อบอ้าว ขมุกขมัว
สภาพอากาศในห้วงปลายหน้าร้อนย่างเข้าสู่ฤดูฝนที่ปกคลุมประเทศไทยเกือบทุกพื้นที่
พลอยให้บรรยากาศทางการเมืองพานอึมครึมๆไปด้วย
ภายใต้เงื่อนสถานการณ์ “งัดข้อ” รัฐธรรมนูญใหม่
ตามกระบวนการขั้นตอนที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญกำลังเปิดรับข้อเสนอเพื่อ
นำไปพิจารณา ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ “โมเดลแรก”
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แรงเสียดทานที่พุ่งเข้าใส่ทีมงาน “อรหันต์ทองคำ”
นำโดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
หนีไม่พ้นวิถีตำบลกระสุนตก โดนถล่มจากทุกสารทิศ
ถ้าเผลอมีสิทธิ์โดน “เจาะยาง” ได้ตลอดเวลา
เพราะแม้แต่ในหมู่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็มีรายการโวยวายคิวปาดหน้ากันเอง
แบบที่ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช กรรมาธิการยกร่างฯ ตำหนิออกอากาศ กรณีนายสมบัติ
ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สปช.เชิญตัวแทนพรรคการเมือง
ทั้ง 74 พรรค มาให้ความเห็นต่อการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯ
ก็จะเชิญพรรคการเมืองมาให้ความเห็นอยู่แล้ว
ส่อแววแย่งซีน ชิงกันเป็นคนนำกระแส
และก็จ้องผสมโรงอยู่แล้ว ตามมุกของนักเลือกตั้งอาชีพ ทั้งพรรคเพื่อไทยและ
พรรคประชาธิปัตย์ได้จังหวะหยั่งเชิงท็อปบูต
สบช่องเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิกประกาศ
ห้ามพรรคการเมืองเคลื่อนไหว
อ้างจะได้ร่วมวงชงข้อเสนอปรับเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้สะดวก
แต่ก็โดน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. และ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ประสานเสียง
โทนเดียวกัน ไม่รับมุกปลดล็อกให้พรรคการเมืองเคลื่อนไหว
เพราะกลัวจะไหลเตลิดมากกว่าเรื่องรัฐธรรมนูญ
ทหารก็รู้ทันเหลี่ยมเขี้ยวของนักเลือกตั้งอาชีพว่าแสบแค่ไหน ขนาดยังไม่
ปลดล็อกประกาศ คสช. นักการเมืองยังเปิดเกมถล่มร่างรัฐธรรมนูญ
“โมเดลแรก” กันแบบไม่ยั้ง
ขืนปล่อยผีออกมามีหวังป่าช้าแตก
ทั้งหมดทั้งปวงเลย ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่คิว คสช.ได้นัดประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรี
เพื่อพิจารณาข้อเสนอร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้
นี่คือจุดที่ถูกจับตา น่าจะเป็นการเคาะโต๊ะรัฐธรรมนูญโมเดลสุดท้าย
<
<
<
ตามสถานการณ์รายวันที่เต็มไปด้วยข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี
ประเภทที่ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ผวาภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้
ค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในครึ่งปีแรก จากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัว
ได้ต่ำกว่าคาดการณ์
ทำให้คาดว่าในครึ่งปีแรก การส่งออกของไทยจะขยายตัวติดลบ
และทั้งปีก็มีโอกาสความเป็นไปได้สูงที่ตัวเลขส่งออกจะขยายตัวติดลบเช่นเดียวกัน จากสถานการณ์ที่โยงกับคู่ค้าสำคัญอย่างจีนแผ่นดินใหญ่กำลังเจอภาวะเศรษฐกิจ
