ขออนุญาตเปิดกระทู้แรกในชีวิตเลยนะคะ เนื่องจากเราเป็นตุ๊มหาลัยที่เพิ่งเปลี่ยนเฟส รูปตอนมัธยมทั้งหลายมันก็หายไปกับเฟสเก่าหมดเลย แล้วเรื่องเริ่มต้นมีอยู่ว่า เราชื่นชอบการ์ตูนเรื่องหนึ่ง (Pokemon) แล้วเราซึ่งได้ไปเจอเฟสน้องคนหนึ่งที่เค้าก็เล่นโปเกมอนเหมือนกับเรา แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะทักเรามา ซึ่งในตอนแรกน้องไม่รู้ว่าเราเป็น "ตุ๊ด" เราก็เลยคุยไปเรื่อยๆตามประสาคนชอบการ์ตูนเหมือนกัน แต่น้องก็มีหยอดมุข ประมาณว่าจีบ เราคิดว่าเราไม่ได้มโนไปเอง เพราะน้องเค้าพูดเหมือนท่าทางเข้าหาเราโดยตรงเลยไม่ใช่แบบคนเล่นเกมส์เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้น้องยังไม่รู้ว่าเราเป็นตุ๊ด แต่เราคิดว่าน้องน่าจะรู้ตั้งแต่แรกที่เป็นเพื่อนกันเเล้วเราก็เลยไม่ได้บอกอะไรไป ต่อมาก็คุยมาเรื่อยๆจนเข้าขั้นชอบเลยก็ว่าได้ เพราะตุ๊ดแบบเราอ่อนไหวง่าย ใครเข้ามาคุยด้วยก็เลยมีความสุข เพราะเราคิดว่าจะมีผู้ชายซักกี่คนที่เข้าใจเรา แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเลย น้องบอกเราว่าน้องคุยกับเราเป็นมหาลัยคนแรกที่คุยด้วย เราก็แอบถามไปว่า
เรา : น้องรู้ใช่มั้ยว่าพี่เป็น (ในใจบอกว่ารู้ใช่มั้ยว่าเป็นตุ๊ด)
น้อง : รู้อะไรหรอพี่ครับ
เรา : ก็พี่เป็นเหมือนเพื่อนพี่ในรูป (ในรูปเราถ่ายกับเพื่อน 3 คน เป็นตุ๊ดทั้ง 3 คนแรกไว้ผมสั้น คนที่สองไว้ผมยาว ส่วนเราคนที่ 3 ก็ไว้ผมยาว)
น้อง : ก็เป็นผญ. นิครับ (หมายถึงเพื่อนคนที่ 2 ที่น้องดูไม่ออก)
เรา : ไม่ใช่ทั้งหมดในรูปอ่าไม่ใช่ ผญ.หมดเลย
น้อง : เห้ย จริงดิ ตกใจ ช็อค !
เรา : จริงๆ พี่ไม่ได้โกหก พี่เป็นแบบนี้จริงๆ
น้อง : ผมก็นึกว่าคุยกับผู้หญิงอยู่
เรา : พี่ก็นึกว่าน้องรู้ตั้งแต่แรกซะอีก
น้อง : ทำไมพี่ไม่เป็นผู้หญิงซะละ
เรา : ก็ตอนนี้พี่กำลังเป็น ผู้หญิงไง ไว้ผมยาวแล้วแต่พี่ไม่เคยโกหกใคร พี่ก็บอกตลอดเวลาใครมาคุยกับพี่ พอรู้บางทีก็หาย บางทีก็ด่าพี่
น้อง : ทีหลังพี่บอกไปเลย พี่อ่ะเป้นผุ้หญิง ใจพี่ก็เป็นผุ้หญิง ร่างกายก็เกือบเป็นละ เหลือแค่.....(รู้กันนะคะ)
แล้วหลังจากนั้นน้องก็คุยกับเราเหมือนเดิม
น้อง : ตอนแรกผมคิดว่าพี่เป็นผู้หญิงใช่ป่ะ
เรา : อื้อๆช่าย แล้วไงต่อ
น้อง : พี่ก็น่ารักใช่ป่ะ สวย พูดน่ารัก
เรา : หึ้ยจริงหรอ ไม่นะพี่ไม่คิดว่าพี่สวยหรอก
น้อง : ทำไมพี่คิดยังงั้นล่ะครับ
เรา : ไม่รู้นะพี่ไม่คิดว่าสวยหรอก แล้วไงอ่า พี่พูดหมดแล้ว น้องก็บอกพี่ชัดๆมาเลย
น้อง : แค่ตกใจ จริงๆนะ
เรา : พี่ก็คิดว่าน้องรู้ตั้งแต่แรกซะอีก
น้อง : ผมต้องบอกความลับพี่ด้วยใช่ป่ะ
เรา : มีความลับด้วยหรอ ?
