คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ไม่ได้มาตอบเรื่องเกี่ยวกับที่ดินนานแล้วเพราะเหตุผลส่วนตัว
แต่วันนี้มาอ่านดูแล้วเห็นว่าติดขัดไปหมดก็เลยมาบอกทางออกให้
โดยไม่จำเป็นต้องไปตั้งผัจัดการมรดก หรือต้องไปหาคนอื่นให้เซ็นอะไรเลย
แต่มีข้อแม้ดังนี้
1. พ่อเพียงต้องการรับมรดกตามสิทธิที่ตนมีอยู่เท่านั้นไม่ได้ต้องการที่ดินทั้งหมดของปู่ในที่แปลงนี้
(แต่หากมีแปลงอื่นอีกก็มีสิทธิในแปลงอื่นนั้นอีกด้วย) ซึ่งหากต้องการท้งหมดก็ต้องให้พี่น้องทายาทอื่น ๆ เซ็นยินยอม ซึ่งก็ต้องมีการตามตัวกันแต่ก็ไปตามกันไม่ได้ จึงหมดหนทางไป
2. มีโฉนดอยู่ในมือแล้วไม่ใช่คนอื่นเก็บไว้และไปหามาไม่ได้ (ซึ่งที่จริงก็ขอออกใบแทน
ได้พร้อมกับการขอประกาศรับมรดกนั่นเอง หากว่ายืนยันได้แน่ว่าโฉนดหาย) หรือหากรู้ว่าใครเก็บไว้
ก็ให้หาที่อยู่มาและทางเจ้าหน้าที่ที่ดินจะเรียกไปให้ ซึ่งต้องบอกว่าอยู่ที่คนอื่นตอนขอประกาศรับมรดก
3. มีหลักฐานการตายของปู่ หรือหนังสือรับรองการตาย มีหลักฐานทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน
ของคนที่จะรับมรดกซึ่งข้อนี้คงไม่มีปัญหาเพราะทุกคนก็คงต้องมีอยู่แล้ว
หากเข้าเงื่อนไขข้างบนแล้วให้ทำตามดังนี้
กลับไปยื่นคำขอรับโอนมรดกที่สำนักงานที่ดินที่ที่ดินอยู่ในอำนาจ (ก็ที่คุณไปติดต่อมานั่นเอง)
โดยให้ยื่นคำขอรับโอนมรดกประเภท "โอนมรดกบางส่วน" การรับโอนมรดกแบบนี้
คนรับมรดก(พ่อคุณนั่นเอง) จะรับโอนไปตามสิทธิที่มีอยู่ เช่น ปู่มีทายาทแค่ 3 คน ปกติถ้าพ่อ
คุณจะขอรับมรดกทั้งหมดของปู่ที่มีอยู่ในแปลงนี้ ก็จะต้องทายาทอีกสองคนมาเซ็นยินยอม
ให้พ่อรับโอนไปคนเดียว แต่การขอรับโอนมรดกบางส่วนนี้พ่อคุณจะได้ไปเพียง 1 ใน 3 ส่วนเท่านั้น
ตามสิทธิที่มีอยู่ การรับโอนแบบนี้จะทำให้คุณไม่ต้องไปพึ่งทายาทอื่นให้เขาเซ็นยินยอมเลย
พ่อคุณไปทำเรื่องคนเดียวเลย เมื่อพ่อคุณรับโอนมรดกแล้วในโฉนดจะมีชื่อพ่อคุณกับปู่เป็นเจ้าของร่วมกัน
โดยส่วนที่เหลือที่จะตกแก่ทายาทอื่นอีกสองคนนั้นจะอยู่ในชื่อปู่นั่นเอง หากสองคนนั่น
มารับโอนมรดกตามส่วนของเขาอีกทุกคนชื่อปู่ก็จะหมดไป เหลือแต่ชื่อคนที่มารับโอนมรดกไปแล้วเท่านั้น