ชะลอตัวหนัก
โดยสถานการณ์ที่กดดันไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดดอกเบี้ย
นโยบายลงอีก 0.25 เปอร์เซ็นต์ จาก 1.75 เปอร์เซ็นต์ เป็น 1.5 เปอร์เซ็นต์
ถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งติดต่อกัน
จากการประมาณการตัวเลขไตรมาสแรกของปีนี้ สัญญาณส่อเค้าเศรษฐกิจอ่อนแรงลง
และแรงส่งต่อไปข้างหน้าก็อ่อนแรงลงด้วย จึงต้องปรับลดดอกเบี้ยนโย– บายเพื่อช่วย
พยุงภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวน้อยกว่าที่คาด
สะท้อนอาการดิ้นหนีภาวะเงินฝืด สุดกำลัง
แน่นอน โดยเงื่อนสถานการณ์มันก็โยงมาถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีที่ดังกระหึ่ม
ขึ้นมาอีกคำรบ โดยเฉพาะการยกเครื่องทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล
ที่ฟ้องโดยสภาพการณ์ว่า “เอาไม่อยู่”
จริงอยู่ แม้จับทางล่าสุด พล.อ.ประวิตร จะเล่นบทออกตัวแทนนายกฯเลยว่า
พล.อ.ประยุทธ์ไม่คิดเรื่องปรับ ครม. เพราะกำลังทำงาน ขณะที่รัฐมนตรีก็ตั้งใจ
ทำงานกันเต็มที่
นั่นก็อย่างที่รู้กันดี ครม.ชุดนี้ พล.อ.ประวิตรคัดมาเองกับมือเกินครึ่ง
ขณะที่บุคลิก “ทหารอาชีพ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จัดอยู่ในประเภท ไม่ทิ้งเพื่อน
ไม่หักพี่ ไม่ขายน้อง ทำให้ต้องยื้อคิวปรับ ครม.ลากเกมถูลู่ถูกังกันมา
แต่ในเครื่องหมายคำถาม โจทย์หนักอึ้ง ณ วันนี้ บิ๊กทหาร พี่ๆน้องๆจะประคองไหวหรือ
ในเมื่อ “ความเชื่อมั่น” ทางเศรษฐกิจ มันแทบไม่เหลือ
สถานการณ์มันมาถึงจุดที่ต้องพิจารณา ระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวในหมู่พี่ๆเพื่อนๆ
น้องๆ กับประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนส่วนรวม
อันไหนมีน้ำหนักมากกว่า
โดยเฉพาะเมื่อผ่านมาเกือบครบรอบปีของการยึดอำนาจโดย คสช. และ 8–9 เดือนของ ครม.
ใครมีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร รู้หมดแล้ว
ซึ่งจุดที่น่าสนใจ ก็คือการที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งให้ทุกกระทรวงรวบรวมผลงานเพื่อ
แถลงผลการดำเนินงานของ คสช.ให้ประชาชนได้รับทราบ
จุดนี้น่าจะเป็นตัวชี้วัดอะไรบางอย่าง
โยงกับการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อกู้ความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจ
ถึงจะติดลูกเกรงใจ อาการแคร์เพื่อน เกรงใจพี่ แต่อย่างน้อยก็น่าจะสลับฉาก
เปลี่ยนหน้าที่ จัดคนให้ตรงสเปกกับเนื้องาน
ประคองสถานการณ์ในระยะยาว
เพื่อให้ “เรือแป๊ะ” เดินเครื่องต่อไปได้.
ทีมการเมือง
http://www.thairath.co.th/content/497701
ข่าวดีวันนี้ เห็นทีจะมีเรื่องเดียว จะซื้อลอตเตอรี่ได้ใบละ 80 บาท
พอดีพี่สาว ไม่ใช่แฟนลอตเตอรี่ เลยยังไม่เห็นข่าวดี ....
รับทราบข่าวร้ายต่างๆ จากเพื่อนสมาชิก จากสื่อ ....
ก็ยังคิดไม่ออก ว่า 8-9 เดือนมานี้ ปฏิรูปอะไรไปบ้าง ..
ถอดถอน อดีตนายกฯ กับรมต.และข้าราชการ ที่เกี่ยวข้องจำนำข้าวนี่
ถือว่า ปฏิรูปไหม ?
