ครั้งหนึ่งในชีวิต..
ความรักของเราเกิดจาก Facebook เรา 2 คนเคยเป็นนักกีฬาทั้งคู่ ไม่ได้เจอกันนานมาก
มาพบกันที่ Facebook นี่แหล่ะ ตอนนั่นเราไม่มีแฟน ส่วนเขาไม่มีแฟนมาสักพักใหญ่แล้ว(มั่ง)
ในขณะนั่นเราอยู่ในช่วงที่จะเรียนต่อโท ส่วนเขาเรียนอยู่อเมริกา คุยกันมาสักพัก
เราไม่รู้เลยว่าเราชอบเขาเมื่อไร ตอนแรกๆ ทำไมคนๆนี้ชอบมาถามเรื่องการบ้าน เอาเพลงที่แต่งส่งมาให้ฟัง แต่ก็นั้นแหล่ะ
มารู้ตัวอีกทีก็ชอบเขาไปแล้ว เพราะเขาอบอุ่นมั่ง ผ่านไประยะหนึ่งทางครอบครัวและเพื่อนของเรา ไม่ค่อยชอบเขา
ดูเหมือนเขาดูแลเราไม่ได้ ระหว่างที่เราคบกันเขาชอบขอยืมเงินเราทีละ 200-1000 บาท ในช่วงระยะเวลา 2 เดือน
ยืมไปเกือบ 20000 ค่าอาหาร ค่าตั๋วหนังก็ไม่ค่อยออก เราต้องออกเองเกือบทุกครั้ง
(เรื่องเงินเราก็บอกว่าอันไหนยืมคือยืม อันไหนคือให้คือให้) จนถึงเวลาที่เขาต้องกลับไปเรียนต่อ
(อายุเขาแก่กว่าเรา 1 ปี แต่เขาพึ่งเริ่มเรียนปี1 ส่วนเราเรียนโท) เราก็บอกเขาว่า
....รักครั้งนี้เราอยากจริงจัง อยากรักไปเรื่อยๆ อยากคบไปเรื่อยๆ อยากอยู่ด้วยกันไปตลอด....
ช่วงเวลาที่ห่างกัน มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย เขามีการติดต่อกับแฟนเก่า เอาเรื่องเราไปพูดเล่าให้แฟนเก่าฟัง
กระทั่งแต่งเพลงให้แฟนเก่า จนทำให้เราสบสัน และหาคำตอบทุกข้อที่เราสงสัย ว่าเราไม่ได้คิดเองจิงๆ
อย่างที่ทุกคนเคยพูดกับเราก่อนเราคบเขา บวชเพราะที่บ้านต้องการดันสัย ติดปุ่น
เปลี่ยนที่เรียนมาหลายรอบ โดนแบรน
......จนเราตัดสินใจบอกเลิกเขาตอน ต้นมค. 2012 แต่เกมพลิก เขาร้องไห้ บอกอย่าทิ้งเขาไป
เราก็ใจอ่อน โอเค ดูพฤติกรรม ไปเรื่อยๆ หลังจากนั่นไม่ถึงเดือน เขากลับบอกเราว่า เขามีปัญหามากมาย
ไม่ว่าจะครอบครัว เรียน และเงิน(บอกกับเราว่า อยากฆ่าตัวตาย) และจากนั่นหายตัวไปประมาณ 2 อาทิตย์
เราตามหากันแบบสุดๆ ซึ่งเราอยู่ไทย เขาอยู่เมกา ตามหาทุกวิธีทาง
.....จนสุดท้ายค้นพบว่า "มีผู้หญิงใหม่" ก็ไปเห็นในอินสตาแกรม ในเฟสนั่นหล่ะ เราร้องไห้และเสียใจแบบสุดๆ
ไม่กินข้าวเกือบ 2 เดือน จะฆ่าตัวตายหลายรอบ ไปยืนอยู่บนตึกสูงหลายรอบ มาก
แต่มันคงไม่ถึงเวลาของเราจิงๆ ทุกครั้งที่ยืนอยู่จะมีพ่อแม่ เพื่อน โทรมาทุกครั้ง
(เพื่อนพยายามถาม ไปรับกินข้าวมั้ย เหงามั้ย ไปเที่ยวมั้ย) จนเราทำใจได้ ใช้ชีวิตปกติ
จากนั้น เราก็ได้รับข่าวว่าเขากลับมาไทยอีกครั้ง เราก็ไม่ได้อะไร ใช้ชีวิตตามปกติ
