จะทำยังไงดีคะ คนที่(เคย)เป็นเพื่อน ไม่ยอมมาเอา อัฐิ' ของแม่เขากลับไป!

# อัพเดทเพิ่มเติมที่ คห. 33 ค่ะ #

เราจะไม่เกิดความกังวลจนต้องมาตั้งกระทู้เลยค่ะ ถ้าไม่มีคนเอา อัฐิ' ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับเรา มาวางไว้หน้าห้อง !

ขอเท้าความก่อนนะคะ กับคนคนนี้ที่เคยเป็นอดีตเพื่อนของพี่เราค่ะ ขอเรียกว่า ม นะคะ (เป็นผู้หญิง)

พี่เราและ ม รู้จักกันเมื่อประมาณเดือนมีนาปีที่แล้ว ตอนแรกพี่กับ ม พักอยู่คนละที่ค่ะ แล้ว ม ก็มักจะมาเล่าปัญหาเกี่ยวกับน้องสาวของเขาที่พักอยู่ด้วยกัน ว่าชอบสร้างปัญหาหลายๆอย่างให้เขา (น้องคนนั้นไม่ใช่น้องแท้ๆของ ม นะคะ เป็นเด็กข้างบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วตาม ม มาหางานในกรุงเทพ)
ม ก็เลยเดือดร้อน อยากจะย้ายออก พี่เราเลยแนะนำให้ ม ย้ายมาอยู่ที่คอนโดเดียวกัน โดยติดต่อกับพี่ที่รู้จัก ซึ่งเขาปล่อยห้องให้เช่าค่ะ
พี่คนนั้นเห็นว่าพี่เราแนะนำ ม ในฐานะเพื่อน ก็เลยไว้ใจให้เช่าห้อง จากนั้น ม ก็เลยย้ายเข้ามาค่ะ (ห้อง ม อยู่ชั้น 6, ห้องพี่เราอยู่ชั้น 5)
เหตุการณ์ก็ปกติเรื่อยมาค่ะ พี่เรากับ ม มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เรียกได้ว่าสนิทกันพอสมควรค่ะ มีอะไรก็จะเล่าสู่กันฟัง

แต่ ม จะมีนิสัยอย่างนึงค่ะ คือ ชอบขโมยของ ไม่รู้เรียกแบบนี้จะแรงไปรึเปล่านะคะ แต่เขามักจะชอบหยิบเครื่องสำอางค์ คอนแทคเลนส์สี ไปใช้แบบไม่บอก (แรกๆ บอก พออนุญาต หลังๆนางก็ไม่บอกแล้วค่ะ เอาไปเฉยเลย) พอพี่เราถาม ม ก็บอกไม่ได้เอาไป แต่บางครั้งเวลาที่พี่เราไปนั่งเล่นบนห้อง ม บ้าง ก็จะเจอพวกของๆพี่เรา วางอยู่เต็มโต๊ะเครื่องแป้งเลยค่ะ ตอนแรกๆ พี่เราก็อดทนกับพฤติกรรมนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้วค่ะ เห็นว่าเป็นเพื่อนกัน พูดไปคงจะทะเลาะแน่ๆ จนสุดท้ายทนไม่ไหว เลยเตือนไปแบบดีๆ ผลคือนางไม่ยอมรับผิดค่ะ มีการมาว่าว่า "เรื่องแค่นี้ทำไมต้องเอามาเป็นเรื่อง" จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเริ่มห่างเหินกันค่ะ แต่พี่เราก็เป็นฝ่ายง้อนะคะ ยังไงก็เพื่อนกันค่ะ ก็พยายามจะทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม ม ก็ยอมคืนดีค่ะ แต่จากวันนั้นคือ อะไรๆก็เปลี่ยนไป เรียกได้ว่าเริ่มไม่สนิทใจกันแล้ว ไม่ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเดิมอีก (พี่เราเป็นฝ่ายชวนทุกครั้งค่ะ แต่ ม ปฏิเสธหมด)

