5-7 พ.ค. 2558 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวยัง อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะสุรินทร์ ทริปนี้กว่าจะหาเวลาว่างได้ก็จวนเจียนใกล้เวลาปิดเกาะเต็มที
ช่วงก่อนหน้าได้สอบถามไปยังผู้ให้บริการทัวร์ต่าง ๆ ก็บอกว่า โอเค เที่ยวได้จองได้ แต่มาสะดุดอยู่ที่นึงคือ Seastar Andaman น้องคนที่รับสายตอบกลับมา
แบบว่า "พี่จองได้ แต่อย่าพึ่งโอนเงินนะคะ รอใกล้ ๆ วันก่อนเดินทาง 2-3 วันค่อยเช็คสภาพอากาศอีกที ถึงตอนนั้นค่อยโอนเงินก็ได้ค่ะ"
เราก็เออ เฮ้ย บ.นี้จริงใจดี ก็เลยเลิกหาข้อมูล แล้วก็รอวันที่จะเดินทาง แต่สิ่งที่ซื้อไว้แล้วคือ ตั๋วเครื่องบิน ถ้าหากถึงวันเดินทาง เรือออกไม่ได้ทำไง...
ก็อยู่เที่ยวภูเก็ตแทนก็แล้วกัน 5555
DAY 1 เริ่มต้นผจญภัย
03.30 แหกขี้ตาตื่นเก็บข้าวเก็บของพะรุงพะรัง เพราะวันก่อนหน้าก็ยังทำงาน กว่าจะกลับบ้านก็ดึก ไม่มีเวลาเก็บของปราณีต คว้าอะไรหยิบได้หยิบ
ลากแตะใส่ชุดว่ายน้ำออกจากบ้านกันเลยทีเดียว
6.30 พอตั้งสติได้ ถ่ายออกไปนอกหน้าต่าง พื้นดินยังมืด ๆ พระจันทร์ลอยเด่น มีเมฆมาให้ใจหวิว ๆ ว่าจะมีพายุมั้ยนะ อากาศจะเป็นอย่างไร ถึงแม้จะดูพยากรณ์อากาศมาบ้างแต่ก็หวั่น ๆ เพราะทัวร์บอกว่า วันที่ 4 ฝนตกหนักที่เกาะท้างงงงวัน ฮ่วย!
7.10 ลงเครื่องบิน เปิดเครื่องมือถือ มีสายจากรถตู้ Missed Call มา 8 สาย สายที่ 9 รับแล้วกึ่งวิ่ง 100 เมตรไปหาพี่รถตู้ที่ทัวร์ส่งมารับ ถ้าใครจะมาไฟลท์เช้าแล้วลงเรือเลย บ.ทัวร์แนะนำว่า อย่าโหลดกระเป๋านะแจ๊ะ เพราะกว่าพี่จะรอรับกระเป๋า ลูกทัวร์คนอื่น ๆ ที่รถวิ่งไปรับจากโรงแรมมาจะรอนานและคงไม่งามเท่าไหร่ ระหว่างทางด้วยความเพลีย จึงยึดที่นั่งแถวหลังนอนยาว ๆ มา 1 ชม. ครึ่ง บนรถตู้ที่แม้อาจจะร้อน และเด้งแค่ไหน เราก็นอนได้ เพราะเราง่วง จบนะ
9.00 ตัดภาพฉัวะมาที่ "ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม" พอเห็นแดดเท่านั้น สติก็กลับมาครบ วันนี้ข้าพเจ้าได้ไปแน่ ๆ ยิ้มแป้ด.... โฮะ คนก็น้อยหยั่งงี้ สบาย
ไกด์จะเช็คความเรียบร้อย และบรรยายสรุปนิดหน่อย ไอ้นั่นไอ้นี่ ห้ามนั้น ห้ามนี้ ok ผมไปมาหลายเกาะแล้ว เคยแอบฉี่ใส่ทะเลแค่ครั้งเดียว ยังไม่เคยขโมยหอย มือเสือ กลับบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้น เรื่องความรักธรรมชาติไว้ใจผมได้
9.30 อยู่บนเรือ จะให้ได้บรรยากาศมันต้องหัวเรือ โฮะ ๆ ๆ ๆ แล้วเป็นไง โอ้โหชิลมาก ๆ ครับ วิวน้ำทะเล ลมพัดเย็น ๆ เรือกระเด้งตู้ม ๆ หน้าฝากโดนแดด ลอกเบย....
