แชร์ประสบการณ์เจาะน้ำคร่ำ (รพ.ศิริราช)

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ เราเป็นคุณแม่มือใหม่ (และยืม login ของน้องมาใช้) ค่ะ ทุกครั้งเวลาที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตั้งท้องก็จะถามคุณหมอหรือไม่ก็อ่านจากความรู้จากเพื่อนๆ ใน Pantip นี่แหละค่ะ (แต่ส่วนมากจะอ่านในนี้มากกว่า อิอิ)  วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์เจาะน้ำคร่ำของเราเองบ้างค่ะ (ยาวหน่อยนะคะ)

อัลตร้าซาวนด์ NT (คัดกรองดาวน์ไตรมาสแรก) และผลเจาะเลือดเพื่อตรวจคัดกรอง
ตอน 12 สัปดาห์ 5 วัน เราได้อัลตร้าซาวนด์ดูความหนาต้นคอของเด็กน้อย (NT) ของเราได้ 0.90 mm. ซึ่งคุณหมอพฤหัสที่เราหาอยู่ที่ รพ.ศิริราช ก็บอกว่าไม่น่าจะมีปัญหา เราก็เลยสบายใจไป และในวันเดียวกัน ก็เจาะเลือดเพื่อนำมาประกอบกับที่อัลตร้าซาวนด์มา
หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ หมอก็นัดมาฟังผลตรวจคัดกรองค่ะ ซึ่งวันที่ฟังผลทำให้เรากับแฟนแทบช็อคค่ะ เพราะไม่ได้เตรียมใจไว้เลย หมอแจ้งผลว่าเมื่อนำผลจากเลือดมาประกอบแล้ว ผลเลือดเราเป็นบวกค่ะ เพราะค่า Free beta HCG สูง ความเสี่ยงที่เด็กน้อยของเราจะเป็น down syndrome จึงกลายเป็น 1:190 !! (ซึ่งปกติที่คนอายุ 32 ปีจะมีความเสี่ยง 1:570)
อันนี้เป็นค่าผลเลือดของเราค่ะ
Nuchal measurement :         0.9 mm                0.63 MoM
PAPP-A level :                        2281 miu/L        0.36 MoM
Free beta hCG level :           98.07 ng/mL      2.51 MoM

ตอนนั้นตกใจจะร้องไห้ คุณหมอก็แนะนำทางเลือกให้ 2 วิธี คือ
1. ตรวจ nifty : ความแม่นยำ 99% แต่ถ้าผลออกมาเป็นบวก ก็ต้องยืนยันด้วยการเจาะน้ำคร่ำอีกที
2. เจาะน้ำคร่ำ : ความแม่นยำสูงกว่า เพราะเห็นการนำ cell จากที่หลุดลอกของเด็กมาเพาะเลี้ยงแล้วดูจำนวนโครโมโซม แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้แท้งได้ 1:200 ค่ะ ( อันนี้เป็นตัวเลขเก่า ซึ่งหมอบอกว่าจริง ๆ แล้วความเสี่ยงปัจจุบันน่าจะเป็น 1:500 )

และหมอก็บอกว่าถ้าพบว่าเป็นดาวน์ ก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะตั้งครรภ์ต่อหรือยุติการตั้งครรภ์ ถ้ายุติต้องรีบทำก่อน 24 สัปดาห์ พอฟังหมอพูดแบบนี้ แล้วเราใจแป้วมากกก เพราะเราจินตนาการถึงลูกเราแล้วว่าจะออกมาหน้าเหมือนใคร จะน่ารักมั้ย เราไม่อยากเสียเค้าไปค่ะ (T-T)   จากนั้นหมอก็ให้เราปรึกษากับแฟน และไปดู VDO เกี่ยวกับการเจาะน้ำคร่ำ และตัดสินใจยังไงก็ให้บอกพยาบาลเพื่อนัดวันเจาะค่ะ สรุปว่าเราตัดสินใจเจาะค่ะ

เนื่องจากตอนนั้นที่เราไปฟังผลคัดกรองดาวน์ไตรมาสแรก อายุครรภ์เราประมาณเกือบ 15 สัปดาห์ ที่ศิริราชจะเจาะน้ำคร่ำได้ควรประมาณ 18-20 สัปดาห์ เพื่อให้เด็กค่อนข้างสมบูรณ์หน่อย จะได้นำ cell มาตรวจได้แม่นยำขึ้น (แต่ รพ.อื่น เช่น นนทเวช นวบุตร จะเจาะตอน 16-18 สัปดาห์ค่ะ)
เราก็ได้แต่รอเวลาอีก 1 เดือน เป็นการรอที่ทรมานมากเลยค่ะ ระหว่างนั้นเราก็พยายามหาข้อมูลจากในเน็ต หาข้อมูลของคุณแม่ท่านอื่นว่าทำอย่างไรกันต่อไป หากผลออกมาเป็นบวกอีก ก็เลยคิดแผน 2 ไว้ว่าถ้าผลออกมาเป็นบวก เราจะหาเจาะที่ รพ.อื่นด้วย เราก็เลยโทรเช็คข้อมูล รพ. อื่นๆ เช่น รามา นนทเวช นวบุตร และถามพยาบาลที่ รพ. อื่นด้วยว่าผลเลือดที่ออกมานี้ มีความเสี่ยงที่จะเป็นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคำตอบที่เราได้มา คือ ไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นการคำนวณจากการนำค่าความหนาต้นคอ, PAPP-A และ free beta HCG มาคำนวณร่วมกัน จึงไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเลขไหนที่บ่งชี้ว่าลูกเรามีโอกาสเป็นดาวน์แน่ๆ เราหาข้อมูลจนปวดหัวและปลงไปในที่สุดว่า เอาวะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ถึงไงก็มีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าลูกเราต้องแข็งแรงสิ!


