ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)กล่าวในที่ประชุมหัวหน้าหน่วยงานถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานจนมีผู้เสียชีวิตว่า ขอให้ผู้อำนวยการเขตทั้ง50เขตสำรวจว่าในพื้นที่ว่ามีกลุ่มผู้ใช้จักรยานจำนวนเท่าไรใช้เส้นทางใดบ้างเพื่อจะได้ทราบว่าจุดใดมีผู้ใช้จักรยานอยู่และกลุ่มผู้ใช้จักรยานเป็นกลุ่มใดมีสมาชิกจำนวนมากน้อยแค่ไหนเพื่อที่จะกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัย และขอให้แจ้งเตือนผู้ใช้จักรยานให้สวมอุปกรณ์ป้องกันพื้นฐานให้ครบถ้วนรวมทั้งตรวจสอบสภาพกายภาพของผิวจราจรให้มีความพร้อมที่สุดพร้อมจัดทำป้ายบอกทางและป้ายแนะนำเส้นทางสายรองและระมัดระวังเมื่อใช้ถนนที่มีรถยนต์จำนวนมากพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมความเร็วของผู้ขับขี่รถยนต์
นายอมร กิจเชวงกุลรองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า สำหรับความปลอดภัยในการใช้จักรยานในพื้นที่กรุงเทพฯมี 3ปัจจัยคือ 1.ปัจจัยภายในคือตัวบุคคลต้องมีทักษะ มีอุปกรณ์ความปลอดภัยและจักรยานต้องมีสภาพพร้อมใช้งานโดยเฉพาะการปั่นในเวลากลางคืนควรสวมเสื้อสะท้อนแสงหากปั่นเป็นกลุ่มมากถึง 50คนขึ้นไปควรแจ้งสำนักงานเขตหรือสถานีตำรวจเพื่อขอให้มีเจ้าหน้าที่ตามปิดท้ายขบวน2.ปัจจัยภายนอกคือกายภาพของเส้นทางและวินัยจราจรของผู้ขับขี่ทุกคนซึ่งกทม.จะสำรวจพื้นที่เพื่อติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในพื้นที่ที่มีการใช้จักรยานจำนวนมากและรถยนต์วิ่งด้วยความเร็วสูงอาทิ เส้นชะลอความเร็วสัญลักษณ์แจ้งว่าเป็นเส้นทางที่มีการใช้จักรยานเป็นต้น และ3.ปัจจัยร่วมคือข้อกฎหมายซึ่งผู้ใช้จักรยานและผู้ขับขี่ทุกคนต้องรู้ข้อบังคับและใช้ถนนร่วมกันอย่างถูกต้องอาทิ ผู้ปั่นจักรยานต้องไม่ปั่นในแนวขนานควรปั่นในแนวดิ่ง เป็นต้น ซึ่งจากปัญหาทั้งหมดนี้ กทม.จะหารือกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องอาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบทในการเพิ่มความปลอดภัยโดยเฉพาะการกำหนดความเร็วจากที่ถนนในกรุงเทพฯขับได้ไม่เกิน80กม./ชม.ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูงกว่านั้น จึงต้องหาทางเพื่อออกกฎหมายควบคุมความเร็วใหม่ในถนนที่มีผู้ใช้จักรยาน เช่น หากเป็นถนนที่มีการทางจักรยานอาจจะลดความเร็วลงมาไม่เกิน50กม./ชม.ส่วนถนนในซอยก็จะควบคุมให้ไม่เกิน30กม./ชม.ขณะที่ถนนที่ไม่มีเลนจักรยานก็ได้สั่งการให้สำนักการจราจรและขนส่งสำรวจความพร้อมในการจัดทำเพิ่มเติม.
ที่มา :
http://www.dailynews.co.th/bangkok/319730
comment : จะทำได้จริงเหรอครับ...เอาน่ะ ยังดีกว่าไม่ได้ทำ
แก้ปัญหาอุบัติเหตุนักปั่น เสนอให้ขับแค่30กม./ชม.
นายอมร กิจเชวงกุลรองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า สำหรับความปลอดภัยในการใช้จักรยานในพื้นที่กรุงเทพฯมี 3ปัจจัยคือ 1.ปัจจัยภายในคือตัวบุคคลต้องมีทักษะ มีอุปกรณ์ความปลอดภัยและจักรยานต้องมีสภาพพร้อมใช้งานโดยเฉพาะการปั่นในเวลากลางคืนควรสวมเสื้อสะท้อนแสงหากปั่นเป็นกลุ่มมากถึง 50คนขึ้นไปควรแจ้งสำนักงานเขตหรือสถานีตำรวจเพื่อขอให้มีเจ้าหน้าที่ตามปิดท้ายขบวน2.ปัจจัยภายนอกคือกายภาพของเส้นทางและวินัยจราจรของผู้ขับขี่ทุกคนซึ่งกทม.จะสำรวจพื้นที่เพื่อติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในพื้นที่ที่มีการใช้จักรยานจำนวนมากและรถยนต์วิ่งด้วยความเร็วสูงอาทิ เส้นชะลอความเร็วสัญลักษณ์แจ้งว่าเป็นเส้นทางที่มีการใช้จักรยานเป็นต้น และ3.ปัจจัยร่วมคือข้อกฎหมายซึ่งผู้ใช้จักรยานและผู้ขับขี่ทุกคนต้องรู้ข้อบังคับและใช้ถนนร่วมกันอย่างถูกต้องอาทิ ผู้ปั่นจักรยานต้องไม่ปั่นในแนวขนานควรปั่นในแนวดิ่ง เป็นต้น ซึ่งจากปัญหาทั้งหมดนี้ กทม.จะหารือกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องอาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบทในการเพิ่มความปลอดภัยโดยเฉพาะการกำหนดความเร็วจากที่ถนนในกรุงเทพฯขับได้ไม่เกิน80กม./ชม.ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูงกว่านั้น จึงต้องหาทางเพื่อออกกฎหมายควบคุมความเร็วใหม่ในถนนที่มีผู้ใช้จักรยาน เช่น หากเป็นถนนที่มีการทางจักรยานอาจจะลดความเร็วลงมาไม่เกิน50กม./ชม.ส่วนถนนในซอยก็จะควบคุมให้ไม่เกิน30กม./ชม.ขณะที่ถนนที่ไม่มีเลนจักรยานก็ได้สั่งการให้สำนักการจราจรและขนส่งสำรวจความพร้อมในการจัดทำเพิ่มเติม.
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/bangkok/319730
comment : จะทำได้จริงเหรอครับ...เอาน่ะ ยังดีกว่าไม่ได้ทำ