11.00 เราก้มาถึงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ซะที เมื่อเรือ Speed Boat มาถึง เขาก็จะพาไปชมหมู่บ้านมอร์แกนเลย ให้ลงไปเดิน ๆ ชม ๆ ซื้อของที่ระลึกจากเด็กน้อยชาวมอร์แกน ถ่ายรูปกับป้าย ถ่ายรูปกับต้นมะม่วงยักษ์ และถ่ายรูปกับอะไรก็ได้ที่อยากถ่าย แต่พวกผมที่กำลังเมาหมัด เมาแดด เมาลม เมาทุกสิ่งอย่างระหว่างการเดินทางมายังเกาะ ก็ไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้ทัน กำลังจะเอ๊อะ อ๊ะ อ้าว หมดเวลา ไกด์เรียกขึ้นเรือไปดำน้ำจุดแรก โอนี่ ฉันตื่นตีสาม บุกป่าฝ่าดงมาถึงเกาะ เกือบเที่ยง จะได้ดำน้ำแล้ว เย้....!!!!
[เสียใจด้วย ช่วงนี้ไม่มีรูปเพราะยังไม่มีสติ]
ช่วงเวลาที่ดำน้ำ จุดแรก และจุดที่ 2 จนขึ้นเกาะ ผมยัง งง ๆ อยู่ ยังตั้งสติไม่ได้ จนพี่เขามาส่งขึ้นเกาะ
12.30 ขึ้นเกาะ ดั่งมีเวทย์มนต์วิเศษ พลังงานชีพจรในร่างกายถูกกระตุ้นให้ไหลเวียนขึ้นมา วิญญานกลับเข้าร่าง เพราะบรรยากาศที่สวยงาม และเงียบอย่างสงบ เสียงคลื่นเบา ๆ เสียงลมอ่อย ๆ เสียงใบไม้กระทบกันเปาะแปะ สูดหายใจเข้าลึก ๆ นี่มันสวรรค์ชัด ๆ ทั้งเกาะมีเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน มีไกด์ของบริษัทต่าง ๆ และลูกทัวร์ในจำนวนที่สูสีกัน บางเวลาไกด์จะเยอะกว่าลูกทัวร์ด้วยซ้ำ
จึงขอรีวิวบรรยากาศรอบ ๆ บนเกาะเบา ๆ ก่อนพาไปดำน้ำกันแบบจริงจังนะครับ
สภาพร้างผู้คนบนที่ทำการอ่าวช่องขาด
หน้าหาดช่องขาด ก็เงียบมาก แต่ไม่วังเวง ยังรู้สึกถึงพลังงานที่เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตชีวา
หาดไม้งามซึ่งปิดหลังจากวันที่ 20 เม.ย. แต่ก็ยังให้พี่ไกด์พานั่งเรือมาเล่นได้ อันนี้ เงียบและสงบมาก ๆ ไม่มีคนเลย
หาดนี้เราเหมา เป็นของเราคนเดียวว่ะฮ่ะ ๆ ๆ ฮ่าาาา แฮ่ก ๆ ๆ จะเล่นเชือกโหน จะเล่นชิงช้า ก็ไม่มีใครมาแย่ง ไม่มีใครมาต่อคิว สวรรค์ชัด ๆ
กลางคืนก็กินข้าวแบบชิล ๆ เงียบ ๆ งุงิ กระหนุงกระหนิง ไม่มีความรีบร้อนใด ๆ ให้เห็นเลย เปิดเพลงไม่ใช่ผู้วิเศษณ์จากมือถือเบา ๆ
เมียเก่า ก็เมียเก่าเถอะ จะนึกว่าเป็นแฟนใหม่ขึ้นมาทันที
[CR] [CR] หมู่เกาะสุรินทร์ 5-7 พ.ค. 58 เธอกำลังจะกลับมาแล้ว
ช่วงก่อนหน้าได้สอบถามไปยังผู้ให้บริการทัวร์ต่าง ๆ ก็บอกว่า โอเค เที่ยวได้จองได้ แต่มาสะดุดอยู่ที่นึงคือ Seastar Andaman น้องคนที่รับสายตอบกลับมา
แบบว่า "พี่จองได้ แต่อย่าพึ่งโอนเงินนะคะ รอใกล้ ๆ วันก่อนเดินทาง 2-3 วันค่อยเช็คสภาพอากาศอีกที ถึงตอนนั้นค่อยโอนเงินก็ได้ค่ะ"
เราก็เออ เฮ้ย บ.นี้จริงใจดี ก็เลยเลิกหาข้อมูล แล้วก็รอวันที่จะเดินทาง แต่สิ่งที่ซื้อไว้แล้วคือ ตั๋วเครื่องบิน ถ้าหากถึงวันเดินทาง เรือออกไม่ได้ทำไง...
