สวัสดีคะ เราอายุ 25 ปีแล้ว อยากเล่าเรื่องการฝ่าฟันจากชีวิตปลวกฝุด ๆ มาถึงตอนนี้ คือ เหลือเก็บบ้างแล้ว ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบคะ
เราเรียนจบก็ทำงานเลยคะ งานแรกลำบากมาก มาทำใน กมม. ซึ่งชีวิตห่างไกลสังคมเมืองมาก เคยเข้า กทม.แค่ 2 ครั้ง ตอนพ่อป่วย เพราะพาพ่อมาหาหมอ งานแรกเงินเดือนแค่ 14000 แต่ทำงานแบบพลีชีพมาก เป็นงานบริษัทเล็ก ๆ เล็กมาก ๆ แถมยังมีค่าเช่าห้องเดือนละ 3000 รวมน้ำไฟ ก็ 3500 หักประกันสังคม นู้นนี้ ก็เหลือเดือนไม่กี่บาท ส่งให้แม่ 2-3 พัน ใช้เอง 3-4พัน นอกนั้นเก็บเข้าบัญชีหมด สุดท้ายทำได้แค่ 6 เดือนคะไม่ไหว ไม่คุ้ม เลยหางานใหม่
ต่อมาก็มาทำงานโรงงายเลยคะ ซึ่งเมื่อก่อนแบบขอให้งานโรงงานเป็นลำดับสุดท้ายเลย แต่ตอนว่างงาน HR โทรมาพอดี เราก็เลยถามไปเลยว่า "เงินเดือนเท่าไหร่พี่" พี่เค้าก็ใจดีตอบให้ เราฟังแล้วก็ให้เยอะนะสำหรับเด็กจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ ก็เลยตัดสินใจไปสัมภาษ สุดท้ายผลก็ออกมาว่าเราได้ ตอนไปทำงานวันแรกแบบเฮ้ย!!!เจ๋ง พี่ HR ถือเอกสารมาให้เปนแฟ้มหนา ๆ เลย และมาอธิบายสวัสดิการที่เราจะได้ให้ฟัง พอได้ฟังแบบ ดีอ่ะ!!! ไม่เอาเปรียบเหมือนที่เก่า (ตอนสัมภาษไม่ได้ถามสวัสดิการเลย เพราะไม่รู้เรื่องว่ามันมีแบบนี้ด้วย) ทำได้สักพักมีโบนัส เราก็เลยเริ่มมีเงินเก็บเพิ่มนิดหน่อย ปีแรกที่ทำที่นี้เราซือทองให้แม่ 1 บาท และพานั่งเครื่องบินไปเที่ยวภูเก็ต (แม่ไม่เคยนั่งเครื่องบิน) ก็ใช้เงินกันเพลินเลย พอเข้าปีที่ 2 เริ่มคิดถึงเงินเก็บอย่างจริงจัง (รง.มีสหกรณ์ภายในเราฝากเดือน 8 พันตั้งแต่เริ่มทำงาน เหลือแค่ไหนใช่แค่นั้น ให้แม่เดือนละ 4-5 พัน หรือมากกว่านั้นหากขอไปเที่ยว) เราเริ่มซื้อหนังสือ อ่านในเน็ต จนรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องลงทุน ก็เลยลงทุนในหุ้นหลักพัน น้อยมาก ๆ เนื่องจากยังไม่กล้าเสี่ยง
สาวโรงงานอยากแขร์
เราเรียนจบก็ทำงานเลยคะ งานแรกลำบากมาก มาทำใน กมม. ซึ่งชีวิตห่างไกลสังคมเมืองมาก เคยเข้า กทม.แค่ 2 ครั้ง ตอนพ่อป่วย เพราะพาพ่อมาหาหมอ งานแรกเงินเดือนแค่ 14000 แต่ทำงานแบบพลีชีพมาก เป็นงานบริษัทเล็ก ๆ เล็กมาก ๆ แถมยังมีค่าเช่าห้องเดือนละ 3000 รวมน้ำไฟ ก็ 3500 หักประกันสังคม นู้นนี้ ก็เหลือเดือนไม่กี่บาท ส่งให้แม่ 2-3 พัน ใช้เอง 3-4พัน นอกนั้นเก็บเข้าบัญชีหมด สุดท้ายทำได้แค่ 6 เดือนคะไม่ไหว ไม่คุ้ม เลยหางานใหม่
ต่อมาก็มาทำงานโรงงายเลยคะ ซึ่งเมื่อก่อนแบบขอให้งานโรงงานเป็นลำดับสุดท้ายเลย แต่ตอนว่างงาน HR โทรมาพอดี เราก็เลยถามไปเลยว่า "เงินเดือนเท่าไหร่พี่" พี่เค้าก็ใจดีตอบให้ เราฟังแล้วก็ให้เยอะนะสำหรับเด็กจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ ก็เลยตัดสินใจไปสัมภาษ สุดท้ายผลก็ออกมาว่าเราได้ ตอนไปทำงานวันแรกแบบเฮ้ย!!!เจ๋ง พี่ HR ถือเอกสารมาให้เปนแฟ้มหนา ๆ เลย และมาอธิบายสวัสดิการที่เราจะได้ให้ฟัง พอได้ฟังแบบ ดีอ่ะ!!! ไม่เอาเปรียบเหมือนที่เก่า (ตอนสัมภาษไม่ได้ถามสวัสดิการเลย เพราะไม่รู้เรื่องว่ามันมีแบบนี้ด้วย) ทำได้สักพักมีโบนัส เราก็เลยเริ่มมีเงินเก็บเพิ่มนิดหน่อย ปีแรกที่ทำที่นี้เราซือทองให้แม่ 1 บาท และพานั่งเครื่องบินไปเที่ยวภูเก็ต (แม่ไม่เคยนั่งเครื่องบิน) ก็ใช้เงินกันเพลินเลย พอเข้าปีที่ 2 เริ่มคิดถึงเงินเก็บอย่างจริงจัง (รง.มีสหกรณ์ภายในเราฝากเดือน 8 พันตั้งแต่เริ่มทำงาน เหลือแค่ไหนใช่แค่นั้น ให้แม่เดือนละ 4-5 พัน หรือมากกว่านั้นหากขอไปเที่ยว) เราเริ่มซื้อหนังสือ อ่านในเน็ต จนรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องลงทุน ก็เลยลงทุนในหุ้นหลักพัน น้อยมาก ๆ เนื่องจากยังไม่กล้าเสี่ยง