ทุกครั้งที่รู้สึกเหงา ดิฉันชอบใช้ความเหงาเป็นแรงขับในการบันทึกขีดเขียน
แต่ครั้งนี้แปลก นึกอยากจะเขียนกระทู้ขึ้นมา ดังนั้นกระทู้นี้ก็เลยเป็นกระทู้แรกในความทรงจำค่ะ
ก่อนอื่นขอเปิดกระทู้ด้วยวีดีโอบรรกาศของเกาะสีชังก่อนนะคะ
(เห็นเพื่อนในเฟสหลายคนชอบสิงเว็บพันทิป ถ้ารู้จักกันอย่าทักดังนะคะ เบาๆค่ะ ฮ่าๆ)
ทริปนี้ไม่ค่อยได้วางแผนอะไรมากเลยค่ะ แค่รู้สึกว่าร่างกายและจิตใจอยากพักผ่อน
พอดีตรงกับวันหยุดเลยชวนพี่ที่ทำงานนั่งรถตู้ไปลงศรีราชา
รถจอดหน้าห้างโรบินสัน แล้วเราก็ต่อรถวินมอเตอร์ไซต์ไปที่ท่าเรือในเกาะลอยค่ะ
เสน่ห์ของการนั่งเรือไปเกาะสีชัง คือการได้เห็นเรือส่งสินค้าขนาดใหญ่อยู่ในน่านน้ำตลอดทางไปเกาะ
เนื่องจากศรีราชาอยู่ติดกับแหลมฉบัง เป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จึงมีเรือใหญ่รับ-ส่งสินค้าเยอะ
ค่าเรือคนละ 40 บาทค่ะ เรือออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งถึงเกาะไม่เกิน 1 ชั่วโมงค่ะ
พอถึงฝั่ง พี่ก็บอกว่าเช่ารถสำรวจเกาะกันดีกว่า จ่ายไป 250 ค่ะ รถมีน้ำมันด้วย แต่ไม่เต็มถังนะคะ
โชคดีหน่อยเราไปถึงเกาะช่วงเช้าๆอยู่ เลยมีตัวเลือกเยอะและได้รถที่ถูกใจด้วย
บนเกาะสีชังมีเซเว่นด้วยนะคะ ถ้าจะเช่ารถสำรวจเกาะแนะนำให้ซื้อขนมและเครื่องดื่มติดรถไปด้วย
เพราะอากาศร้อนมาก นั่งรถไปด้วย กินไปด้วย ผ่อนคลายดีค่ะ
ออกจากเซเว่นมา เราก็เลี้ยวขวาไปไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ก่อนเลยค่ะ
อยู่บนยอดเขาถ้าหันหน้าเข้าเกาะจะอยู่ทางขวามือค่ะ
มีให้เลือกระหว่างนั่งรถกระเช้าเล็กๆขึ้นไป กับเดินบันไดขึ้นไปค่ะ
ขึ้นไปแล้วจะเห็นวิวทั้งหมดของเกาะสีสัง ได้กลิ่นทะเลอ่อนๆด้วย
ข้างบนเป็นถ้ำ คนนิยมมาไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่มากค่ะ ทำบุญและเสี่ยงเซียมซี
คนที่มาทำบุญบริจาคจะเขียนชื่อ-สกุลพร้อมครอบครัว ลงในแผ่นกระดาษสีแดง แล้วแปะในถ้ำ
เห็นพี่เขียนชื่อตัวเองและครอบครัว อั้ยเราช่วงนั้นก็อุตริ เขียนชื่อตัวเองตามด้วยเนื้อคู่ในอนาคต
ประมาณว่าทำบุญเผื่อ ขอให้ได้เจอกันเร็วๆ อารมณ์ช่วงนั้นแบบ ขอซักทีเถอะ ไม่ไหวแล้ว ขอแค่คนที่จะมาคู่กันจริงๆ
พี่บอก "บีๆ ติดกระดาษไว้ปากถ้ำเลย ท่านจะได้เห็นชัดๆ" ฮ่าๆ อันนี้เรื่องจริงนะคะ
(เชื่อหรือไม่...หลังจากทริปเกาะสีชัง 1 เดือน เจ้าของกระทู้ก็มีแฟน ตรงตามสเปกเกือบทุกอย่าง
เด็กเรียน ใส่แว่นตา สูง ขาว ชอบทำกับข้าว ยกเว้นอายุอ่อนกว่าตั้ง 4 ปี )
แคปหน้าจอมาให้ดูชัดๆเลยค่ะ ว่าเขียนจริงจริ๊งงงง
บรรยากาศถนนบนเกาะสีชังค่ะ ถือว่าใช้ได้ สะดวกต่อการขับขี่ ไม่วิบากมากเหมือนเกาะเสม็ดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว
หลังจากทำบุญเสร็จ เราก็ขับรถไปเรื่อยๆจนถึงสะพานอัษฎางค์ มาถึงโซนนี้ได้สัมผัสบรรยากาศของพระราชวัง
ลมพัดเย็นดีจริงๆค่ะแถวนี้
หลังจากถ่ายรูป นั่งพักเหนื่อย ดื่มน้ำ กินขนม เราก็ออกเดินทางต่อ ออกจากสะพานอัษฎางค์มาก็เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยๆ
เป้าหมายไม่รู้เลยนะคะ เพราะพึ่งเคยมาเกาะสีชังครั้งแรก ไม่รู้จะไปไหน ขับรถไปเรื่อยๆค่ะ จนมาเจอป้ายนี้
ระหว่างทางก็จะเจอลานหิน ฝั่งซ้ายมือ จอดถ่ายรูปแป๊ป สวย แปลกตาดี แต่แดดร้อนมาก
ขับรถตามป้ายไปเรื่อยๆก็มาถึงทางตัน ชอบวิวตรงนี้ สวยดีค่ะ
หลายคนอาจขับรถมาถึงตรงนี้แล้วเลี้ยวกลับ เพราะคิดว่าเป็นทางตันไปต่อไม่ได้แล้ว
แต่เราไปต่อค่ะ จอดรถลงสำรวจพื้นที่ ก้อนหินเยอะมาก มีหาดเล็กๆไม่แน่ใจว่าหาดอะไร
ด้านหลังจะเป็นหน้าผา ทิวทัศน์ไม่สวยเท่าไหร่ แต่น้ำใสดีค่ะ เห็นปูทะเลหลายตัวมาก
สำรวจเสร็จก็ขับรถออกมาทางเดิมค่ะ เพราะไปต่อไม่ได้แล้ว ผ่านมาตรงลานหินอีกครั้ง ฝั่งตรงข้ามกันเป็น ปารีฮัทค่ะ
ทางเข้าวิบากกว่าเกาะเสม็ดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ดังจะเห็นในวิดีโอข้างบนค่ะ ฮ่าๆๆ
เห็นรีวิวเยอะในพันทิป ขอไปเยือนบ้างซักครั้ง ไปพักทานข้าวเที่ยงกันที่ปารีฮัทค่ะ
จิบน้ำโค้กไป คุยกันไป นั่งดูเรือส่งสินค้าลอยผ่านไปมา บวกกับลมที่พัดเข้าฝั่งมา บรรยากาศชวนหลับสุดๆเลยค่ะ
ใช้เวลานั่งอยู่ที่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมงเห็นจะได้ อารมณ์มาพักผ่อนจริงๆ
รู้สึกดีมาก - มากที่สุด ที่ได้มานั่งปรับทุกข์กันที่นี่
หลังจากที่กินอิ่มจนลุกแทบจะไม่ไหว เราก็เดินทางต่อค่ะ ขับรถไปเรื่อยๆ ตามทางไปหาดถ้ำพัง
บรรยากาศของหาดที่นี่สงบแบบวิถีชาวบ้าน
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวไทยค่ะ ชาวต่างชาติไม่ค่อยเยอะ
หลังจากเรามาเยือนหาดถ้ำพัง นั่งพักแวะถ่ายรูปเสร็จ เรากับพี่ก็ขับรถต่อเลยไปที่แหลมจักรพงษ์
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน แอบเห็นบางคู่มานั่งสวีทชมพระอาทิตย์ตกด้วยกัน บรรยากาศดีมากค่ะ
พระอาทิตย์ตกแล้ว ว่าแล้วก็กลับกัน ห๊า! มาเที่ยวทะเลแต่ไม่ลงเล่นน้ำเลย อะไรเนี่ย
จริงๆ คุยกันกับพี่ว่าอยากมาเที่ยวเฉยๆ ไม่อยากเล่นน้ำ
และแล้วเราก็กลับเลยค่ะ เอารถไปคืนร้านตรงท่าเรือแล้วก็ซื้อตั๋วกลับขึ้นฝั่ง
รู้สึกดีมาก เหมือนได้เอาความเครียดมาทิ้งทะเล
ใครที่เครียดๆ อย่าลืมพาร่างกายไปพักผ่อนนะคะ ลองไปเที่ยวทะเลอาจจะช่วยได้บ้าง
***ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ เขียนกระทู้เสร็จก็หายเหงาพอดี***
[CR] ความหลัง...ที่เกาะสีชัง