จนมีเบอร์แปลก โทรมา นั่นคือ เขาคนนี้ นี่หล่ะ ชวนออกไปกินข้าว เขาบอกว่าขอเจอแต่ครั้งเดียว.. นัดเจอกันห้างแถวย่าน อโศก.. ไปเจอกินข้าว ดูหนัง แต่ระหว่างนั่นเราก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ถามเรื่องครอบครัว เรื่องอาการบาดเจ็บที่เข่า (ระหว่างที่เราคบกันครั้งก่อน เขาบาดเจ็บเนื่องจากการแข่งกีฬา) ตอนแยกกัน.. ทันทีที่อยู่บน BTS เราร้องไห้หนักมาก ตอนนั่นคิดว่ามันคงเป็นการจากลาจริงๆแล้ว แต่เกมพลิก เขาพยายามกลับมาอีกครั้ง ให้เราไปเฝ้าตอนผ่าตัด ให้เราไปส่งโน่นนี่นั่น สุดท้ายก็เป็นแฟนกันอีกครั้ง ความเจ้าชู้ของผู้ชาย ยังไม่จบ เมื่อยังไม่เจอคนที่ใช่ เรายื่นคำขาดว่า ยังไงเขาก็ต้องกลับไปเรียนต่อ เราก็เป็นเพื่อนกันดีกว่า เพราะเราก็ไม่อยากเจอเหตุการณ์ซ้ำๆ เกมพลิกอีกครั้ง เขาไม่ไปเรียนต่อ เขาอยากอยู่เมืองไทย อยู่ที่โน่น เขาเคยคิดสั้น เราก็คบกันมาเรื่อยๆ
.. จนวันหนึ่ง เขาต้องไปอบรม ความเจ้าชู้ก็ไม่จบ.. เราจบได้ไปแอบคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง คนนี้เราเอะใจมานานแล้วเพราะเขาชอบส่งไลน์มาบ่อยๆ สุดท้ายเราก็ให้อภัย ก็อย่าให้จับได้อีกละกัน.. ในขณะนั่นเราคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว
จนวันหนึ่งเขาไปทำงานที่ office แห่งหนึ่งแต่เรื่องผู้หญิงคนนั่นยังไม่จบ บังเอิญทำงานทร่ใกล้กัน เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นอีก เราให้แฟนเราคนเนี้ย ยืมiphone และเราขอคืน และiphone เวลาเปลี่ยนซิม เบอร์ที่โทรเข้าออกมันไม่ลบ เราก็เอามาดูเบอร์นี้เบอร์ใครวะ โทรมาตั้งแต่ 6โมงเช้า โทรเช้ากลางวันเย็น ปรากฎผู้หญิงคนเดิม มารู้ทีหลังว่าไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน เราทนไม่ได้มาก ทะเลาะกันยกใหญ่ สุดท้ายเขาขอโอกาสอีกครั้ง เขาจะไม่ลงไปกินข้าวเที่ยง เขาสั่งอาหารกล่องขึ้นมากินที่โต๊ะ
... ความเจ้าชู้ยังไม่จบ เดี๋ยวมาต่อค่ะ
ครั้งหนึ่งในชีวิต
ความรักของเราเกิดจาก Facebook เรา 2 คนเคยเป็นนักกีฬาทั้งคู่ ไม่ได้เจอกันนานมาก
มาพบกันที่ Facebook นี่แหล่ะ ตอนนั่นเราไม่มีแฟน ส่วนเขาไม่มีแฟนมาสักพักใหญ่แล้ว(มั่ง)
ในขณะนั่นเราอยู่ในช่วงที่จะเรียนต่อโท ส่วนเขาเรียนอยู่อเมริกา คุยกันมาสักพัก
เราไม่รู้เลยว่าเราชอบเขาเมื่อไร ตอนแรกๆ ทำไมคนๆนี้ชอบมาถามเรื่องการบ้าน เอาเพลงที่แต่งส่งมาให้ฟัง แต่ก็นั้นแหล่ะ
มารู้ตัวอีกทีก็ชอบเขาไปแล้ว เพราะเขาอบอุ่นมั่ง ผ่านไประยะหนึ่งทางครอบครัวและเพื่อนของเรา ไม่ค่อยชอบเขา
ดูเหมือนเขาดูแลเราไม่ได้ ระหว่างที่เราคบกันเขาชอบขอยืมเงินเราทีละ 200-1000 บาท ในช่วงระยะเวลา 2 เดือน
ยืมไปเกือบ 20000 ค่าอาหาร ค่าตั๋วหนังก็ไม่ค่อยออก เราต้องออกเองเกือบทุกครั้ง
(เรื่องเงินเราก็บอกว่าอันไหนยืมคือยืม อันไหนคือให้คือให้) จนถึงเวลาที่เขาต้องกลับไปเรียนต่อ
(อายุเขาแก่กว่าเรา 1 ปี แต่เขาพึ่งเริ่มเรียนปี1 ส่วนเราเรียนโท) เราก็บอกเขาว่า
....รักครั้งนี้เราอยากจริงจัง อยากรักไปเรื่อยๆ อยากคบไปเรื่อยๆ อยากอยู่ด้วยกันไปตลอด....