แล้วมาวันนึง ม ก็มาที่ห้องพี่เราค่ะ ร้องไห้ เล่าให้ฟังว่า แม่เขาที่เป็นมะเร็งอาการทรุดหนัก พ่อเลยโทรตาม ม ให้กลับมาดูใจแม่
วันนั้น ม เลยขอลางานเพื่อจะกลับบ้านที่ตจว. แต่ปรากฏว่าไปไม่ทันค่ะ แม่เขาเสียแล้ว
แล้ว ม ก็อยู่จัดงานศพให้แม่ จัดการเรื่องต่างๆของครอบครัวอยู่เกือบเดือนค่ะ แล้วก็กลับมากรุงเทพ พร้อม อัฐิ' ของแม่

พอกลับมาอยู่ห้อง ม ก็ยังไม่ไปทำงานนะคะ เรากับพี่ก็เข้าใจว่า เขาคงยังเศร้าเรื่องแม่ ก็พยายามช่วยกันจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นค่ะ
บอกให้เขาลงมานั่งเล่นที่ห้อง มาอยู่ด้วยกัน อยู่กับเพื่อน จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน เขาก็ปฏิเสธ บอกว่าไม่อยากทำอะไร ฝันเห็นแต่แม่
ห่วงพ่อห่วงน้องที่ตจว ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ไม่มีแรง ไม่มีจุดหมาย ประมาณนี้อะค่ะ คือตกอยู่ในความซึมเศร้า เรากับพี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยนอกจากให้กำลังใจ จนผ่านไป 2 อาทิตย์ เขาก็กลับไปทำงานค่ะ (เพราะไม่มีตังค์ใช้แล้ว หลังจากมายื้มพี่เรา ทั้งค่าเช่าห้อง ค่ากินอยู่ จนพี่เราไม่มีให้ยื้ม)

แต่ไม่นาน ม ก็ลาออกจากงานค่ะ ชีวิตหลังจากนั้นก็เหมือนจะเคว้งคว้าง ไม่หางานทำ อยู่แต่ในห้อง ลงมาห้องพี่เราบ้างนานๆที
เขย่าแต่ bee talk นัดผู้ชายไปเที่ยว ให้เขาเลี้ยงข้าว บางรายเขาก็ให้เงิน ม ใช้ค่ะ (คือจากสเตตัสในเฟสและโซเชี่ยลอื่นๆ นางเลิกเศร้าเรื่องแม่แล้วนะคะ) พี่เราด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ก็พยายามผลักดันให้ ม กลับไปหางานทำ เพราะห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมไปถึงค่าเช่าห้องที่ ม ติดค้างกับพี่ที่เป็นเจ้าของห้องอยู่ 4 เดือนค่ะ พี่จขห ก็ร้อนใจโทรมาทวงเงินกับพี่เราบ่อยๆ เพราะโทรหา ม แล้วเขาไม่ยอมรับสาย
ทักไลน์ไปก็ไม่อ่านบ้าง จนพี่เราต้องไปพูดให้ค่ะ ม ถึงจะตอบไลน์พี่จขห ทีนึง แต่สุดท้ายก็ผลัดไปเรื่อย จนเป็นหนี้เขา ราวๆ 8,000 - 9,000 บาท คือเขาทำให้พี่เราเสียเครดิตกับพี่จขห ไปด้วยเลยค่ะ เพราะพลาดเองที่แนะนำให้เขามาอยู่ห้องนั้น