ยกเครื่องครม. ประคองเรือแป๊ะ สำรวจสถานการณ์ระหว่าง “งัดข้อ” รัฐธรรมนูญ .....ไทยรัฐออนไลน์..../sao..เหลือ..noi
สภาพอากาศในห้วงปลายหน้าร้อนย่างเข้าสู่ฤดูฝนที่ปกคลุมประเทศไทยเกือบทุกพื้นที่
พลอยให้บรรยากาศทางการเมืองพานอึมครึมๆไปด้วย
ภายใต้เงื่อนสถานการณ์ “งัดข้อ” รัฐธรรมนูญใหม่
ตามกระบวนการขั้นตอนที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญกำลังเปิดรับข้อเสนอเพื่อ
นำไปพิจารณา ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ “โมเดลแรก”
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แรงเสียดทานที่พุ่งเข้าใส่ทีมงาน “อรหันต์ทองคำ”
นำโดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
หนีไม่พ้นวิถีตำบลกระสุนตก โดนถล่มจากทุกสารทิศ
ถ้าเผลอมีสิทธิ์โดน “เจาะยาง” ได้ตลอดเวลา
เพราะแม้แต่ในหมู่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็มีรายการโวยวายคิวปาดหน้ากันเอง
แบบที่ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช กรรมาธิการยกร่างฯ ตำหนิออกอากาศ กรณีนายสมบัติ
ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สปช.เชิญตัวแทนพรรคการเมือง
ทั้ง 74 พรรค มาให้ความเห็นต่อการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯ
ก็จะเชิญพรรคการเมืองมาให้ความเห็นอยู่แล้ว
ส่อแววแย่งซีน ชิงกันเป็นคนนำกระแส
และก็จ้องผสมโรงอยู่แล้ว ตามมุกของนักเลือกตั้งอาชีพ ทั้งพรรคเพื่อไทยและ
พรรคประชาธิปัตย์ได้จังหวะหยั่งเชิงท็อปบูต
สบช่องเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิกประกาศ
ห้ามพรรคการเมืองเคลื่อนไหว
อ้างจะได้ร่วมวงชงข้อเสนอปรับเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้สะดวก
แต่ก็โดน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. และ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ประสานเสียง
โทนเดียวกัน ไม่รับมุกปลดล็อกให้พรรคการเมืองเคลื่อนไหว
เพราะกลัวจะไหลเตลิดมากกว่าเรื่องรัฐธรรมนูญ
ทหารก็รู้ทันเหลี่ยมเขี้ยวของนักเลือกตั้งอาชีพว่าแสบแค่ไหน ขนาดยังไม่
ปลดล็อกประกาศ คสช. นักการเมืองยังเปิดเกมถล่มร่างรัฐธรรมนูญ
“โมเดลแรก” กันแบบไม่ยั้ง
ขืนปล่อยผีออกมามีหวังป่าช้าแตก
ทั้งหมดทั้งปวงเลย ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่คิว คสช.ได้นัดประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรี
เพื่อพิจารณาข้อเสนอร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้
นี่คือจุดที่ถูกจับตา น่าจะเป็นการเคาะโต๊ะรัฐธรรมนูญโมเดลสุดท้าย
<
<
<
ตามสถานการณ์รายวันที่เต็มไปด้วยข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี
ประเภทที่ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ผวาภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้
ค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในครึ่งปีแรก จากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัว
ได้ต่ำกว่าคาดการณ์
ทำให้คาดว่าในครึ่งปีแรก การส่งออกของไทยจะขยายตัวติดลบ