ก็อยู่เที่ยวภูเก็ตแทนก็แล้วกัน 5555
DAY 1 เริ่มต้นผจญภัย
03.30 แหกขี้ตาตื่นเก็บข้าวเก็บของพะรุงพะรัง เพราะวันก่อนหน้าก็ยังทำงาน กว่าจะกลับบ้านก็ดึก ไม่มีเวลาเก็บของปราณีต คว้าอะไรหยิบได้หยิบ
ลากแตะใส่ชุดว่ายน้ำออกจากบ้านกันเลยทีเดียว
6.30 พอตั้งสติได้ ถ่ายออกไปนอกหน้าต่าง พื้นดินยังมืด ๆ พระจันทร์ลอยเด่น มีเมฆมาให้ใจหวิว ๆ ว่าจะมีพายุมั้ยนะ อากาศจะเป็นอย่างไร ถึงแม้จะดูพยากรณ์อากาศมาบ้างแต่ก็หวั่น ๆ เพราะทัวร์บอกว่า วันที่ 4 ฝนตกหนักที่เกาะท้างงงงวัน ฮ่วย!
7.10 ลงเครื่องบิน เปิดเครื่องมือถือ มีสายจากรถตู้ Missed Call มา 8 สาย สายที่ 9 รับแล้วกึ่งวิ่ง 100 เมตรไปหาพี่รถตู้ที่ทัวร์ส่งมารับ ถ้าใครจะมาไฟลท์เช้าแล้วลงเรือเลย บ.ทัวร์แนะนำว่า อย่าโหลดกระเป๋านะแจ๊ะ เพราะกว่าพี่จะรอรับกระเป๋า ลูกทัวร์คนอื่น ๆ ที่รถวิ่งไปรับจากโรงแรมมาจะรอนานและคงไม่งามเท่าไหร่ ระหว่างทางด้วยความเพลีย จึงยึดที่นั่งแถวหลังนอนยาว ๆ มา 1 ชม. ครึ่ง บนรถตู้ที่แม้อาจจะร้อน และเด้งแค่ไหน เราก็นอนได้ เพราะเราง่วง จบนะ
9.00 ตัดภาพฉัวะมาที่ "ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม" พอเห็นแดดเท่านั้น สติก็กลับมาครบ วันนี้ข้าพเจ้าได้ไปแน่ ๆ ยิ้มแป้ด.... โฮะ คนก็น้อยหยั่งงี้ สบาย
ไกด์จะเช็คความเรียบร้อย และบรรยายสรุปนิดหน่อย ไอ้นั่นไอ้นี่ ห้ามนั้น ห้ามนี้ ok ผมไปมาหลายเกาะแล้ว เคยแอบฉี่ใส่ทะเลแค่ครั้งเดียว ยังไม่เคยขโมยหอย มือเสือ กลับบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้น เรื่องความรักธรรมชาติไว้ใจผมได้
9.30 อยู่บนเรือ จะให้ได้บรรยากาศมันต้องหัวเรือ โฮะ ๆ ๆ ๆ แล้วเป็นไง โอ้โหชิลมาก ๆ ครับ วิวน้ำทะเล ลมพัดเย็น ๆ เรือกระเด้งตู้ม ๆ หน้าฝากโดนแดด ลอกเบย....
