สัปดาห์ที่ 2 ผ่านไปแล้วสำหรับ Love Sick The Series Season 2 ที่ตอนนี้ดำเนินเรื่องมาถึง Episode 4 พร้อมด้วยกระแส "กร่นด่า" ทะลักโลกโซเชียลในประเด็นที่ว่า "นี่ Love Sick หรือ One Piece" (คือมันออกทะเลไปแล้วนั่นเอง) ประกอบกับความคาดหวังที่ผู้ชมส่วนหนึ่งที่อ่านนิยายมาก่อนคาดหวังแล้วผิดหวังไป ในการจะได้เห็นการนำเสนอฉาก Epic ต่างๆ ที่มัน "ควร" จะออกมาดีและฟินกว่านี้ แต่ตัวซีรีส์กลับทำไม่ถึง ฯลฯ

ทั้งหมดที่ได้เห็นจากบรรดาผู้ชมในรอบ 2 สัปดาห์มานี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณอันตรายที่ผู้เกี่ยวข้องควรรับรู้และนำไปปรับปรุง

อย่างไรก็ตามอย่างที่ผมเคยบอก (และรีวิว) รวมถึงตอบไปในหลายๆ กระทู้เกี่ยวกับ Love Sick ว่า "อย่าเพิ่งตัดสินโดยเหมาภาพรวมของทั้งหมดเพียงแค่คุณดูไปแค่ 2-3 ตอน" เพราะถ้าทำแบบนั้นถือว่าไม่แฟร์ สิ่งที่เราควรทำคือไล่วิจารณ์เป็นตอนๆ ไปก่อน (แน่นอนว่าถึงมันจะเลวร้ายแต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เรามองซีรีส์เรื่องนี้ด้วยความเป็นธรรม) และสุดท้ายค่อยมาสรุปอีกทีว่า "ผ่าน" หรือ "ไม่ผ่าน" เมื่อซีรีส์ฉายจบซีซั่น

เข้าเรื่อง
สำหรับวันนี้ผมจะมารีวิวเฉพาะ Episode 4 ละกัน สดๆ ร้อนๆ ที่ได้ดูมาก็ต้องขอบอกว่า ทำได้ดีขึ้นมากกว่าที่ผ่านมา (ส่วนตัว) ผมมองว่าตอนนี้สนุกมากๆ เลยนะ ดูไปยิ้มไป หัวเราะไป มันเป็น EP ที่ดีมากถ้าเทียบกับ EP3 และโคตรของโคตรดีเมื่อเทียบกับ EP2 ถ้าให้ผมให้คะแนนหรือเรียงลำดับความดีงามในบรรดา 4 ตอนของซีซั่น 2 ที่ฉายมาผมจะเรียงดังนี้
- Grade B : EP 4 (ตัดต่อเริ่มดีขึ้นนิดหน่อย การแสดง การผูกเรื่องย่อยของตัวละครต่างๆ ความพอดี ฯลฯ อยู่ในเกณฑ์เริ่มรับได้แล้ว)
- Grade C+ : EP 1 (เปิดเรื่องมาไม่มีอะไรมาก แสงฟรุ๊งฟริ๊งไป ไม่มีอะไรน่าจดจำ)
- Grade C : EP 3 (จะดีมากๆๆๆๆ ถ้าตัดฉากมโนล้านแปดที่ทำให้โน่ของพวกเรากลายเป็นเกย์สาวเพิ่งค้นพบตัวเอง ใส่มาทำไม!!!!)
- Grade F : EP 2 (โปรดลืมไปซะว่านั่นคืองานบอลสุดอลังการ .... สาธุ)

กลับมาที่ EP 4

แม้เรื่องราวใน EP 4 จะไม่ฟินชวนจิกหมอนเหมือน EP 3 แต่การเกลี่ยบทและการตัดต่อกลับทำได้ดีกว่าที่แล้วๆ มาอย่างไม่น่าเชื่อ (แม้สุดท้ายน้องจี๊ดผู้น่าหมั่นไส้จะได้ถ้วยแย่งซีนไปครองอีกหนึ่งสัปดาห์ก็ตาม) มีการเริ่มปมให้ยูริเริ่มสงสัยในความแมน/ไม่แมนของโน่ในตอนนี้แล้ว รวมถึงมีการนำนิสัยสุดแบ๊วของยูริมาขยายเพื่อให้เกิดเป็นเรื่องราวขึ้นมา (แม้อีฉากปลอมตัวเป็นผู้ปกครองจะดูสิ้นคิดไปหน่อยก็ตาม ..... คือพวกหล่อนไม่เรียนหนังสือหนังหากันหรือไงถึงวางมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้) และที่สำคัญฉากที่ปุณณ์และเอิ้น (ไวท์กับเงิน) พากันมามอบแท็กเหล็กแทนใจแก่โน่นั้นก็ชวนให้คิดว่านี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ความขัดแย้งจนกลายเป็น Civil War เดี๋ยวๆๆๆๆ ไม่ใช่ ..... กลายเป็นสองเพื่อนรักต้องมามองหน้ากันไม่ติดเพราะมาแย่งเคะคนเดียวกันนั่นเอง (สวยมากโน่) ซึ่งตรงนี้ผมลุ้นและชอบที่ซีซั่นนี้เราจะได้เห็นการตีความเอิ้นไปในแนวทางที่เริ่ม aggressive ต่อปุณณ์มากขึ้น จากเดิมที่ในนิยายจะให้เอิ้นเป็นพ่อพระที่แสนดีกินน้ำใบบัวบกแก้ช้ำรักไป และเมื่อยิ่งเห็นปุณณ์กับเอิ้นในฉากปะทะกันด้วยสายตาและท่าทาง ก็ต้องบอกว่า "เล่นดี" ทั้งคู่ ทำให้ผมเชื่อว่าไวท์เป็นปุณณ์ที่หวงโน่จริง และเงินก็เป็นเอิ้นที่พยายามจะแสดงทีท่าว่าจะไม่ยอมและพยายามทำคะแนนกับโน่ (กัปตัน) เช่นกัน