วันเจาะน้ำคร่ำ (18 สัปดาห์ 5 วัน)
พอถึงวันที่ต้องเจาะจริงๆ ก็ทั้งกลัวและกังวลมากกก ปรากฏว่าคุณหมอพฤหัสที่เราหาอยู่ประจำไม่มา คุณหมอภัทรวลัยจึงจะเป็นผู้เจาะให้แทน หมอภัทรวลัยเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าเด็กหน่อยค่ะ คุณหมออธิบายเยอะ และพูดให้กำลังใจดีมากค่ะ คุณหมอบอกว่าเนื่องจากผลคัดกรองจากเลือดจะมีความไวมาก ก็เลยทำให้ตรวจเจอว่ามีความเสี่ยง หลายๆ เคสพอตรวจให้ละเอียดอีกทีเด็กก็ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ จากนั้นคุณหมอก็อัลตร้าซาวนด์ดูให้อีกครั้ง (ให้แฟนเข้าไปดูได้ด้วยค่ะ) เพื่อดูว่าเด็กน้อยอยู่ที่ตำแหน่งไหน และช่วยดูน้ำในโพรงสมอง ฯลฯ (เป็น soft marker ว่ามีลักษณะบ่งชี้ว่าเป็นดาวน์ด้วยอีกทางหนึ่งหรือเปล่าค่ะ) ซึ่งดูจาก soft marker แล้ว คุณหมอบอกว่าปกติค่ะ ไม่น่าจะมีปัญหา
จากนั้นก็ถึงเวลาเจาะจริง (เลยให้แฟนออกไปก่อน เดี๋ยวจะลมจับเอา 555) หมอบอกว่าถ้าเจาะด้านบนๆ หน่อยจะไม่เจ็บค่ะ ถ้าเป็นด้านล่างจะเจ็บหน่อย เพราะเส้นประสาทเยอะ วันนี้เด็กน้อยเราก็ไม่ยอมขยับตัวลงซะงั้น เราเลยต้องโดนเจาะด้านล่างค่ะ  -“-    หมอเลยต้องฉีดยาชาด้วย (คุณหมอบอกว่า ยาชาจะช่วยให้ชาที่ผิวหนังด้านบน แต่ตอนเจาะไปที่ถุงน้ำคร่ำก็จะเจ็บอยู่ดี)
ตอนที่โดนฉีดยาชาเราเจ็บอ่ะ พอฉีดสักแป๊ปหมอก็เจาะน้ำคร่ำต่อเลยค่ะ (ระหว่างนี้คุณหมอก็จะซาวน์ดูตลอดค่ะ เพื่อไม่ให้เข็มโดนเด็ก) สำหรับเราตอนเจาะเราไม่เจ็บเท่าตอนฉีดยาชา คงเป็นเพราะกลัวและตื่นเต้นด้วยมั้งคะ หลังจากที่เจาะเสร็จ ก็ไปนอนพัก 15 นาที ซึ่งพยาบาลก็จะบอกวิธีการปฏิบัติตัวภายใน 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ เช่น ห้ามยกของหนัก, ถ้ามีเลือดออกมาให้ถือใบฝากครรภ์ไปหา รพ.ที่ใกล้ที่สุด ฯลฯ
พอครบ 15 นาทีคุณหมอก็มาอัลตร้าซาวนด์ดูให้อีกทีค่ะ เพื่อให้ดูว่าเด็กน้อยยังหัวใจเต้นนะ ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กนะ    


วันฟังผล (หลังจากวันเจาะ 3 สัปดาห์)
และแล้ววันนี้ก็มาถึงซะที …  วันนี้ได้ฟังผลกับหมอภัทรวลัยค่ะ (เนื่องจากหมอภัทรวลัยเป็นผู้เจาะ หมอก็เลยเป็นผู้แจ้งผลค่ะ) หมอเปิดให้ดูผลตรวจที่เป็นรูป cell ยึกยือๆ และหมอก็บอกว่าที่เราสนใจคือตัวนี้ “46,xx”  แล้วหมอก็นิ่งไป เรากับแฟนมองหน้ากัน ตกใจมากจะร้องไห้ละ หมอบอกว่าปกติค่ะ และเด็กน้อยเป็นผู้หญิง  ส่วนโครโมโซมคู่ที่ 13 กับ 18 ก็ปกติค่ะ ยิ้ม   ตอนนั้นความรู้สึกทุกอย่างเหมือนถูกปลดปล่อย โล่งใจมาก และดีใจมากกับผลที่กังวลกันมานาน  
รูปตัวอย่างโครโมโซมที่เค้าเพาะจาก cell ของเด็กน้อยที่หลุดลอกในน้ำคร่ำค่ะ (หมอบอกว่าถ้าผิดปกติ คู่ที่ 21 จะมีโผล่มาอีก 1 แท่งค่ะ)     



ของเราถือว่าโล่งใจไปเรื่องนึง แต่เราก็ไม่อยากประมาท เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังต้องดูกันต่อไปและเราก็ไม่รู้ว่าเราจะมีอาการอะไรที่น่ากังวลอีกหรือเปล่า เช่น เบาหวาน ท้องแข็ง รกต่ำ  
ที่เล่ามานี้เราอยากจะบอกคุณแม่ทุกท่านที่ตรวจมาแล้ว พบว่าลูกมีความเสี่ยง down syndrome เราเข้าใจมากๆ เลยค่ะว่ารู้สึกยังไง เครียด กังวลยังไง  ก็ขอให้ว่าคุณแม่ทุกท่านได้รับข่าวดี สุขภาพแข็งแรงทั้งคุณแม่และคุณลูกนะคะ อมยิ้ม04
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่