11.00 เราก้มาถึงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ซะที เมื่อเรือ Speed Boat มาถึง เขาก็จะพาไปชมหมู่บ้านมอร์แกนเลย ให้ลงไปเดิน ๆ ชม ๆ ซื้อของที่ระลึกจากเด็กน้อยชาวมอร์แกน ถ่ายรูปกับป้าย ถ่ายรูปกับต้นมะม่วงยักษ์ และถ่ายรูปกับอะไรก็ได้ที่อยากถ่าย แต่พวกผมที่กำลังเมาหมัด เมาแดด เมาลม เมาทุกสิ่งอย่างระหว่างการเดินทางมายังเกาะ ก็ไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้ทัน กำลังจะเอ๊อะ อ๊ะ อ้าว หมดเวลา ไกด์เรียกขึ้นเรือไปดำน้ำจุดแรก โอนี่ ฉันตื่นตีสาม บุกป่าฝ่าดงมาถึงเกาะ เกือบเที่ยง จะได้ดำน้ำแล้ว เย้....!!!!
[เสียใจด้วย ช่วงนี้ไม่มีรูปเพราะยังไม่มีสติ]
ช่วงเวลาที่ดำน้ำ จุดแรก และจุดที่ 2 จนขึ้นเกาะ ผมยัง งง ๆ อยู่ ยังตั้งสติไม่ได้ จนพี่เขามาส่งขึ้นเกาะ
12.30 ขึ้นเกาะ ดั่งมีเวทย์มนต์วิเศษ พลังงานชีพจรในร่างกายถูกกระตุ้นให้ไหลเวียนขึ้นมา วิญญานกลับเข้าร่าง เพราะบรรยากาศที่สวยงาม และเงียบอย่างสงบ เสียงคลื่นเบา ๆ เสียงลมอ่อย ๆ เสียงใบไม้กระทบกันเปาะแปะ สูดหายใจเข้าลึก ๆ นี่มันสวรรค์ชัด ๆ ทั้งเกาะมีเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน มีไกด์ของบริษัทต่าง ๆ และลูกทัวร์ในจำนวนที่สูสีกัน บางเวลาไกด์จะเยอะกว่าลูกทัวร์ด้วยซ้ำ
จึงขอรีวิวบรรยากาศรอบ ๆ บนเกาะเบา ๆ ก่อนพาไปดำน้ำกันแบบจริงจังนะครับ
สภาพร้างผู้คนบนที่ทำการอ่าวช่องขาด
หน้าหาดช่องขาด ก็เงียบมาก แต่ไม่วังเวง ยังรู้สึกถึงพลังงานที่เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตชีวา
หาดไม้งามซึ่งปิดหลังจากวันที่ 20 เม.ย. แต่ก็ยังให้พี่ไกด์พานั่งเรือมาเล่นได้ อันนี้ เงียบและสงบมาก ๆ ไม่มีคนเลย
หาดนี้เราเหมา เป็นของเราคนเดียวว่ะฮ่ะ ๆ ๆ ฮ่าาาา แฮ่ก ๆ ๆ จะเล่นเชือกโหน จะเล่นชิงช้า ก็ไม่มีใครมาแย่ง ไม่มีใครมาต่อคิว สวรรค์ชัด ๆ
กลางคืนก็กินข้าวแบบชิล ๆ เงียบ ๆ งุงิ กระหนุงกระหนิง ไม่มีความรีบร้อนใด ๆ ให้เห็นเลย เปิดเพลงไม่ใช่ผู้วิเศษณ์จากมือถือเบา ๆ
เมียเก่า ก็เมียเก่าเถอะ จะนึกว่าเป็นแฟนใหม่ขึ้นมาทันที