
สวัสดีค่ะ เราชื่อแพมมี่ นะคะ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง กำลังจะขึ้นปีสุดท้ายเเล้วค่ะ
แพมกับแฟนคบกันได้มาประมาณสองปีค่ะ กำลังก้าวสู่วัยทำงานค่ะ แฟนแพมเป็นคนดี น่ารัก เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ไม่เที่ยวผับ ร้านเหล้าไรทำนองนี้ เค้าคบกับเเพมได้นานที่สุด มากกว่าคนที่แพมเคยคบมาเลยค่ะ (เเเพมเคยคบกับคนก่อนๆมานานที่สุดก็เเค่ 2 เดือนเองง่ะ 5555 ) เค้าทนกับเเพมได้ทุกอย่างจริงๆ เรียกได้ว่าเค้าเปลี่ยนแพมจากหลังมือเป็นหน้ามือได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เคยเป็นคนโกหก ปลิ้นปล้อน กะล่อน กะแฟนบ่อยมาก5555 จึงไม่แปลกค่ะพี่แพมจะรักเค้ามาก และตัดสินใจแน่วเเน่เเล้วค่ะว่ายังไงก็ต้องเป็นคนนี้ที่อยากจะใช้ชีวิตคู่ด้วย (ถึงแม้รู้อยู่เเล้วว่าอนาคตมันเปลี่ยนแปลงได้)
วันนั้นเพมเลิกเรียนดึกค่ะ เค้าเลยอาสาไปส่งแพมที่บ้าน ใจเราก็กลัวค่ะ กลัวที่บ้านจะไม่โอเค แต่ก็นะ เอาไงเอากันวะ !!
..... พอถึงลบ้านแพม พ่อแพมก็มาชวนเค้านั่งทานข้าวด้วยกันก่อนเค้าจะกลับ ก็ซักถามนู่นนี่นั่น เจอกันได้ไง บ้านอยู๋ไหน ที่บ้านทำอะไรอะไรประมาณนี่นั่น แต่เเพมไม่ได้บอกพ่อนะคะว่าเราเป็นแฟนกัน (แพมว่าแกรู้อยู่เเล้วเเหละ เเค่ไม่พูดเท่านั้นเอง 5555) หลังจากอาหารมื้อนั้นจบลง เค้าก็กลับบ้านค่ะ
จนกระทั่งไม่กี่วันมานี้ พ่อโทรมาคุยเรื่องนี้กับเเพมค่ะ พ่อก็ถามนู่นี่ แพมก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากมายเกี่ยวกับเค้า แต่แพมก็ไม่กล้าพอ กลัวว่าจะเป็นการอวยเค้า กลัวพ่อน้อยใจค่ะ แพมก็ได้เเต่ตอบๆไปตามเนื้อผ้าเท่านั้น พ่อเเพมตักเตือนเเพมต่างๆนานา แพมดูออกค่ะว่าพ่อยังไม่โอเคถ้าลูกจะมีแฟนตอนนี้ พ่อบอกว่าแพมว่ามีให้เราหลักมีฐานอะไรให้มั่นคงก่อน แล้วค่อยมาจริงจังเรื่องแบบนี้ เราต้องเจอคนอีกเยอะ บลาๆๆๆๆๆ
จนกระทั่งพ่อแพมยิงคำถามมาว่า "
พ่อคุยกับเค้าในวันนั้น เค้าบอกว่า(เคย)มีโรคประจำตัวอะไรสักอย่างเกียวกับหัวใจ หนูรู้ใช่มั้ย แล้วหนูคิดว่าเค้าจะสามารถแข็งแรงพอที่จะอยู่กับหนู ดูแลหนูได้รึเปล่า จะเป็นภาระของหนูมั้ยในอนาคต หนูจะรับมือไหวมั้ย ค่าใช้จ่ายอีกล่ะ คนเราต้องคิดอะไรหลายๆอย่างนะในการที่จะเลือกชีวิตคู่ "
