ย่าแพงให้สตางค์

กระทู้สนทนา
เรื่องนี้เกิดจากความไม่ระวังปากของเราเองค่ะ แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร เพียงแค่เป็นเหตุการณ์ที่เรายังหาคำตอบไม่ได้ แล้วก็ยืนยันว่าเป็นความจริง 10000 % ไม่ได้คิดไปเองแน่นอน

เราเป็นคนไม่กลัวผี แล้วก็ไม่เชื่อเรื่องผีมาแต่เด็ก ถึงขนาดว่าตอนเด็กๆเราเคยนั่งรถไป ตจว. กับยายตา ข้างทางเป็นป่ามืดๆ เรานั่งอยู่ตรงเบาะหลังคนเดียว ตาจ้องไปในป่าริมทาง ท่ามกลางความมืด ขณะที่รถก็เคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ เราจะอธิษฐานในใจเสมอว่า "ถ้าผีมีจริง ให้มานั่งเบาะข้างๆหนู หรือถ้ากลัวพระที่แขวนอยู่ในรถ ให้ปรากฏกายให้เห็นตามข้างทางก็ได้" แต่เราก็ไม่เคยเจออะไรแปลกๆเลย อีกอย่างเราย้ายบ้าน เดินทางบ่อย อยู่คนเดียวตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ก็เลยไม่ค่อยเชื่อ

จนกระทั่งวันหนึ่ง มีเรื่องประหลาดที่เราหาคำตอบไม่ได้จนปัจจุบันเกิดขึ้นกับเรา

วันหนึ่งตอนเราอายุ ประมาณ 13-14 ปี เป็นช่วงปิดเทอม เราเลยไปอยู่บ้านพ่อที่โคราช อำเภอหนึ่งห่างจากตัวเมืองพอสมควร บ้านที่เราอยู่เป็นบ้านของน้า ข้างล่างเป็นปูน ข้างบนเป็นไม้ ซึ่งตรงกลางบ้านระหว่างห้องนั่งเล่น กับโถงตรงห้องครัวจะมีบันไดไม้เชื่อมกับชั้นบนอยู่
คนในบ้านเล่าว่า เวลานอนดูทีวีตรงห้องนั่งเล่น หน้าเราจะหันไปทางบันไดไม้พอดี แล้วจะชอบมีคนเห็นขาคนเดินขึ้นไปด้านบนตลอด แต่จะเป็นช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เค้าว่ากันว่าเป็นขาของย่าเรา ชื่อว่าย่าแพง ซึ่งเสียไปตั้งแต่เราอายุสามขวบได้ ตอนแรกเราฟังเราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะอย่างที่บอก "ไม่เชื่อ"

ต่อ.. เราไปอยู่บ้านพ่อช่วงปิดเทอม
ย่าเราคนที่เสียไปแล้ว ตอนมีชีวิตย่าจะเป็นคนชอบเล่นหวยมากกกกก ทีนี้พอเสียไป จะชอบเข้าฝันให้หวยชาวบ้านละแวกนั้น จนถูกกันเป็นแถบๆ วันนี้ก็เช่นกัน...

ขณะที่เรานั่งอยู่บนเปลกับป้าข้างบ้าน ป้าข้างบ้านเราก็พูดขึ้นมาว่า "แม่ใหญ่แพง ไปให้หวยคนในตลาด ถูกกันอีกละ"
เราก็เลยปากเร็วพูดสวนไปว่า "ย่าแพงก็ยังงี้แหละ ให้หวยแต่กับคนอื่น ลูกหลานไม่เคยมาให้" พอเราพูดจบเราก็ตกใจตัวเองเหมือนกันนะ ว่าทำไมพูดแบบนี้

เหตุการณ์ก็ผ่านไปปกติทั้งวัน จนคืนนั้น .. ปกติเรากับพ่อจะนอนอยู่ตรงห้องนั่งเล่นหันหน้าเข้าทางทีวี(จุดเดียวที่คนเห็นขาย่าเราบ่อยๆนั่นแหละ) เพราะเราไปอาศัยบ้านน้าอยู่ เจ้าของบ้านเค้าก็จะขึ้นไปนอนข้างบน ห้องใครห้องมัน แต่คืนนั้นพ่อเราเค้าจะกลับดึก เพราะไปส่องกบ น่าจะกลับตีสองตีสามได้ เราเลยต้องนอนอยู่ตรงนั้นคนเดียว จำไม่ได้ว่าตอนนั้นกลัวหรือป่าว จะหันหน้าหนีบันได ก็จะมาเจอเก้าอี้ไม้ ซึ่งถ้านอนๆอยู่เจอคนนอนใต้เก้าอี้พอดี ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน เราเลยหันหน้าไปทางบันได.. เจอแต่ขาดีกว่าเจอหน้า ไม่อยากสบตากับใครตอนนี้
เราก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้สึกตัวตื่นมาตอนดึกมาก พ่อก็ยังไม่กลับมา เลยหลับต่อยันเช้า ตื่นมาก็ไม่เจอพ่อ เลยสรุปไม่รู้ว่าเมื่อคืนพ่อมานอนข้างๆหรือเปล่า

แต่ แต่ แต่.....!!! เมื่อเราตื่นมาในเช้าวันที่ 16(วันหวยออก) มันมีสิ่งที่แตกต่างไปจากก่อนเรานอน
ในมือข้างขวาเรากำเหรียญ 25 สตางค์เก่าๆ มีรอยไหม้ สนิม รอยเขียวๆ อยู่สองเหรียญ ซึ่งสองเหรียญนี้ถูกผลิตขึ้นในปีเดียวกันคือปี 2532 เป็นปีที่เราเกิด ตอนแรกเราก็คิดว่าพ่อเอามาใส่ไว้ในมือตอนเราหลับ เราเลยไปถามพ่อ พ่อก็บอกว่าไม่ได้ใส่ ถามทุกคนที่อยู่ในบ้าน ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง .. เราก็เดินถือสองเหรียญนั้นทั้งวัน และหาที่มาไม่ได้
เราก็เลยพูดกับป้าข้างบ้านเล่นๆว่า สงสัยย่าแพงมาให้หวย เราเชียร์ให้ผู้ใหญ่ซื้อ 532 แต่ก็ไม่มีใครซื้อเพราะเราอายุ 13 แล้วให้หวยไม่แม่น เค้าไปซื้อเลข 55 ที่เด็กอายุ 4 ขวบบอกแทน เราก็จะซื้อแต่ก็ไม่กล้าเพราะยังเด็ก จะบอกพ่อซื้อ พ่อก็หายไปไหนแล้วไม่รู้ ก็เลยเก็บเหรียญใส่กระเป๋า

พอตกบ่าย... ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ช่วงเวลาหวยออก
เลขท้ายสามตัวที่ออก คือ ... 5 3 2
ตรงๆเลย พวกผู้ใหญ่ก็เสียดายยกใหญ่ เราเองก็โคตะระเสียดายยยยยยย รู้สึกผิดเล็กๆ ว่าเหมือนไปลบหลู่ย่า แล้วพอท่านมาให้โชค ก็ไม่คว้า หลังจากนั้นเราก็เล่นมุกเดิมกับย่าซ้ำ แต่ย่าก็ไม่เคยมาบอกใบ้อะไรอีกเลย (สงสัยงอน)

ส่วนเหรียญ 25 สตางค์เก่าๆที่ผลิตในปีที่เราเกิดสองเหรียญนั้น เราก็เก็บไว้ในกระเป๋าตังค์ ตั้งใจว่าจะเป็นเหมือนของขวัญที่ย่าให้เราในวันที่เราเกิด แต่สุดท้ายก็ค่อยๆหายไปทีละเหรียญ เหลือแต่คำถามที่เราไม่เคยหาคำตอบได้เลยเป็นสิบปีว่า "เหรียญนั้นมาอยู่ในมือเราได้ยังไง?"

ใครมีคำตอบที่น่าเป็นไปได้ หรือประสบการณ์คล้ายๆกันมาแชร์หน่อยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่