สวัสดีค่ะทุกคน...พบกับรักสายหมอกอีกแล้วนะคะ วันนี้ก็มาพร้อมกับภาพถ่ายและเรื่องราวการเดินทางต่างๆเช่นเดิมค่ะ ครั้งนี้ถือเป็นทริปที่ยาวมากจริงๆ เดินทางถ่ายภาพหลากหลายที่มากเลย จนต้องทำแยกออกมามากกว่าหนึ่งกระทู้รีวิวเลย กระทู้นี้คือกระทู้รีวิวแรกค่ะ ฝากดูและมาแสดงความคิดเห็นติชมกันได้นะคะ ตอนนี้อยู่ในช่วงฝึกถ่ายภาพอยู่ ก็เริ่มจับกล้องจริงๆจังๆมาได้สี่ปีแล้วล่ะคะ แต่ยังไม่ชำนาญนัก หากมีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติมก็บอกได้นะคะ จะได้นำไปปรับปรุง ขอบคุณล่วงหน้าค่ะทุกคน
เมื่อหลายวันก่อน ฉันและครอบครัวได้เดินทางไปงานเลี้ยงรุ่นของคุณแม่ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เราได้ออกเดินทางจากชัยนาทกันช่วงเจ็ดโมงกว่าๆ ใช้เวลาประมาณ4-5ชั่วโมงก็เดินทางมาจนถึงนครนายก เห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกเยอะ เพราะเราไม่รีบมาก เลยได้มีโอกาสแวะเข้าไปนมัสการพระที่อุทยานพระพิฆเนศและพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ สถานที่ทั้งสองแห่งนี้เข้าไปทางเดียวกัน คือเป็นเส้นทางเดียวกับที่เข้าไปเขื่อนขุนด่านปราการชลเลยค่ะ แต่อุทยานพระพิฆเนศจะถึงก่อน วันนั้นรถติดมากบริเวณตลาดโรงเกลือค่ะ ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วเนอะ เพราะด้วยความที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครนายกอยู่ในเส้นทางนี้ทั้งหมดและยิ่งวันที่เราไปเป็นช่วงวันหยุดแรงงานด้วย คนจึงมาเที่ยวกันเยอะ แต่ไหนๆก็เข้ามาจะครึ่งทางอยู่แล้วจะกลับได้อย่างไร นานๆจะมีโอกาสได้เข้ามาทำบุญสักที แค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเราหรอก
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงอุทยานพระพิฆเนศ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานเทวรูป พระพิฆเณศวร ขนาดใหญ่ ภายใน อุทยานพระพิฆเณศ มีพระพิฆเนศองค์ใหญ่ 2 ปาง ตั้งอยู่ใกล้กันถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ที่เกิดขึ้นมาด้วยพลังศรัทธาจากประชาชน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม่ของจังหวัดนครนายกนอกจากมีพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุด
ลองเลือกถ่ายหลายๆมุม พยายามให้ได้เรื่องราวที่ต้องการสื่อแก่ผู้ชม
หลังจากพวกเราได้นมัสการพระและทำบุญสร้างกุศลร่วมกันที่อุทยานพระพิฆเนศไปแล้ว ก็ไม่รอช้า รีบเดินทางไปต่อกันที่พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานพระพิฆเนศมากนัก ขับรถไปตามเส้นทางเดิมจะเจอแยกไฟแดง ขวามือคือเข้าไปเขื่อนขุนด่านปราการชล เราไม่ต้องเลี้ยวค่ะ ให้ขับตรงไปเรื่อยๆเลย ระหว่างที่ขับรถพยายามมองริมถนนด้านขวา จะมีป้ายเขียนว่าพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ ให้เราเข้าไปตามป้ายเลยค่ะ แล้วจะพบกับพระพุทธรูป1,250รูปเห็นเด่นเป็นสง่า
วันนั้นท้องฟ้าเป็นใจมากเลยค่ะ มาได้ถูกจังหวะพอดี ก่อนจะลงมือถ่ายรูปได้ขออนุญาตองค์พระปฏิมา
"....ลูกขออนุญาตเข้ามาถ่ายภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ บอกบุญ และเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาค่ะ ขอให้การถ่ายภาพครั้งนี้จงเป็นผลสำเร็จตามที่ปรารถนาด้วยเถิด สาธุ "
ภาพบ้านไม้ด้านล่างนี้ฉันคิดว่าน่าจะเป็นที่พักของพระสงฆ์ ไม่ก็เป็นที่พักของผู้มาปฎิบัติธรรมนะคะ เพราะดูแล้วเหมือนเพิ่งจะสร้างเสร็จเอง
ณ พุทธสถานแห่งนี้ นอกจากจะมีพระพุทธรูปจำนวน 1,250 รูปอันงดงามเลื่องชื่อแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่โด่งดังไม่แพ้กันก็คือ...ประติมากรรมทราย “พุทธจริยาวัตร 60 ปาง” ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ทำนองเดียวกับพุทธประวัติ รวมทั้งสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาในต่างประเทศ เช่น เจดีย์สวยัมภูวนารถ ที่เนปาล เจดีย์พุทธคยา ที่อินเดีย เป็นต้น ประติมากรรมทรายนี้มีขนาดกว้าง 7.4 เมตร ยาว 54 เมตร สูง 6.4 เมตร ใช้ทรายแม่น้ำน้ำหนัก 100 ตัน ถือได้ว่าเป็นประติมากรรมทรายที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
วันนี้นับได้ว่าคุ้มจริงๆที่ได้มีโอกาสมานมัสการพระและทำบุญร่วมกันในครอบครัว ทั้งยังได้ภาพถ่ายสวยๆมาฝากทุกคนด้วย ขอบุญกุศลที่ได้ทำจงไปถึงทุกคนด้วยเถิด อนุโมทนาค่ะ
ปล.ติดตามผลงานการถ่ายภาพอื่นๆของรักสายหมอกได้ที่
https://www.facebook.com/LoveTalemok
By...รักสายหมอก
....Good Luck To Travel....
[CR] รีวิว!!! พามาชม 2 พุทธสถานอันงดงาม Unseen ของนครนายก ( Unseen Nakhon Nayok ,Thailand)
เมื่อหลายวันก่อน ฉันและครอบครัวได้เดินทางไปงานเลี้ยงรุ่นของคุณแม่ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เราได้ออกเดินทางจากชัยนาทกันช่วงเจ็ดโมงกว่าๆ ใช้เวลาประมาณ4-5ชั่วโมงก็เดินทางมาจนถึงนครนายก เห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกเยอะ เพราะเราไม่รีบมาก เลยได้มีโอกาสแวะเข้าไปนมัสการพระที่อุทยานพระพิฆเนศและพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ สถานที่ทั้งสองแห่งนี้เข้าไปทางเดียวกัน คือเป็นเส้นทางเดียวกับที่เข้าไปเขื่อนขุนด่านปราการชลเลยค่ะ แต่อุทยานพระพิฆเนศจะถึงก่อน วันนั้นรถติดมากบริเวณตลาดโรงเกลือค่ะ ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วเนอะ เพราะด้วยความที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครนายกอยู่ในเส้นทางนี้ทั้งหมดและยิ่งวันที่เราไปเป็นช่วงวันหยุดแรงงานด้วย คนจึงมาเที่ยวกันเยอะ แต่ไหนๆก็เข้ามาจะครึ่งทางอยู่แล้วจะกลับได้อย่างไร นานๆจะมีโอกาสได้เข้ามาทำบุญสักที แค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเราหรอก
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงอุทยานพระพิฆเนศ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานเทวรูป พระพิฆเณศวร ขนาดใหญ่ ภายใน อุทยานพระพิฆเณศ มีพระพิฆเนศองค์ใหญ่ 2 ปาง ตั้งอยู่ใกล้กันถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ที่เกิดขึ้นมาด้วยพลังศรัทธาจากประชาชน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม่ของจังหวัดนครนายกนอกจากมีพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุด
ลองเลือกถ่ายหลายๆมุม พยายามให้ได้เรื่องราวที่ต้องการสื่อแก่ผู้ชม
หลังจากพวกเราได้นมัสการพระและทำบุญสร้างกุศลร่วมกันที่อุทยานพระพิฆเนศไปแล้ว ก็ไม่รอช้า รีบเดินทางไปต่อกันที่พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานพระพิฆเนศมากนัก ขับรถไปตามเส้นทางเดิมจะเจอแยกไฟแดง ขวามือคือเข้าไปเขื่อนขุนด่านปราการชล เราไม่ต้องเลี้ยวค่ะ ให้ขับตรงไปเรื่อยๆเลย ระหว่างที่ขับรถพยายามมองริมถนนด้านขวา จะมีป้ายเขียนว่าพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ ให้เราเข้าไปตามป้ายเลยค่ะ แล้วจะพบกับพระพุทธรูป1,250รูปเห็นเด่นเป็นสง่า
วันนั้นท้องฟ้าเป็นใจมากเลยค่ะ มาได้ถูกจังหวะพอดี ก่อนจะลงมือถ่ายรูปได้ขออนุญาตองค์พระปฏิมา
"....ลูกขออนุญาตเข้ามาถ่ายภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ บอกบุญ และเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาค่ะ ขอให้การถ่ายภาพครั้งนี้จงเป็นผลสำเร็จตามที่ปรารถนาด้วยเถิด สาธุ "
ภาพบ้านไม้ด้านล่างนี้ฉันคิดว่าน่าจะเป็นที่พักของพระสงฆ์ ไม่ก็เป็นที่พักของผู้มาปฎิบัติธรรมนะคะ เพราะดูแล้วเหมือนเพิ่งจะสร้างเสร็จเอง
ณ พุทธสถานแห่งนี้ นอกจากจะมีพระพุทธรูปจำนวน 1,250 รูปอันงดงามเลื่องชื่อแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่โด่งดังไม่แพ้กันก็คือ...ประติมากรรมทราย “พุทธจริยาวัตร 60 ปาง” ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ทำนองเดียวกับพุทธประวัติ รวมทั้งสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาในต่างประเทศ เช่น เจดีย์สวยัมภูวนารถ ที่เนปาล เจดีย์พุทธคยา ที่อินเดีย เป็นต้น ประติมากรรมทรายนี้มีขนาดกว้าง 7.4 เมตร ยาว 54 เมตร สูง 6.4 เมตร ใช้ทรายแม่น้ำน้ำหนัก 100 ตัน ถือได้ว่าเป็นประติมากรรมทรายที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
วันนี้นับได้ว่าคุ้มจริงๆที่ได้มีโอกาสมานมัสการพระและทำบุญร่วมกันในครอบครัว ทั้งยังได้ภาพถ่ายสวยๆมาฝากทุกคนด้วย ขอบุญกุศลที่ได้ทำจงไปถึงทุกคนด้วยเถิด อนุโมทนาค่ะ
ปล.ติดตามผลงานการถ่ายภาพอื่นๆของรักสายหมอกได้ที่ https://www.facebook.com/LoveTalemok
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น