การมาขอรับโอนมรดกบางส่วนนี้เท่ากับว่าเราเอาตามที่มีสิทธิ เราพอใจแค่นี้ ไม่ยุ่งกับคนอื่นอีกเลย
เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องไปง้อใครให้มาเซ็น และไม่ต้องไปตั้งผู้จัดการมรดกด้วย มาทำเรื่องส่วนของเรา
ทางที่ดินจะทำให้แน่นอน เพราะเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำกันเป็นบางครั้งไม่บ่อยนัก (ถ้าไม่ยอมทำให้
บอกได้ว่าเอาเรื่องได้แน่นอนเพราะทั้งกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ให้ทำได้ไม่ต้องห่วง) เหตุผลเพราะ
คนอยากได้ทั้งหมดที่ปู่มีอยู่ไม่ใช่เอาแค่นิดเดียวตามส่วนของเราที่มีตามสิทธิเรื่องมรดก จึงไม่อยาก
ยื่นขอรับมรดกบางส่วนแบบนี้กันหรอก
ขอย้ำอีกครั้งว่ากรณีนี้เราขอรับส่วนของเราไม่ได้เอาทั้งหมดที่ปู่มีอยู่นะ (คือตามที่ยกตัวอย่างมาจะได้แค่ 1 ใน 3
ไม่ใช่สามส่วน) และเมื่อรับโอนแล้วโฉนดยังมีชื่อปู่อยู่ร่วมกับพ่อ แต่ชื่อปู่นั้นจะเหลืออยู่แค่สองส่วนเท่านั้น
และขอบอกว่าไม่ต้องไปตั้งผู้จัดการมรดกอย่างเด็ดขาด ให้ไปยื่นคำขอรับโอนมรดกโดยตรงเลย
ถ้ามีปัญหาอะไรให้มาถามใหม่จะตอบให้หมด
แต่วันนี้มาอ่านดูแล้วเห็นว่าติดขัดไปหมดก็เลยมาบอกทางออกให้
โดยไม่จำเป็นต้องไปตั้งผัจัดการมรดก หรือต้องไปหาคนอื่นให้เซ็นอะไรเลย
แต่มีข้อแม้ดังนี้
1. พ่อเพียงต้องการรับมรดกตามสิทธิที่ตนมีอยู่เท่านั้นไม่ได้ต้องการที่ดินทั้งหมดของปู่ในที่แปลงนี้
(แต่หากมีแปลงอื่นอีกก็มีสิทธิในแปลงอื่นนั้นอีกด้วย) ซึ่งหากต้องการท้งหมดก็ต้องให้พี่น้องทายาทอื่น ๆ เซ็นยินยอม ซึ่งก็ต้องมีการตามตัวกันแต่ก็ไปตามกันไม่ได้ จึงหมดหนทางไป
2. มีโฉนดอยู่ในมือแล้วไม่ใช่คนอื่นเก็บไว้และไปหามาไม่ได้ (ซึ่งที่จริงก็ขอออกใบแทน
ได้พร้อมกับการขอประกาศรับมรดกนั่นเอง หากว่ายืนยันได้แน่ว่าโฉนดหาย) หรือหากรู้ว่าใครเก็บไว้
ก็ให้หาที่อยู่มาและทางเจ้าหน้าที่ที่ดินจะเรียกไปให้ ซึ่งต้องบอกว่าอยู่ที่คนอื่นตอนขอประกาศรับมรดก
3. มีหลักฐานการตายของปู่ หรือหนังสือรับรองการตาย มีหลักฐานทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน
ของคนที่จะรับมรดกซึ่งข้อนี้คงไม่มีปัญหาเพราะทุกคนก็คงต้องมีอยู่แล้ว
หากเข้าเงื่อนไขข้างบนแล้วให้ทำตามดังนี้