ทางด้านคนอื่นๆ ต้องขอชมเลยว่า EP 4 นี้แสดงได้ดี (กว่าเดิม) มาก ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเพื่อนชายที่ดูแล้วได้อารมณ์แมนๆ ทะลึ่งตึงตังคุยกันจริงๆ หรือเพื่อนหญิงที่แสดงออกมาถึงตัวตนของการเป็นวัยช่างเม้า ขี้อิจฉาและน่าหมั่นไส้ระคนกันไป แม้จะมีบ้างที่บางฉากไม่สมเหตุสมผลแต่พอมาหักลบกับด้านอื่นๆ ที่ชมไปแล้วนั้นต้องบอกเลยว่า "ผมมองข้ามมันไป"

เอาล่ะ สรุปเลยละกัน

ข้อดี
- นักแสดงทุกคนเล่นดีขึ้น เป็นธรรมชาติขึ้นกว่าที่ผ่านมาเยอะ
- ทุกฉากทุกซีนของทุกตัวละครที่ใส่เข้ามาล้วนมีที่มาที่ไปและคาดว่ามันจะส่งผลต่อไปยัง EP ต่อๆ ไปแน่

ข้อเสีย
- การทำให้โน่กลายเป็นเกย์สาวขึ้นไปทุกวันๆ (ฉากมโนคือสิ่งที่ควรเอาออกไปซะ!!)
- จากข้อข้างบน ดูเหมือนว่าซีซั่นนี้ผมจะไม่สามารถมองโน่แมนเต็มร้อยได้อีกต่อไป คือถ้าเทียบกับซีซั่นก่อน และสมมติผมเป็นหนึ่งในแก๊งเพื่อนโน่ ผมจะมองว่าไอ้โน่นี่แมนแท้นะ ดูทะลึ่งตึงตัง กวนตีนกับเพื่อนดี แต่พอมาซีซั่นนี้ผมจะกล้าฟันธงเลยว่าไอ้โน่น่ะแอ๊บหลุด แอ๊บชัดๆ จากอาการและกิริยา แววตาคือก้าวกระโดดจากซีซั่นก่อนมากๆ ..... ไว้อาลัยแก่ความบริสุทธิ์โน่หนึ่งนาที โดนหลังครั้งเดียวสาวแตกตลอดไป

ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมไม่เอามารวมเป็นข้อเสียนะครับ เช่นที่ว่าสกอร์และเพลงประกอบมันไม่ใช่ signature ของ Love sick เลย โดยส่วนตัวผมก็เสียดาย แต่ถ้ามองในอีกมุมนึงซาวด์หรือสกอร์ที่เขาใส่มาถึงมันจะเกร่อแต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น, เรื่องการเกลี่ยบทให้จี๊ดเด่นเกินไป อันนั้นแล้วแต่มุมมองคนครับ สำหรับผมผมรับได้ ถ้าสุดท้ายเส้นเรื่องของเธอจะมีผลบางอย่างต่อเรื่องหลักในอนาคต (หรือต่อให้ไม่มาครอสกับเส้นเรื่องของปุณณ์โน่แต่ผมก็ยังชอบนะ)

แต่ขออย่างเดียว อย่างมโนเยอะเกิน อย่าทำให้โน่สาวไปมากกว่านี้ ในชีวิตจริงการพูดการจาของกัปตันก็แบ๊วซะจนเรดาห์ผมเริ่มกระดิกแล้ว ขอให้ในเรื่องน้องเขาห้าวๆ ขึ้นมาหน่อยเถอะ T T

จบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ..... หากผิดพลาดตรงไหนขออภัยครับ และนี่เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล วันนี้ชมเยอะเพราะชอบ แต่ถ้าไม่ชอบก็จะพยายามบอกด้วยเหตุผลที่ไม่ไบแอสจนเกินไป