และทั้งปีก็มีโอกาสความเป็นไปได้สูงที่ตัวเลขส่งออกจะขยายตัวติดลบเช่นเดียวกัน จากสถานการณ์ที่โยงกับคู่ค้าสำคัญอย่างจีนแผ่นดินใหญ่กำลังเจอภาวะเศรษฐกิจ
ชะลอตัวหนัก
โดยสถานการณ์ที่กดดันไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดดอกเบี้ย
นโยบายลงอีก 0.25 เปอร์เซ็นต์ จาก 1.75 เปอร์เซ็นต์ เป็น 1.5 เปอร์เซ็นต์
ถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งติดต่อกัน
จากการประมาณการตัวเลขไตรมาสแรกของปีนี้ สัญญาณส่อเค้าเศรษฐกิจอ่อนแรงลง
และแรงส่งต่อไปข้างหน้าก็อ่อนแรงลงด้วย จึงต้องปรับลดดอกเบี้ยนโย– บายเพื่อช่วย
พยุงภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวน้อยกว่าที่คาด
สะท้อนอาการดิ้นหนีภาวะเงินฝืด สุดกำลัง
แน่นอน โดยเงื่อนสถานการณ์มันก็โยงมาถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีที่ดังกระหึ่ม
ขึ้นมาอีกคำรบ โดยเฉพาะการยกเครื่องทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล
ที่ฟ้องโดยสภาพการณ์ว่า “เอาไม่อยู่”
จริงอยู่ แม้จับทางล่าสุด พล.อ.ประวิตร จะเล่นบทออกตัวแทนนายกฯเลยว่า
พล.อ.ประยุทธ์ไม่คิดเรื่องปรับ ครม. เพราะกำลังทำงาน ขณะที่รัฐมนตรีก็ตั้งใจ
ทำงานกันเต็มที่
นั่นก็อย่างที่รู้กันดี ครม.ชุดนี้ พล.อ.ประวิตรคัดมาเองกับมือเกินครึ่ง
ขณะที่บุคลิก “ทหารอาชีพ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จัดอยู่ในประเภท ไม่ทิ้งเพื่อน
ไม่หักพี่ ไม่ขายน้อง ทำให้ต้องยื้อคิวปรับ ครม.ลากเกมถูลู่ถูกังกันมา
แต่ในเครื่องหมายคำถาม โจทย์หนักอึ้ง ณ วันนี้ บิ๊กทหาร พี่ๆน้องๆจะประคองไหวหรือ
ในเมื่อ “ความเชื่อมั่น” ทางเศรษฐกิจ มันแทบไม่เหลือ
สถานการณ์มันมาถึงจุดที่ต้องพิจารณา ระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวในหมู่พี่ๆเพื่อนๆ
น้องๆ กับประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนส่วนรวม
อันไหนมีน้ำหนักมากกว่า
โดยเฉพาะเมื่อผ่านมาเกือบครบรอบปีของการยึดอำนาจโดย คสช. และ 8–9 เดือนของ ครม.
ใครมีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร รู้หมดแล้ว
ซึ่งจุดที่น่าสนใจ ก็คือการที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งให้ทุกกระทรวงรวบรวมผลงานเพื่อ
แถลงผลการดำเนินงานของ คสช.ให้ประชาชนได้รับทราบ
จุดนี้น่าจะเป็นตัวชี้วัดอะไรบางอย่าง
โยงกับการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อกู้ความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจ
ถึงจะติดลูกเกรงใจ อาการแคร์เพื่อน เกรงใจพี่ แต่อย่างน้อยก็น่าจะสลับฉาก
เปลี่ยนหน้าที่ จัดคนให้ตรงสเปกกับเนื้องาน
ประคองสถานการณ์ในระยะยาว
เพื่อให้ “เรือแป๊ะ” เดินเครื่องต่อไปได้.
ทีมการเมือง
http://www.thairath.co.th/content/497701
ข่าวดีวันนี้ เห็นทีจะมีเรื่องเดียว จะซื้อลอตเตอรี่ได้ใบละ 80 บาท
พอดีพี่สาว ไม่ใช่แฟนลอตเตอรี่ เลยยังไม่เห็นข่าวดี ....
รับทราบข่าวร้ายต่างๆ จากเพื่อนสมาชิก จากสื่อ ....
ก็ยังคิดไม่ออก ว่า 8-9 เดือนมานี้ ปฏิรูปอะไรไปบ้าง ..
ถอดถอน อดีตนายกฯ กับรมต.และข้าราชการ ที่เกี่ยวข้องจำนำข้าวนี่
ถือว่า ปฏิรูปไหม ?