น้อง : ตอนแรกผมจะคุยกับพี่แบบนั้น (แบบแฟน) แต่แค่นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ
เรา : พี่ขอชัดๆได้ป่ะ พี่บอกชัดๆไปแล้ว
น้อง : ก็พี่เป็นคนแรกมหาลัยที่ผมคุยด้วย
เรา : น้องก็เป็นรุ่นน้องคนแรกเหมือนกันที่พี่คุยด้วย พี่ก็แอบดีใจคิดว่ามีผู้ชายอีกคนที่ยังเข้าใจพี่
น้อง : แต่จริงๆ มีแฟนแล้ว (ซึ่งในตอนแรกไม่เคยบอกเราเลยว่ามีแฟนเราก็คิดว่าเป้นการปฏิเสธทางอ้อมรึเปล่า)
แต่มาบอกเราทีหลังว่ามีแฟนแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยบอกเราเลย เราก็ถามไปว่า
เรา : ถ้าพี่เป็นผญ.จริงๆแล้วน้องมาคุยกับพี่ แฟนน้องจะไม่ว่าหรอ ?
น้อง : ไม่รู้ 555555555 ไม่ดีเลยเนาะ
เรา : พี่ก็คิดว่าน้องจะเข้าใจพี่ซะอีก น้องมาพูดแบบนี้พี่รู้สึกแย่มากเลยนะ พี่เป็นตุ๊ดใครๆก็มองว่าแย่แล้ว แล้วยิ่งน้องมาบอกว่ามีแฟนยิ่งทำให้พี่ดูแย่เข้าไปอีก ที่เหมือนพี่ไปแย่งหรือไปเป็นมือที่ 3 ของใคร ซึ่งสถานะนี้พี่เคยเจอมาแล้วกับตัว เพราะเพื่อนเอาแชทที่แฟนเก่าคุยกับอีกคนมาให้พี่ดู ที่ทำให้พี่เลิกกับแฟนเก่าไป
น้อง : เนาะ แต่ผมไม่ได้คิดแล้ว
เรา : โอเค (ตอนนั้นอึ้ง ทำอะไรไม่ถูกตอบได้แค่ว่าโอเค)
ซึ่งในขณะนั้นเราก็ได้ทวิตเตอร์ไปปรึกษากับพี่อ้อย พี่อ้อยก็ตอบได้ว่า
"ความรักของน้องมันเปราะบาง ถ้าเราคิดกับเราจริงๆ เดี๋ยววันหนึ่งเราต้องรู้เอง"
หลังจากวันนั้นแฟนของน้องก็แท็กรูปมา ยิ่งทำให้รู้ว่าเรื่องที่น้องพูดเป็นเรื่องจริง มันยิ่งทำให้เรารู้สึกผิดมาก แต่น้องก็ยังคุยกับเราเหมือนเดิม ทักมาเหมือนเดิม เราอยากจะไม่ตอบ ไม่ทัก หรือหายไปเลย แต่น้องจะสงสัยมั้ยอ่าคะถ้าเราหายไปเฉยๆโดยที่ไม่บอกอะไรเลย
ผู้ชายที่เข้ามาคุยด้วยไม่รู้ว่าเราเป็น "ตุ้ด"
เรา : น้องรู้ใช่มั้ยว่าพี่เป็น (ในใจบอกว่ารู้ใช่มั้ยว่าเป็นตุ๊ด)
น้อง : รู้อะไรหรอพี่ครับ
เรา : ก็พี่เป็นเหมือนเพื่อนพี่ในรูป (ในรูปเราถ่ายกับเพื่อน 3 คน เป็นตุ๊ดทั้ง 3 คนแรกไว้ผมสั้น คนที่สองไว้ผมยาว ส่วนเราคนที่ 3 ก็ไว้ผมยาว)
น้อง : ก็เป็นผญ. นิครับ (หมายถึงเพื่อนคนที่ 2 ที่น้องดูไม่ออก)
เรา : ไม่ใช่ทั้งหมดในรูปอ่าไม่ใช่ ผญ.หมดเลย
น้อง : เห้ย จริงดิ ตกใจ ช็อค !
เรา : จริงๆ พี่ไม่ได้โกหก พี่เป็นแบบนี้จริงๆ
น้อง : ผมก็นึกว่าคุยกับผู้หญิงอยู่
เรา : พี่ก็นึกว่าน้องรู้ตั้งแต่แรกซะอีก
น้อง : ทำไมพี่ไม่เป็นผู้หญิงซะละ
เรา : ก็ตอนนี้พี่กำลังเป็น ผู้หญิงไง ไว้ผมยาวแล้วแต่พี่ไม่เคยโกหกใคร พี่ก็บอกตลอดเวลาใครมาคุยกับพี่ พอรู้บางทีก็หาย บางทีก็ด่าพี่
น้อง : ทีหลังพี่บอกไปเลย พี่อ่ะเป้นผุ้หญิง ใจพี่ก็เป็นผุ้หญิง ร่างกายก็เกือบเป็นละ เหลือแค่.....(รู้กันนะคะ)
แล้วหลังจากนั้นน้องก็คุยกับเราเหมือนเดิม
น้อง : ตอนแรกผมคิดว่าพี่เป็นผู้หญิงใช่ป่ะ
เรา : อื้อๆช่าย แล้วไงต่อ
น้อง : พี่ก็น่ารักใช่ป่ะ สวย พูดน่ารัก
เรา : หึ้ยจริงหรอ ไม่นะพี่ไม่คิดว่าพี่สวยหรอก
น้อง : ทำไมพี่คิดยังงั้นล่ะครับ
เรา : ไม่รู้นะพี่ไม่คิดว่าสวยหรอก แล้วไงอ่า พี่พูดหมดแล้ว น้องก็บอกพี่ชัดๆมาเลย
น้อง : แค่ตกใจ จริงๆนะ
เรา : พี่ก็คิดว่าน้องรู้ตั้งแต่แรกซะอีก
น้อง : ผมต้องบอกความลับพี่ด้วยใช่ป่ะ
เรา : มีความลับด้วยหรอ ?
น้อง : ตอนแรกผมจะคุยกับพี่แบบนั้น (แบบแฟน) แต่แค่นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ
เรา : พี่ขอชัดๆได้ป่ะ พี่บอกชัดๆไปแล้ว
น้อง : ก็พี่เป็นคนแรกมหาลัยที่ผมคุยด้วย
เรา : น้องก็เป็นรุ่นน้องคนแรกเหมือนกันที่พี่คุยด้วย พี่ก็แอบดีใจคิดว่ามีผู้ชายอีกคนที่ยังเข้าใจพี่
น้อง : แต่จริงๆ มีแฟนแล้ว (ซึ่งในตอนแรกไม่เคยบอกเราเลยว่ามีแฟนเราก็คิดว่าเป้นการปฏิเสธทางอ้อมรึเปล่า)
แต่มาบอกเราทีหลังว่ามีแฟนแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยบอกเราเลย เราก็ถามไปว่า
เรา : ถ้าพี่เป็นผญ.จริงๆแล้วน้องมาคุยกับพี่ แฟนน้องจะไม่ว่าหรอ ?
น้อง : ไม่รู้ 555555555 ไม่ดีเลยเนาะ
เรา : พี่ก็คิดว่าน้องจะเข้าใจพี่ซะอีก น้องมาพูดแบบนี้พี่รู้สึกแย่มากเลยนะ พี่เป็นตุ๊ดใครๆก็มองว่าแย่แล้ว แล้วยิ่งน้องมาบอกว่ามีแฟนยิ่งทำให้พี่ดูแย่เข้าไปอีก ที่เหมือนพี่ไปแย่งหรือไปเป็นมือที่ 3 ของใคร ซึ่งสถานะนี้พี่เคยเจอมาแล้วกับตัว เพราะเพื่อนเอาแชทที่แฟนเก่าคุยกับอีกคนมาให้พี่ดู ที่ทำให้พี่เลิกกับแฟนเก่าไป
น้อง : เนาะ แต่ผมไม่ได้คิดแล้ว
เรา : โอเค (ตอนนั้นอึ้ง ทำอะไรไม่ถูกตอบได้แค่ว่าโอเค)
ซึ่งในขณะนั้นเราก็ได้ทวิตเตอร์ไปปรึกษากับพี่อ้อย พี่อ้อยก็ตอบได้ว่า
"ความรักของน้องมันเปราะบาง ถ้าเราคิดกับเราจริงๆ เดี๋ยววันหนึ่งเราต้องรู้เอง"
หลังจากวันนั้นแฟนของน้องก็แท็กรูปมา ยิ่งทำให้รู้ว่าเรื่องที่น้องพูดเป็นเรื่องจริง มันยิ่งทำให้เรารู้สึกผิดมาก แต่น้องก็ยังคุยกับเราเหมือนเดิม ทักมาเหมือนเดิม เราอยากจะไม่ตอบ ไม่ทัก หรือหายไปเลย แต่น้องจะสงสัยมั้ยอ่าคะถ้าเราหายไปเฉยๆโดยที่ไม่บอกอะไรเลย