กลับไปยื่นคำขอรับโอนมรดกที่สำนักงานที่ดินที่ที่ดินอยู่ในอำนาจ (ก็ที่คุณไปติดต่อมานั่นเอง)
โดยให้ยื่นคำขอรับโอนมรดกประเภท "โอนมรดกบางส่วน" การรับโอนมรดกแบบนี้
คนรับมรดก(พ่อคุณนั่นเอง) จะรับโอนไปตามสิทธิที่มีอยู่ เช่น ปู่มีทายาทแค่ 3 คน ปกติถ้าพ่อ
คุณจะขอรับมรดกทั้งหมดของปู่ที่มีอยู่ในแปลงนี้ ก็จะต้องทายาทอีกสองคนมาเซ็นยินยอม
ให้พ่อรับโอนไปคนเดียว แต่การขอรับโอนมรดกบางส่วนนี้พ่อคุณจะได้ไปเพียง 1 ใน 3 ส่วนเท่านั้น
ตามสิทธิที่มีอยู่ การรับโอนแบบนี้จะทำให้คุณไม่ต้องไปพึ่งทายาทอื่นให้เขาเซ็นยินยอมเลย
พ่อคุณไปทำเรื่องคนเดียวเลย เมื่อพ่อคุณรับโอนมรดกแล้วในโฉนดจะมีชื่อพ่อคุณกับปู่เป็นเจ้าของร่วมกัน
โดยส่วนที่เหลือที่จะตกแก่ทายาทอื่นอีกสองคนนั้นจะอยู่ในชื่อปู่นั่นเอง หากสองคนนั่น
มารับโอนมรดกตามส่วนของเขาอีกทุกคนชื่อปู่ก็จะหมดไป เหลือแต่ชื่อคนที่มารับโอนมรดกไปแล้วเท่านั้น
การมาขอรับโอนมรดกบางส่วนนี้เท่ากับว่าเราเอาตามที่มีสิทธิ เราพอใจแค่นี้ ไม่ยุ่งกับคนอื่นอีกเลย
เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องไปง้อใครให้มาเซ็น และไม่ต้องไปตั้งผู้จัดการมรดกด้วย มาทำเรื่องส่วนของเรา
ทางที่ดินจะทำให้แน่นอน เพราะเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำกันเป็นบางครั้งไม่บ่อยนัก (ถ้าไม่ยอมทำให้
บอกได้ว่าเอาเรื่องได้แน่นอนเพราะทั้งกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ให้ทำได้ไม่ต้องห่วง) เหตุผลเพราะ
คนอยากได้ทั้งหมดที่ปู่มีอยู่ไม่ใช่เอาแค่นิดเดียวตามส่วนของเราที่มีตามสิทธิเรื่องมรดก จึงไม่อยาก
ยื่นขอรับมรดกบางส่วนแบบนี้กันหรอก
ขอย้ำอีกครั้งว่ากรณีนี้เราขอรับส่วนของเราไม่ได้เอาทั้งหมดที่ปู่มีอยู่นะ (คือตามที่ยกตัวอย่างมาจะได้แค่ 1 ใน 3
ไม่ใช่สามส่วน) และเมื่อรับโอนแล้วโฉนดยังมีชื่อปู่อยู่ร่วมกับพ่อ แต่ชื่อปู่นั้นจะเหลืออยู่แค่สองส่วนเท่านั้น
และขอบอกว่าไม่ต้องไปตั้งผู้จัดการมรดกอย่างเด็ดขาด ให้ไปยื่นคำขอรับโอนมรดกโดยตรงเลย
ถ้ามีปัญหาอะไรให้มาถามใหม่จะตอบให้หมด
แสดงความคิดเห็น
รบกวนสอบถามคะถ้าชื่อในโฉนดที่ดินเป็นชื่อปู่ซึ่งเสียไป10กว่าปีแล้วสามารถเปลื่ยนเป็นชื่อพ่อได้ไหมคะ.