ์ฯ ได้รับเรื่องไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
------------------------------------------------------------
ในความเห็นของผมในฐานะที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ 7-11 เลย จึงอยากให้คณะท่านประยุทธ์ว่า ในกรณีดังกล่าว เช่น จำหน่ายไข่ต้ม ข้าวโพดต้ม หมูปิ้ง กาแฟสด ถ้า 7-11 ขายในราคาเดียวกันกับผู้ค้าทั่วไปก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับท่าน แต่ถ้าเป็นการเอารัดเอาเปรียบผมมองว่าไม่ถูกครับ เพราะผู้ค้ารายย่ายไม่ได้มานั่งขายตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ ฉะนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบ และที่สำคัญคนเดินทางกลางค่ำกลางคืนเวลาเค้าหิวเค้าก็ต้องเข้าร้านสะดวกซื้อไว้ก่อน จะรอผู้ค้าทั่วไปจนถึงเช้าหรือครับ
บริการซักอบรีดฯ ในข้อนี้ก็เช่นกันครับว่า 7-11 ก็คงจะทำไปตามสถานะการณ์และธุรกิจ เพราะถ้าผู้ค้าทั่วไปดูแลลูกค้าได้ดีพอก็คงไม่มีใครมาใช้บริการของ 7-11 หรอกครับ
ขายยาโดยไม่มีเภสัชกร ตรงนี้ให้เรามองจุดประสงค์ครับว่าเพื่ออะไร การที่ 7-11 ขายยาโดยไม่มีเภสัชกร ต้องถามว่ายาที่ 7-11 นำมาขายนั้นเป็นยาต้องห้ามหรือต้องจำเป็นต้องมีเภสัชกรดูแลหรือไม่ เช่นยาลดไข ยาล้างแผล ซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านซึ่งผู้คนทั่วไปรู้จักวิธีใช้อยู่แล้วมันก็เป็นธุรกิจที่ 7-11 ย่อมพึงสามารถกระทำได้ สมมุตินะว่ามีคนหกล้มหัวล้างข้างแตกกลางค่ำกลางคืนขึ้นมาแล้วแผลมันก็ไม่ใหญ่ถึงขั้นกับหามไปโรงพยาบาล เขาก็ต้องเลือกทางฉุกเฉินที่สามารถเข้าถึงได้เร็วที่สุด และก็หนีไม่พ้นร้านค้าปลีกอย่าง 7-11
ผู้กองปูเค็ม" ร.อ.ทรงกลด ยื่นนายกฯให้เร่งออกกฎหมายคุมค้าปลีก ระบุ "เซเว่น-อีเลิฟเว่น"
ได้มายืนถือป้ายพร้อมกับยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้รัฐบาลช่วยเร่งดำเนินการออกกฎหมายควบคุมการค้าปลีกและกฏหมายการแข่งขันทางการค้ากรณีร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลิฟเว่น ขยายสาขาและขายสินค้าและบริการโดยใช้อำนาจเหนือตลาดแย่งอาชีพประชาชนหรือไม่
เช่น จำหน่ายไข่ต้ม ข้าวโพดต้ม หมูปิ้ง กาแฟสด บริการซักอบรีดฯ และขายยาโดยไม่มีเภสัชกร เอารัดเอาเปรียบคู่ค้าและเพื่อนร่วมธุรกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญให้ร.อ.ทรงกลด และคณะเข้าไปยื่นหนังสือภายในศูนย์บริการประชาชน (ฝั่งสำนักงานก.พ.) ผ่านนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน โดยนายสุขสวัสดิ์ฯ ได้รับเรื่องไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
------------------------------------------------------------
ในความเห็นของผมในฐานะที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ 7-11 เลย จึงอยากให้คณะท่านประยุทธ์ว่า ในกรณีดังกล่าว เช่น จำหน่ายไข่ต้ม ข้าวโพดต้ม หมูปิ้ง กาแฟสด ถ้า 7-11 ขายในราคาเดียวกันกับผู้ค้าทั่วไปก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับท่าน แต่ถ้าเป็นการเอารัดเอาเปรียบผมมองว่าไม่ถูกครับ เพราะผู้ค้ารายย่ายไม่ได้มานั่งขายตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ ฉะนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบ และที่สำคัญคนเดินทางกลางค่ำกลางคืนเวลาเค้าหิวเค้าก็ต้องเข้าร้านสะดวกซื้อไว้ก่อน จะรอผู้ค้าทั่วไปจนถึงเช้าหรือครับ
บริการซักอบรีดฯ ในข้อนี้ก็เช่นกันครับว่า 7-11 ก็คงจะทำไปตามสถานะการณ์และธุรกิจ เพราะถ้าผู้ค้าทั่วไปดูแลลูกค้าได้ดีพอก็คงไม่มีใครมาใช้บริการของ 7-11 หรอกครับ
ขายยาโดยไม่มีเภสัชกร ตรงนี้ให้เรามองจุดประสงค์ครับว่าเพื่ออะไร การที่ 7-11 ขายยาโดยไม่มีเภสัชกร ต้องถามว่ายาที่ 7-11 นำมาขายนั้นเป็นยาต้องห้ามหรือต้องจำเป็นต้องมีเภสัชกรดูแลหรือไม่ เช่นยาลดไข ยาล้างแผล ซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านซึ่งผู้คนทั่วไปรู้จักวิธีใช้อยู่แล้วมันก็เป็นธุรกิจที่ 7-11 ย่อมพึงสามารถกระทำได้ สมมุตินะว่ามีคนหกล้มหัวล้างข้างแตกกลางค่ำกลางคืนขึ้นมาแล้วแผลมันก็ไม่ใหญ่ถึงขั้นกับหามไปโรงพยาบาล เขาก็ต้องเลือกทางฉุกเฉินที่สามารถเข้าถึงได้เร็วที่สุด และก็หนีไม่พ้นร้านค้าปลีกอย่าง 7-11