ขณะที่พ่อถาม แพมมองเค้าที่เดินนำหน้าอยู่ห่างๆ แพมน้ำตาไหลเลยค่ะ แพมตอบพ่อไม่ถูกเลย ได้แต่เงียบค่ะ เเพมเข้าใจค่ะว่าพอ่ไม่ได้ต้องการที่จะเอาคำตอบตอนนั้น คือเค้าทิ้งไว้ให้เราคิดมากกว่าค่ะ แพมรู้ค่ะ รู้ก่อนจะคบกับแฟนอีก เค้าก็เคยบอกแพมค่ะ เค้าเป็นตั้งเเต่เกิดแต่ก็ผ่าตัดแล้ว เค้าบอกแพมว่าหมอบอกว่าหายเเล้วไม่ต้องกังวล เเพมไม่รู้ว่าเค้าจะกลับมาเป็นอีกมั้ย มันหายขาดแล้วจริงๆรึเปล่า ซึ่งเเพมไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกนะคะ แค่อยากรู้เฉยๆ
จนกระทั่งพ่อถามแบบนี้ คำถามแบบกลับมาอีกละค่ะ ที่พ่อพูดมันก็ถูก แพมก็เริ่มคิดละค่ะ ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ สถานการณ์แบบนั้น แพมกลัวรับมือไม่ไหว อันนี้เอาตามความจริงนะคะ แต่ลึกๆแล้วเราก็อยากจะอยู่กับเค้าดูเเลเค้า มันสับสนไปหมดเลย พูดง่ายๆคือ
ความจริงกับความฝันมันขัดกันค่ะ
แพมอยากรู้ความคิดของทุกคนค่ะ ถ้าเกิดโดนคำถามแบบนี้ จะคิดแบบไหนคะ
ป.ล. แพมเข้าใจพ่อดีค่ะ ที่พ่อถามเเบบนี้ พ่อมีจุดประสงค์เดียวคือ เป็นห่วงแพม ( เเพมเป็นลูกสาวคนเดียวด้วย )
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ



ถ้าพ่อของคุณถามคำถามแบบนี้ขึ้นมาในขณะที่คุณคบกับแฟน
แพมกับแฟนคบกันได้มาประมาณสองปีค่ะ กำลังก้าวสู่วัยทำงานค่ะ แฟนแพมเป็นคนดี น่ารัก เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ไม่เที่ยวผับ ร้านเหล้าไรทำนองนี้ เค้าคบกับเเพมได้นานที่สุด มากกว่าคนที่แพมเคยคบมาเลยค่ะ (เเเพมเคยคบกับคนก่อนๆมานานที่สุดก็เเค่ 2 เดือนเองง่ะ 5555 ) เค้าทนกับเเพมได้ทุกอย่างจริงๆ เรียกได้ว่าเค้าเปลี่ยนแพมจากหลังมือเป็นหน้ามือได้เลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จึงไม่แปลกค่ะพี่แพมจะรักเค้ามาก และตัดสินใจแน่วเเน่เเล้วค่ะว่ายังไงก็ต้องเป็นคนนี้ที่อยากจะใช้ชีวิตคู่ด้วย (ถึงแม้รู้อยู่เเล้วว่าอนาคตมันเปลี่ยนแปลงได้)
วันนั้นเพมเลิกเรียนดึกค่ะ เค้าเลยอาสาไปส่งแพมที่บ้าน ใจเราก็กลัวค่ะ กลัวที่บ้านจะไม่โอเค แต่ก็นะ เอาไงเอากันวะ !!