ช่วงเวลาที่ห่างกัน มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย เขามีการติดต่อกับแฟนเก่า เอาเรื่องเราไปพูดเล่าให้แฟนเก่าฟัง
กระทั่งแต่งเพลงให้แฟนเก่า จนทำให้เราสบสัน และหาคำตอบทุกข้อที่เราสงสัย ว่าเราไม่ได้คิดเองจิงๆ
อย่างที่ทุกคนเคยพูดกับเราก่อนเราคบเขา บวชเพราะที่บ้านต้องการดันสัย ติดปุ่น
เปลี่ยนที่เรียนมาหลายรอบ โดนแบรน
......จนเราตัดสินใจบอกเลิกเขาตอน ต้นมค. 2012 แต่เกมพลิก เขาร้องไห้ บอกอย่าทิ้งเขาไป
เราก็ใจอ่อน โอเค ดูพฤติกรรม ไปเรื่อยๆ หลังจากนั่นไม่ถึงเดือน เขากลับบอกเราว่า เขามีปัญหามากมาย
ไม่ว่าจะครอบครัว เรียน และเงิน(บอกกับเราว่า อยากฆ่าตัวตาย) และจากนั่นหายตัวไปประมาณ 2 อาทิตย์
เราตามหากันแบบสุดๆ ซึ่งเราอยู่ไทย เขาอยู่เมกา ตามหาทุกวิธีทาง
.....จนสุดท้ายค้นพบว่า "มีผู้หญิงใหม่" ก็ไปเห็นในอินสตาแกรม ในเฟสนั่นหล่ะ เราร้องไห้และเสียใจแบบสุดๆ
ไม่กินข้าวเกือบ 2 เดือน จะฆ่าตัวตายหลายรอบ ไปยืนอยู่บนตึกสูงหลายรอบ มาก
แต่มันคงไม่ถึงเวลาของเราจิงๆ ทุกครั้งที่ยืนอยู่จะมีพ่อแม่ เพื่อน โทรมาทุกครั้ง
(เพื่อนพยายามถาม ไปรับกินข้าวมั้ย เหงามั้ย ไปเที่ยวมั้ย) จนเราทำใจได้ ใช้ชีวิตปกติ
จากนั้น เราก็ได้รับข่าวว่าเขากลับมาไทยอีกครั้ง เราก็ไม่ได้อะไร ใช้ชีวิตตามปกติ
จนมีเบอร์แปลก โทรมา นั่นคือ เขาคนนี้ นี่หล่ะ ชวนออกไปกินข้าว เขาบอกว่าขอเจอแต่ครั้งเดียว.. นัดเจอกันห้างแถวย่าน อโศก.. ไปเจอกินข้าว ดูหนัง แต่ระหว่างนั่นเราก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ถามเรื่องครอบครัว เรื่องอาการบาดเจ็บที่เข่า (ระหว่างที่เราคบกันครั้งก่อน เขาบาดเจ็บเนื่องจากการแข่งกีฬา) ตอนแยกกัน.. ทันทีที่อยู่บน BTS เราร้องไห้หนักมาก ตอนนั่นคิดว่ามันคงเป็นการจากลาจริงๆแล้ว แต่เกมพลิก เขาพยายามกลับมาอีกครั้ง ให้เราไปเฝ้าตอนผ่าตัด ให้เราไปส่งโน่นนี่นั่น สุดท้ายก็เป็นแฟนกันอีกครั้ง ความเจ้าชู้ของผู้ชาย ยังไม่จบ เมื่อยังไม่เจอคนที่ใช่ เรายื่นคำขาดว่า ยังไงเขาก็ต้องกลับไปเรียนต่อ เราก็เป็นเพื่อนกันดีกว่า เพราะเราก็ไม่อยากเจอเหตุการณ์ซ้ำๆ เกมพลิกอีกครั้ง เขาไม่ไปเรียนต่อ เขาอยากอยู่เมืองไทย อยู่ที่โน่น เขาเคยคิดสั้น เราก็คบกันมาเรื่อยๆ
.. จนวันหนึ่ง เขาต้องไปอบรม ความเจ้าชู้ก็ไม่จบ.. เราจบได้ไปแอบคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง คนนี้เราเอะใจมานานแล้วเพราะเขาชอบส่งไลน์มาบ่อยๆ สุดท้ายเราก็ให้อภัย ก็อย่าให้จับได้อีกละกัน.. ในขณะนั่นเราคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว
จนวันหนึ่งเขาไปทำงานที่ office แห่งหนึ่งแต่เรื่องผู้หญิงคนนั่นยังไม่จบ บังเอิญทำงานทร่ใกล้กัน เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นอีก เราให้แฟนเราคนเนี้ย ยืมiphone และเราขอคืน และiphone เวลาเปลี่ยนซิม เบอร์ที่โทรเข้าออกมันไม่ลบ เราก็เอามาดูเบอร์นี้เบอร์ใครวะ โทรมาตั้งแต่ 6โมงเช้า โทรเช้ากลางวันเย็น ปรากฎผู้หญิงคนเดิม มารู้ทีหลังว่าไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน เราทนไม่ได้มาก ทะเลาะกันยกใหญ่ สุดท้ายเขาขอโอกาสอีกครั้ง เขาจะไม่ลงไปกินข้าวเที่ยง เขาสั่งอาหารกล่องขึ้นมากินที่โต๊ะ
... ความเจ้าชู้ยังไม่จบ เดี๋ยวมาต่อค่ะ