ทุกครั้งที่พี่เราถาม ม ว่าหางานหรือยัง ได้งานหรือยัง ม จะบอกว่าหาไว้แล้ว ได้ทำงานนี้ๆ หลังจากนั้นหายหน้าไปสองสามวัน พอพี่เราถามว่า ทำงานเป็นไงบ้าง ม ก็บอกเปลี่ยนงานแล้ว ว่าจะไปทำงานนั้นงานนี้ มาวันนี้ทำงานตรงนั้น มาอีกวันเปลี่ยนงานจะทำโน่นนี่ สรุปคืออะไรทราบมั้ยคะ?
พอพี่กับเราช่วยกันสืบเสาะไปตามร้านนั้นนี้ที่ ม บอก เขาบอกไม่มีพนักงานชื่อนี้ค่ะ ซึ่งก็คือจริงๆแล้ว ม อยู่แต่ในห้อง มีคนเจออยู่กับผู้ชายบ้างก็มาบอก ไม่ได้ไปทำงานที่ไหนเลยแบบที่บอกกับพี่เรา นอกจากนั้นพี่เรามาจับได้ทีหลัง จากพี่ที่ทำงานที่ ม เคยทำค่ะ ว่าเรื่องต่างๆ ตั้งแต่รู้จักกันแต่แรก ม โกหกหลายอย่างมากค่ะ (ขอไม่ลงลึกว่าเรื่องอะไรบ้างนะคะ เดี๋ยวเนื้อหาในกระทู้จะยาวเกินไป) และเขาก็ยังติดหนี้เจ้านายที่ทำงานอยู่ราว 30,000 บาท! (ที่ลาออกไม่รู้ว่าหนีหนี้ด้วยหรือเปล่า)

พี่เราเสียความรู้สึกมากค่ะ เลยตัดเพื่อนเลย ไม่ทักหาไม่คุยด้วยอีก ม ก็เหมือนจะรู้ตัวค่ะ เพราะหลังๆนางก็หายหน้าไปเลย ไม่ทักไปก็ไม่ทักมาเหมือนกัน จนสุดท้ายไม่รู้อะไรยังไง ม ก็ออกจากคอนโดไปไหนไม่ทราบค่ะ เพราะทักไปไม่ตอบอีกเลย (ทักไปถามเรื่องค่าเช่าห้องที่ค้างไว้ค่ะ) พี่ที่ทำงานที่ ม เคยสนิทก็มาเล่าว่า ม เปลี่ยนรูปดิส bee talk  แต่เขาทักก็ไม่ยอมตอบ แล้วอยู่ๆเขาก็บลอคโซเชี่ยลทุกอย่างของพี่ที่ทำงาน รวมถึงของพี่เราด้วยค่ะ

ทีนี้พี่เจ้าของห้องก็ไลน์มาคุยกับพี่เราว่า ได้ทำการล็อคห้องไว้แล้ว เพราะในเมื่อ ม ไม่มีเงินจ่าย ก็ต้องย้ายออก ประเด็นคือ ม หนีหายไปค่ะ
ข้าวของยังอยู่ครบในห้อง รวมไปถึง อัฐิ' ของแม่ที่ตั้งไว้ ม ไม่ติดต่อใครอีกเลย ไม่แม้แต่จะติดต่อกลับมาเพื่อเก็บ อัฐิ' ของแม่ คือไม่ทราบว่าเขาอาจจะละอายจนไม่กล้ากลับมาหรือเปล่า (ล่าสุดเมื่อประมาณสองเดือนก่อน ผู้ชายที่เคยเป็นแฟนกับ ม แอดเฟสมาหาเราค่ะ ถามว่า ได้คุยกับ
ม บ้างมั้ย เราเลยเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง เขาก็เล่ากลับมาว่า พึ่งจะคุยกับ ม ไปเมื่อ 3 วันก่อน ม อยู่สระบุรี บอกเขาว่าทำงานร้านเหล้า
จากรูปใน bee talk ที่เขาเห็นคือ ม ทำงานนั่งดริ้งค์ เขาหึงหวงก็เลยทะเลาะกัน แล้ว ม ก็หายหน้าไปเลย จนเขาต้องทักมาหาเรา เพราะเห็นว่ารู้จักกัน)

หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ พี่เราก็เลิกสนใจเรื่องของ ม ไปเลย เพราะคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว พี่เจ้าของห้องนั้นก็ไม่ทักหาพี่เราอีกเลยค่ะ เหมือนเสียเครดิตกันไปแล้ว ทางเราก็เลยไม่ทราบเหมือนกันว่า เขาจัดการกับข้าวของในห้องนั้นยังไง โดยเฉพาะ อัฐิ' ของแม่ ม ที่ยังคงอยู่
จนกระทั่งเมื่อวานราวๆ 3 ทุ่มค่ะ เรากับพี่กลับมาที่ห้อง แล้วก็พบว่ามีถุงใบหนึ่งวางอยู่หน้าห้องพี่เรา ข้างในเป็นกล่องมีโน้ตแปะไว้
ข้อความประมาณว่า ฝากไว้คืนน้องห้อง 707  ด้วย (ห้อง 707 อยู่ชั้น 6 ห้อง ม นั่นเองแหละค่ะ) เรากับพี่มองหน้ากัน โดยที่ยังไม่ทันเปิดกล่องนั้นดู
แต่รับรู้ได้ทันทีค่ะ ว่าสิ่งที่วางไว้คือ อัฐิ' ของแม่ ม



และเมื่อพี่เราไลน์ไปถามพี่เจ้าของห้องของ ม ก็ได้รับการยืนยันมาดังนี้ค่ะ



ตอนนี้เรากับพี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันค่ะ เพราะขนาดให้พี่คนที่ยังไม่ถูก ม บลอค ทักไลน์ไปหา นางก็ไม่อ่าน ไม่ตอบเลยค่ะ พอโทรไปหา ม
นางรับสาย แล้วพอรู้ว่าเป็นใคร นางก็ตัดสายทิ้งเลยค่ะ (อยากด่ามาก) ไม่สามารถรู้ได้จริงๆว่า ม เป็นตายร้ายดี ทำอะไรอยู่ที่ไหน แล้วจะทำยังไงให้เขามารับผิดชอบ อัฐิ' ของแม่ได้ (จริงๆอยากจะเอารูป ม มาโพสเลยค่ะ เผื่อใครจะเคยพบเจอหรือให้ข้อมูลได้บ้าง แต่เกรงว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป แล้วกระทู้จะโดนลบ)

เรื่อง อัฐิ' ที่ตอนนี้อยู่หน้าห้อง จะบอกว่ากลัวก็กลัวค่ะ ไม่กล้าเคลื่อนย้ายเลย หรือแตะต้องเลย คือถ้าเขาจะไม่กลับมาเอาจริงๆ แล้วเราจะนำ อัฐิ' ไปไว้ที่วัดได้หรือเปล่าคะ? เราไม่ทราบว่าต้องทำพิธีอันเชิญดวงวิญญาณด้วยหรือเปล่า กลัวทำอะไรไม่ถูกต้องน่ะค่ะ

รบกวนให้คำแนะนำด้วยนะคะ (แท็กไม่ถูกต้อง หรือมีคำผิด ขออภัยด้วยนะคะ)หนาวหนาว
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ถ้าเป็นเรา
จะเอาอัฐิไปให้พระทำบังสุกุลให้ที่วัด
ถวายสังฆทานให้ (เอาผ้าไตรไปด้วย)
ตั้งจิตบอกเค้า
แล้วเอาไปลอยน้ำหน้าวัดนั่นแหละค่ะ
บอกเค้าว่า ให้ไปดี อย่าได้ห่วงใยอะไร และให้ไปสู่ภพภูมิที่เหมาะสม

ข้อดี คือ คุณได้โอกาสทำบุญด้วย

ตอนปลูกบ้านญาติเรา
คนงานขุดเจอกระดูกคนที่ไม่ทราบที่มาที่ไป
ครอบครัวเราก็ทำแบบนี้ คือ ทำบังสุกุลให้ และนำกระดูกไปลอยน้ำ
ตั้งจิตให้เขาไปสู่ภพภูมิที่ดี และไม่ต้องห่วงกังวลอะไร
ความคิดเห็นที่ 7
คห5 คนเค้าถามเพราะไม่รู้ ก็ไปว่าเค้าคิดเยอะ อัฐินะ ไม่ใช่แป้งเย็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่