แต่ครั้งนี้แปลก นึกอยากจะเขียนกระทู้ขึ้นมา ดังนั้นกระทู้นี้ก็เลยเป็นกระทู้แรกในความทรงจำค่ะ
ก่อนอื่นขอเปิดกระทู้ด้วยวีดีโอบรรกาศของเกาะสีชังก่อนนะคะ
(เห็นเพื่อนในเฟสหลายคนชอบสิงเว็บพันทิป ถ้ารู้จักกันอย่าทักดังนะคะ เบาๆค่ะ ฮ่าๆ)
ทริปนี้ไม่ค่อยได้วางแผนอะไรมากเลยค่ะ แค่รู้สึกว่าร่างกายและจิตใจอยากพักผ่อน
พอดีตรงกับวันหยุดเลยชวนพี่ที่ทำงานนั่งรถตู้ไปลงศรีราชา
รถจอดหน้าห้างโรบินสัน แล้วเราก็ต่อรถวินมอเตอร์ไซต์ไปที่ท่าเรือในเกาะลอยค่ะ
เสน่ห์ของการนั่งเรือไปเกาะสีชัง คือการได้เห็นเรือส่งสินค้าขนาดใหญ่อยู่ในน่านน้ำตลอดทางไปเกาะ
เนื่องจากศรีราชาอยู่ติดกับแหลมฉบัง เป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จึงมีเรือใหญ่รับ-ส่งสินค้าเยอะ
ค่าเรือคนละ 40 บาทค่ะ เรือออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งถึงเกาะไม่เกิน 1 ชั่วโมงค่ะ
พอถึงฝั่ง พี่ก็บอกว่าเช่ารถสำรวจเกาะกันดีกว่า จ่ายไป 250 ค่ะ รถมีน้ำมันด้วย แต่ไม่เต็มถังนะคะ
โชคดีหน่อยเราไปถึงเกาะช่วงเช้าๆอยู่ เลยมีตัวเลือกเยอะและได้รถที่ถูกใจด้วย
บนเกาะสีชังมีเซเว่นด้วยนะคะ ถ้าจะเช่ารถสำรวจเกาะแนะนำให้ซื้อขนมและเครื่องดื่มติดรถไปด้วย
เพราะอากาศร้อนมาก นั่งรถไปด้วย กินไปด้วย ผ่อนคลายดีค่ะ
ออกจากเซเว่นมา เราก็เลี้ยวขวาไปไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ก่อนเลยค่ะ
อยู่บนยอดเขาถ้าหันหน้าเข้าเกาะจะอยู่ทางขวามือค่ะ
มีให้เลือกระหว่างนั่งรถกระเช้าเล็กๆขึ้นไป กับเดินบันไดขึ้นไปค่ะ
ขึ้นไปแล้วจะเห็นวิวทั้งหมดของเกาะสีสัง ได้กลิ่นทะเลอ่อนๆด้วย
ข้างบนเป็นถ้ำ คนนิยมมาไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่มากค่ะ ทำบุญและเสี่ยงเซียมซี
คนที่มาทำบุญบริจาคจะเขียนชื่อ-สกุลพร้อมครอบครัว ลงในแผ่นกระดาษสีแดง แล้วแปะในถ้ำ
เห็นพี่เขียนชื่อตัวเองและครอบครัว อั้ยเราช่วงนั้นก็อุตริ เขียนชื่อตัวเองตามด้วยเนื้อคู่ในอนาคต
ประมาณว่าทำบุญเผื่อ ขอให้ได้เจอกันเร็วๆ อารมณ์ช่วงนั้นแบบ ขอซักทีเถอะ ไม่ไหวแล้ว ขอแค่คนที่จะมาคู่กันจริงๆ
พี่บอก "บีๆ ติดกระดาษไว้ปากถ้ำเลย ท่านจะได้เห็นชัดๆ" ฮ่าๆ อันนี้เรื่องจริงนะคะ
(เชื่อหรือไม่...หลังจากทริปเกาะสีชัง 1 เดือน เจ้าของกระทู้ก็มีแฟน ตรงตามสเปกเกือบทุกอย่าง
เด็กเรียน ใส่แว่นตา สูง ขาว ชอบทำกับข้าว ยกเว้นอายุอ่อนกว่าตั้ง 4 ปี )
แคปหน้าจอมาให้ดูชัดๆเลยค่ะ ว่าเขียนจริงจริ๊งงงง
บรรยากาศถนนบนเกาะสีชังค่ะ ถือว่าใช้ได้ สะดวกต่อการขับขี่ ไม่วิบากมากเหมือนเกาะเสม็ดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว
หลังจากทำบุญเสร็จ เราก็ขับรถไปเรื่อยๆจนถึงสะพานอัษฎางค์ มาถึงโซนนี้ได้สัมผัสบรรยากาศของพระราชวัง
ลมพัดเย็นดีจริงๆค่ะแถวนี้
หลังจากถ่ายรูป นั่งพักเหนื่อย ดื่มน้ำ กินขนม เราก็ออกเดินทางต่อ ออกจากสะพานอัษฎางค์มาก็เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยๆ
เป้าหมายไม่รู้เลยนะคะ เพราะพึ่งเคยมาเกาะสีชังครั้งแรก ไม่รู้จะไปไหน ขับรถไปเรื่อยๆค่ะ จนมาเจอป้ายนี้
ระหว่างทางก็จะเจอลานหิน ฝั่งซ้ายมือ จอดถ่ายรูปแป๊ป สวย แปลกตาดี แต่แดดร้อนมาก
ขับรถตามป้ายไปเรื่อยๆก็มาถึงทางตัน ชอบวิวตรงนี้ สวยดีค่ะ
หลายคนอาจขับรถมาถึงตรงนี้แล้วเลี้ยวกลับ เพราะคิดว่าเป็นทางตันไปต่อไม่ได้แล้ว
แต่เราไปต่อค่ะ จอดรถลงสำรวจพื้นที่ ก้อนหินเยอะมาก มีหาดเล็กๆไม่แน่ใจว่าหาดอะไร
ด้านหลังจะเป็นหน้าผา ทิวทัศน์ไม่สวยเท่าไหร่ แต่น้ำใสดีค่ะ เห็นปูทะเลหลายตัวมาก
สำรวจเสร็จก็ขับรถออกมาทางเดิมค่ะ เพราะไปต่อไม่ได้แล้ว ผ่านมาตรงลานหินอีกครั้ง ฝั่งตรงข้ามกันเป็น ปารีฮัทค่ะ
ทางเข้าวิบากกว่าเกาะเสม็ดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ดังจะเห็นในวิดีโอข้างบนค่ะ ฮ่าๆๆ
เห็นรีวิวเยอะในพันทิป ขอไปเยือนบ้างซักครั้ง ไปพักทานข้าวเที่ยงกันที่ปารีฮัทค่ะ
จิบน้ำโค้กไป คุยกันไป นั่งดูเรือส่งสินค้าลอยผ่านไปมา บวกกับลมที่พัดเข้าฝั่งมา บรรยากาศชวนหลับสุดๆเลยค่ะ
ใช้เวลานั่งอยู่ที่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมงเห็นจะได้ อารมณ์มาพักผ่อนจริงๆ
รู้สึกดีมาก - มากที่สุด ที่ได้มานั่งปรับทุกข์กันที่นี่
หลังจากที่กินอิ่มจนลุกแทบจะไม่ไหว เราก็เดินทางต่อค่ะ ขับรถไปเรื่อยๆ ตามทางไปหาดถ้ำพัง
บรรยากาศของหาดที่นี่สงบแบบวิถีชาวบ้าน
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวไทยค่ะ ชาวต่างชาติไม่ค่อยเยอะ
หลังจากเรามาเยือนหาดถ้ำพัง นั่งพักแวะถ่ายรูปเสร็จ เรากับพี่ก็ขับรถต่อเลยไปที่แหลมจักรพงษ์
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน แอบเห็นบางคู่มานั่งสวีทชมพระอาทิตย์ตกด้วยกัน บรรยากาศดีมากค่ะ
พระอาทิตย์ตกแล้ว ว่าแล้วก็กลับกัน ห๊า! มาเที่ยวทะเลแต่ไม่ลงเล่นน้ำเลย อะไรเนี่ย
จริงๆ คุยกันกับพี่ว่าอยากมาเที่ยวเฉยๆ ไม่อยากเล่นน้ำ
และแล้วเราก็กลับเลยค่ะ เอารถไปคืนร้านตรงท่าเรือแล้วก็ซื้อตั๋วกลับขึ้นฝั่ง
รู้สึกดีมาก เหมือนได้เอาความเครียดมาทิ้งทะเล
ใครที่เครียดๆ อย่าลืมพาร่างกายไปพักผ่อนนะคะ ลองไปเที่ยวทะเลอาจจะช่วยได้บ้าง
***ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ เขียนกระทู้เสร็จก็หายเหงาพอดี***