..... พอถึงลบ้านแพม พ่อแพมก็มาชวนเค้านั่งทานข้าวด้วยกันก่อนเค้าจะกลับ ก็ซักถามนู่นนี่นั่น เจอกันได้ไง บ้านอยู๋ไหน ที่บ้านทำอะไรอะไรประมาณนี่นั่น แต่เเพมไม่ได้บอกพ่อนะคะว่าเราเป็นแฟนกัน (แพมว่าแกรู้อยู่เเล้วเเหละ เเค่ไม่พูดเท่านั้นเอง 5555) หลังจากอาหารมื้อนั้นจบลง เค้าก็กลับบ้านค่ะ
จนกระทั่งไม่กี่วันมานี้ พ่อโทรมาคุยเรื่องนี้กับเเพมค่ะ พ่อก็ถามนู่นี่ แพมก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากมายเกี่ยวกับเค้า แต่แพมก็ไม่กล้าพอ กลัวว่าจะเป็นการอวยเค้า กลัวพ่อน้อยใจค่ะ แพมก็ได้เเต่ตอบๆไปตามเนื้อผ้าเท่านั้น พ่อเเพมตักเตือนเเพมต่างๆนานา แพมดูออกค่ะว่าพ่อยังไม่โอเคถ้าลูกจะมีแฟนตอนนี้ พ่อบอกว่าแพมว่ามีให้เราหลักมีฐานอะไรให้มั่นคงก่อน แล้วค่อยมาจริงจังเรื่องแบบนี้ เราต้องเจอคนอีกเยอะ บลาๆๆๆๆๆ
จนกระทั่งพ่อแพมยิงคำถามมาว่า " พ่อคุยกับเค้าในวันนั้น เค้าบอกว่า(เคย)มีโรคประจำตัวอะไรสักอย่างเกียวกับหัวใจ หนูรู้ใช่มั้ย แล้วหนูคิดว่าเค้าจะสามารถแข็งแรงพอที่จะอยู่กับหนู ดูแลหนูได้รึเปล่า จะเป็นภาระของหนูมั้ยในอนาคต หนูจะรับมือไหวมั้ย ค่าใช้จ่ายอีกล่ะ คนเราต้องคิดอะไรหลายๆอย่างนะในการที่จะเลือกชีวิตคู่ "
ขณะที่พ่อถาม แพมมองเค้าที่เดินนำหน้าอยู่ห่างๆ แพมน้ำตาไหลเลยค่ะ แพมตอบพ่อไม่ถูกเลย ได้แต่เงียบค่ะ เเพมเข้าใจค่ะว่าพอ่ไม่ได้ต้องการที่จะเอาคำตอบตอนนั้น คือเค้าทิ้งไว้ให้เราคิดมากกว่าค่ะ แพมรู้ค่ะ รู้ก่อนจะคบกับแฟนอีก เค้าก็เคยบอกแพมค่ะ เค้าเป็นตั้งเเต่เกิดแต่ก็ผ่าตัดแล้ว เค้าบอกแพมว่าหมอบอกว่าหายเเล้วไม่ต้องกังวล เเพมไม่รู้ว่าเค้าจะกลับมาเป็นอีกมั้ย มันหายขาดแล้วจริงๆรึเปล่า ซึ่งเเพมไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกนะคะ แค่อยากรู้เฉยๆ
จนกระทั่งพ่อถามแบบนี้ คำถามแบบกลับมาอีกละค่ะ ที่พ่อพูดมันก็ถูก แพมก็เริ่มคิดละค่ะ ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ สถานการณ์แบบนั้น แพมกลัวรับมือไม่ไหว อันนี้เอาตามความจริงนะคะ แต่ลึกๆแล้วเราก็อยากจะอยู่กับเค้าดูเเลเค้า มันสับสนไปหมดเลย พูดง่ายๆคือ ความจริงกับความฝันมันขัดกันค่ะ
แพมอยากรู้ความคิดของทุกคนค่ะ ถ้าเกิดโดนคำถามแบบนี้ จะคิดแบบไหนคะ
ป.ล. แพมเข้าใจพ่อดีค่ะ ที่พ่อถามเเบบนี้ พ่อมีจุดประสงค์เดียวคือ เป็นห่วงแพม ( เเพมเป็นลูกสาวคนเดียวด้วย )
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