พวกเขาคงคิดว่า คนส่วนใหญ่ อยู่แต่ในกะลากระมังครับ---------------ทวดเอง

จึงมองไม่เห็น พวกเขาใช้คู่กรณีมาสอบสวนสืบสวนจำเลยอย่างไม่เป็นธรรม

จึงมองไม่เห็น พวกเขาแก้กฎหมายเพื่อเอาผิดฝ่ายตรงข้ามย้อนหลัง

จึงมองไม่เห็น พวกเขาใช้ดุลยพินิจแทนกฎหมายในการวินิจฉัยคดีคนอีกฝ่าย

จึงมองไม่เห็น คนตายกลางราชประสงค์ไม่มีทั้งชายชุดดำ ไม่มีทั้งอาวุธ

จึงมองไม่เห็น ความรวดเร็วกับความล่าช้าระหว่างคดีของคนสองฝ่าย

จึงมองไม่เห็น การปราบปรามทุจริต มักจะปราบอยู่ข้างเดียว

จึงมองไม่เห็น การคอรัปชั่นมีกันทุกวงการ ไม่ใช่มีแต่นักการเมืองเท่านั้น

จึงมองไม่เห็น ความขัดแย้งของคนในชาติ เกิดจากการไม่เคารพกติกา

จึงมองไม่เห็น ความแตกแยกของสังคม เกิดจากการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน

จึงมองไม่เห็น ความวิกฤติของประเทศ เกิดจากการร่วมมือของกระบวนการแย่งชิงอำนาจ

จึงมองไม่เห็น คนร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนใหญ่มาจากพวกไม่ศรัทธาประชาธิปไตย

จึงมองไม่เห็น องค์กรอิสระต่างๆ ล้วนแต่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเสียงส่วนใหญ่

จึงมองไม่เห็น องค์กรอิสระต่างๆ กระทำการใดๆโดยไม่แคร์ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่

จึงมองไม่เห็น คนทำงานการเมืองในเวลานี้ ส่วนใหญ่ไม่เคยผ่านการเลือกตั้ง

จึงมองไม่เห็น นักลากตั้งไม่ได้ดีไปกว่านักเลือกตั้ง

จึงมองไม่เห็น รัฐธรรมนูญใหม่ร่างขึ้น เพื่อจำกัดสิทธิของพลเมือง

จึงมองไม่เห็น การร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้โจทย์ที่พรรคหนึ่งไม่มีปัญญาชนะอีกพรรคหนึ่งได้

จึงมองไม่เห็น นานาชาติที่เจริญแล้ว มองประเทศไทยเป็นอย่างไร

จึงมองไม่เห็น เศรษฐกิจไทยดีขึ้นหรือแย่ลง

จึงมองไม่เห็น ประชานิยมไม่ได้ใช้อยู่แค่พรรคๆเดียว

จึงมองไม่เห็น คนที่มาจากการเลือกตั้ง ตรวจสอบยาก แต่เลือกใหม่ได้

จึงมองไม่เห็น คนพวกเดียวกัน แต่แบ่งกันเล่นคนละบท

จึงมองไม่เห็น รัฐบาลในอนาคตยากที่จะบริหารประเทศได้

และสุดท้ายพวกเขาคงคิดว่า คนส่วนใหญ่ทั้งไม่เห็น ทั้งไม่รู้ และทั้งคิดไม่เป็นกระมัง จีงไม่รู้ว่าพวกไหนกันแน่ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา