สิ่งที่ควรเข้าใจก่อนหรือเมื่อจะมีแฟนเป็นนักดนตรี
1) ทำตัวเหมือนมีโลกส่วนตัวสูง
  นักดนตรีและนักศึกษาดนตรีบางที่ไม่ได้เข้าใจว่าตัวเองมีโลกส่วนตัวสูง แต่เป็นเพราะต้องซ้อมเพื่อรักษามารตราฐานฝีมือ ฉะนั้นถ้าเขาบอกว่าขอเวลาส่วนตัวหน่อย บางทีแปลว่าขอซ้อม
2) ดูเหมือนเจ้าชู้
  นักดนตรีต้องทำงานหน้าฉากและค่อยบันเทิงคนอื่น บางทีก็เลยเจ้าคารม ซึ่งเป็นคุณลักษณะหนึ่งที่จำเป็น เพราะถ้าหยิ่งหรือไม่พูด โอกาสที่จะโดนลูกค้าหาว่าน่าเบื่อก็สูง โอกาสตกงานก็สูงตาม
3) ทุกชั่วโมงมีค่า แต่ทั้งวันอาจจะไม่มีค่า
  นักดนตรีนับรายได้กันเป็นชั่วโมง ไม่ใช่วัน หรือเดือน ฉะนั้นอาจจะเจอว่าว่างทั้งวันแล้วอยู่ดีๆขอไปทำงานไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้โปรดอย่างต่อว่าว่าทั้งวันไม่ทำงานอยู่ดีๆคึกจะทำงาน
4) เวลาคนอื่นว่าง เขาจะยุ่ง
  นักดนตรีทำงานในช่วงกลางคืนค่อนข้างมาก นอนกลางวันแล้วทำงานกลางคืนก็เยอะ
5) หน้าเทศกาลไม่ค่อยว่างไปเที่ยวด้วย
  ขณะที่หน้าเทศกาลอย่างสงกรานต์ปีใหม่ทุกคนออกเที่ยว แต่ช่วงนี้เป็นช่วงรับงานของนักดนตรี ฤดูงานชุกจริงๆของนักดนตรีอยู่ช่วงหน้าหนาวและฤดูว่างงานคือช่วงฤดูฝน บางคนทำงานเก็บรายได้ช่วงฤดูหนาวหนักๆเพื่อมีเงินใช้ในช่วงฤดูงานน้อยก็เยอะ (คล้ายๆเกษตรกร)
6) ขอให้ร้องเพลงให้ฟังแล้วไม่เคยได้ แต่พอฟังวิทยุในรถร้องตามจัง
  นักดนตรีที่เล่นเครื่องหลายๆคนไม่ค่อยอยากร้องเพลงเพราะรู้สึกว่าร้องเพลงไม่เพราะเนื่องจากเจอนักร้องดีๆเยอะ นักดนตรีทุกคนรู้สึกว่าอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคนรัก แต่ถ้ารู้สึกว่าร้องเพลงไม่เพราะก็คงไม่อยากร้องให้ฟัง
7) ดูจะรักเครื่องดนตรียิ่งกว่าแฟน

  เพราะนักดนตรีอยู่กับเครื่องดนตรีมากกว่าสิ่งอื่น นอกจากเป็นเครื่องทำมาหากินแล้วยังเป็นเพื่อน(อันนี้ฟังโรคจิตนิดนึง) ที่คบกันมาตั้งแต่ก่อนเจอแฟน ฉะนั้นอย่าไปจับเครื่องดนตรีเขาถ้ายังไม่ได้ขอ และถ้าทะเลาะกันอย่าไปลงที่เครื่องดนตรีเขา เพราะความสัมพันธ์อาจจะจบได้ง่ายๆ
8) นักดนตรีหรือนักกีฬาเนี้ย?
  อันนี้ไม่ได้เป็นทุกคน แต่นักดนตรีหลายๆคนเริ่มหันมาสนใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพราะการทำงานกลางคืนต้องสู้กับควันบุหรี่อยู่บ่อยๆ และการนั่งซ้อมหนักๆมักจะทำให้สุขภาพกล้ามเนื้อมีปัญหา อย่างน้อยมีข้อดีว่าคุณจะได้แฟนที่รูปร่างดี

นักดนตรีมีหลายแนว แต่ละแนวยังมีแนวทางการใช้ชีวิตที่เป็นของแต่ละแนวอีก เจอนอกเหนือจากนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจ