แชร์ประสบการณ์ Walk-in สายการบิน Emirates ที่ อิโปห์, มาเลเซียค่ะ

Emirates Process
February 23 - 26, 2015
Ipoh Malaysia

จะมาแบ่งปันประสบการ์ณสมัครแอร์ Emirates ที่มาเลเซียนะคะ เพิ่งเคยเขียนอะไรยาวๆอย่างนี้ครั้งแรกเลย
ตอนแรกก็ลังเลว่าจะลงดีไหม เพราะเห็นมีคนลงของที่มาเลเยอะแล้ว แล้วที่ที่เราไปก็มีคนเขียนแล้วเช่นกัน
แต่คิดอีกมุมหนึ่ง ก่อนเราไปสมัครเราพยายามหาข้อมูลอ่านเยอะมาก และถึง process จะคล้ายๆกัน
เราก็ยังอยากอ่านอีกเยอะๆอยู่ดี และเพราะมุมมองของคนที่ไปเจอมาของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีก
ก็เลยอยากมาแชร์ในมุมของเราบ้าง ว่ามันเป็นยังไง เผื่อจะเป็นประโยชน์หรือนำข้อบกพร่องเราไประวัง
หรือแก้ไขได้ทัน เราอาจจะเขียนไม่ค่อยเก่งนะคะ แต่ก็จะพยายามเล่าตามที่เราเจอมาจริงๆ
อาจจะยาวหน่อยนะ เราเขียนการเดินทางไปอิโปห์ไว้ด้วย (แอบบ่นให้ฟัง)

เริ่มต้นเดินทาง

รอบที่เราไปเป็นที่ อิโปห์ มาเลเซียคะ เราเลือกไปที่นี้เพราะคิดว่าถ้าไม่ผ่านรอบวันที 23 กุมภา
เราจะไปต่ออีกรอบในกัวลาลัมเปอร์วันที่ 28 ซึ่งอิโปห์ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ประมาน 2-3 ชม คะ
เราออกเดินทางวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาตอนตี 4.30 ถึงสนามบินตี 5 จะบอกว่าวันนั้นเป็นวันที่เหนื่อยมากจริงๆ
วันนั้นที่สนามบินดอนเมืองคนเยอะมาก มันเป็นช่วงที่เพิ่งหมดวันหยุดตรุษจีน ทัวร์เลยเยอะมาก
ขนาดเราไปก่อนเวลาเช็คอิน 2 ชม นะคะ แต่เพราะคนเยอะมากและโดนทัวร์แซงคิวด้วย
เราได้เช็คอินก็ตอน 6.50 ซึ่งงงงง ไฟลท์เรา บอร์ดดิ้งตอน 6.45 -_-" คิดในใจตกเครื่องแน่ๆ
แต่พอหันไปถามคนรอบๆตัว อ้าวไฟลท์เดียวกัน ตกด้วยกันแน่ๆ

พอเช็คอินเสร็จก็วิ่งเลยคะ และก็ไปช็อครอบ 2 ที่ ตม คนล้นออกมาเลย T^T บายๆมาเล คิดว่ายังไงก็ตก
แต่เจ้าหน้าที่สนามบินก็เดินมาบอก เข้าไปเหอะน้อง คนเยอะขนาดนี้ดีเลย์ทุกไฟลท์แน่อยู่แล้ว
ก็เลยเข้าๆไป หลุดจากตรง ตม กะตรวจกระเป๋าก็ 7.10 แล้วคะ ตอนนั้นไปซื้อครีมกะน้ำหอมมาจาก
คิงพาวเวอร์รางน้ำไว้ด้วย ค่าครีมพอๆกะค่าตั๋วเครื่องบินเลย T^T เข้าคิวรับของก็ยาวอีก
หันไปคุยกะพี่พนักงานเอาตั๋วให้เค้าดู เค้าก็บอกน้องวิ่งไปขึ้นเครื่องเหอะ เลยต้องตัดใจเรื่องครีมไป
แล้วค่อยกลับมาขอรีฟัน เสียใจอะ โดนหักค่ารีฟันด้วย -_-" และก็ไปขึ้นเครื่องทันด้วยคะ
7.20 คนบนเครื่องยังไม่ถึงครึ่งเลย

วันนั้นทุกอย่างช้าหมดจริงๆ กว่าเครื่องบินจะออกก็เกือบ 8 โมงนู้นกัปตันคงทำเวลาน่าดูตอนบิน
เพราะตอนถึงมาเลก็ไม่ได้ช้ากว่าเวลาที่ระบุไว้ ไปถึงก็นั่งรถบัสไป KL sentral
เพื่อที่จะต่อรถไฟไปอิโปห์ปรากฏว่าตั๋วรถไฟหมดคะ ตอนนั้นยื่นอยู่ที่บู๊ทขายตั๋ว
โลกถล่มถลายมาก T^T จะไปยังไง ไม่รู้จะทำไรต่อเลยค่ะ พนักงานบอกว่าเพราะเป็นตรุษจีน
คนเลยเดินทางกันเยอะ เค้าเลยบอกว่าให้ลองไปดูที่สถานีรสบัส แต่เค้าบอกว่าอาจจะหมดเหมือนกัน
นั่งแท็กซี่จาก KL Sentral ไปสถานีรถบัส 10 ริงกิตค่ะ

และเพราะมันไม่มีทางไหนแล้วก็เลยลองไปดูและเป็นอย่างที่เค้าบอกไว้จริงๆคะ รถบัสเที่ยวปกติก็เต็มหมด
ก็คิดว่าคงไม่ได้ไปสัมภาษณ์แล้วแน่ๆ พรุ่งนี้ต่อให้ไปรอบเช้าสุดยังไงก็คงไม่ทันอยู่ดี
เพราะจากตัวเมืองอิโปห์ไปถึงโรงแรมที่เปิดรับสมัครก็ไกลอยู่

ตอนที่เดินเซงๆอยู่แถวเคาเตอร์ซื้อตั๋ว ก็ได้ยินคนตะโกนขึ้นมาว่า "Ipoh 50 Ringgit last ticket"
เรายังหาตัวคนตะโกนไม่เจอเลยคะ แต่ก็ตะโกนออกไป meeeeeeๆๆๆๆๆ Ipoh ipoh ipoh
แล้วก็พูดซ้ำๆจนเค้าเดินมาหา คิดในใจตั๋วใบนั้นต้องเป็นของฉัน ฉันต้องได้มัน!!! >.<

พอเดินมาถึงก็คุยกันเค้าก็บอกว่าเป็นบัสรอบพิเศษนะ คันสุดท้ายแล้ว อันนี้วิ่งนอกรอบ
ก็บอกไปว่า ไม่เป็นไร ขอให้มันไปถึงอิโปห์ก็พอ รถบัสคันนี้วิ่งอ้อมคะ ตั๋วแพงกว่ารถไฟอีก
แล้วก็แวะเมืองนู้นเมืองนี้ด้วยเลยเกือบ 5 ชมแหนะกว่าจะถึงอิโปห์
เราก็ใจเต้น กลัวจะโดนหลอกไปปล่อยเมืองไหนสักเมือง คุยกับใครก็ไม่มีใครรู้เรื่อง
เพราะหลังจากขึ้นรถแล้วก็ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้แล้วคะ แล้วก็เหมือนว่า
ทั้งคันเราคือคนต่างชาติคนเดียวเลยอะ เค้ามองเรากันทั้งรถเลย เราไม่ใช่คนขาวนะ
ออกแทนๆ แต่จะบอกว่าวันนั้น เราขาวที่สุดในรถเลย 555

ในที่สุดก็ถึงอิโปห์คะ ช้ากว่าที่คิดไว้เยอะ แต่มันก็ถึงอะ ยังดี แล้วนั่งแท็กซี่อีกครึ่ง ชม
ไปโรงแรมที่จองไว้ ถึงโรงแรมก็ตอน 6 โมงเย็น เหนื่อยและหิวมาก แบก+ลากกระเป๋า
2 ใบ น้ำหนักประมาน 22 กิโลได้มาทั้งวัน ถึงโรงแรมได้นอนชั้น 3 อีก ลิฟท์ก็ไม่มี T^T
กว่าจะลากขึ้นไปชั้นบนสุดได้ นี้แขนแทบหัก ปวดตัวไป 3 วันเลยทีเดียว
แล้ววันนั้น ข้าวไม่ได้กินสักมื้อ น้ำก็มีขวดเดียวแบบจิ๋วเลย  แบบที่ซื้อมาจากบนเครื่องบิน

แต่วิวตอนนั่งรถไปอิโปห์ก็สวยไม่ใช่เล่น แถวนั้นภูเขาสวยมากคะ
เห็นน้ำตกด้วย เห็นวิวแล้วก็หายเหนื่อยขึ้นมาหน่อย ^____^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่