ทริปเกาะพะงันครั้งนี้ มีเรากับเพื่อนผญรวม 4 คน เป็นเพื่อนสมัยมัธยมตอนนี้ก็แยกย้ายไปคนละทาง แล้ววันนึงเราพูดชวนเล่นๆว่าไปเที่ยวกัน เพื่อนคนนึงบอกไปดิ เป็นวันหยุดแรงงานที่ตรงกับงาน full moon พอดีเลย ก็ลองถามคนอื่นดูว่าจะไปด้วยมั้ย ในใจตอนนั้นคิดว่าถ้าไม่มีใครไปก็จะเที่ยวใกล้กรุงเทพก็พอ แต่มีสองนางกำลังwantพอดี สรุปไปกัน4คน คนนึงอยู่สมุทรสาคร เราอยู่กรุงเทพ สองคนนั้นอยู่พะเยา แล้วการเดินทางครั้งนี้ก็เริ่มขึ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2558 ขอบอกว่าทริปนี้มีวิธีการเดินทางที่หลากหลายมาก เกือบทุกคมนาคมเลยทีเดียว
ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้ามีอะไรผิดพลาด เพิ่งเขียนกระทู้ครั้งแรก 555
วันแรก 30 เม.ย. 58
เมื่อต่างคนต่างที่มาแน่นอนก็ต้องมีการเดินทางที่หลากหลายและมีอุปสรรคมากมายเกือบจะล่มแล้วค่ะ
เริ่มจากพะเยา มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันคือผอ.ที่เพื่อนทำงานบอกให้เช้านี้ให้เข้าไปหาด้วย ตอนแรกใจเสียแล้วนึกว่าแผนจะล่ม แต่ด้วยความ...อะไรของมันไม่รู้ทำให้ขึ้นรถเมล์จากพะเยาไปเชียงรายเพื่อไปขึ้นเครื่องมากรุงเทพได้ทัน นับถือๆๆ เครื่องบินไลออนแอร์ 590 บาท
เราอยู่ลาดกระบังต้องไปรับเพื่อนที่ดอนเมืองก็ต้องไปสุวรรณภูมิเพื่อนั่งรถตู้ไปต่อเดียวถึง 50 บาท
งานนี้เราสบาย555 แต่พระเจ้ารถติดมากเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด พอไปถึงดอนเมืองก็รีบพาสองนางข้ามฝั่งไปขึ้นรถไฟเพื่อไปหัวลำโพง 20 บาท
จองตัวไว้แล้ว4ที่นั่งชั้น 3 (ประหยัดไว้ก่อน ) 257 บาท
รถไฟไปสุราษฎร์ออก 19.30 พอถึงหัวลำโพงยังเหลือเวลาก็หาไรกินกัน อยากจะบอกว่าข้าวตามสั่งตรงข้ามหัวลำโพงนี่ อร่อยมาก ทำเร็วมาก(ประชด!!) ก็เลยต้องใส่กล่องไปกินบนรถไฟ ไม่งั้นไม่ทันแน่
เออลืมพูดถึงเพื่อนสมุทรสาครเลย จะบอกว่านางงานยุ่งมากเวลาคุยกันในกรุ๊บไลน์นางไม่ค่อยจะตอบ ก็เลยต้องโทรหา
ช๊อครอบสองคือนางเพิ่งเลิกงาน 5โมงเย็น และยังไม่ได้เก็บกระเป๋าเลย ทุกคนมองหน้าแบบรู้กันว่าไม่ทันแน่ๆ เพราะรถติดมาก แต่นางก็นั่งแท็กซี่มาจากโน้นก็เลยรอจนวินาทีสุดท้าย พี่เจ้าหน้าที่การรถไฟเลยแนะนำให้นางลงจากแท็กซี่แล้วนั่งวินไปรอที่สถานีบางบำหรุแล้วเรากะเพื่อน 3 คนให้นั่งรถไฟไปก่อน เลยวิ่งกันหางจุกตูดเกือบไม่ทันเพราะรถไฟเริ่มเคลื่อนแล้วแต่เค้าแอบจอดให้เราด้วย ใจดีจุง แต่เหนื่อยมากตรงที่ชั้น3มันโบกี้หน้าๆ แต่เราวิ่งขึ้นโบกี้สุดท้าย เดินกันหอบเลย กว่าจะได้โทรบอกเพื่อนอีกคนตามที่พีเจ้าหน้าที่แนะนำ มันก็ใกล้จะถึงหัวลำโพงแล้ว และไม่มีวินมอไซค์เลย ช๊อครอบสาม แผนต่อมาคือให้สละตั๋วนี้ไปซื้อใหม่รอบ 22.50น.
แต่ก็ต้องช๊อครอบสี่คือตั๋วเต็มหมดแล้ว เร็วสุดคือบ่ายพรุ่งนี้ เราสามคนหน้าเสียเลย ก็เลยตัดสินใจบอกไปว่ากลับบ้านเลยเดี๋ยวจะดึกและคงไม่มีรถที่ไหนแล้วเวลานี้ที่จะไปทัน ทุกคนก็เลยนั่งกินข้าวจากที่ไม่อร่อย ก็ไม่อร่อยเข้าไปอีก แต่ก็ไม่ยอมล้มเลิกง่าย หาวิธีการเดินทางแบบอื่นที่เร็วที่สุด(ไม่ใช่นั่งเครื่อง) แล้วซักพักเพื่อนที่เราคิดว่านางคงนั่งแท็กซี่กลับบ้านไปแล้ว ส่งรูปมาในไลน์กรุ๊ปคือตั๋วรถไฟรอบ 22.30!!! ตอนนั้นดีใจมากกก สุดท้ายก็ได้ไปด้วยกัน ถ้าเป็นเราคงท้อและกลับบ้านไปละ นางบอกว่าตอนแรกไปอ้อนวอนจนท.รถไฟจนเค้าจะให้ไปนั่งหัวรถจักร555 แต่ความพยายามของนางคือโทร call center ย้ำๆจนมีคนสละตั๋ว นับถือๆๆ
ขอระบายส่วนตัวหน่อยค่ะ กับมนุษย์ป้าในรถไฟ นางซื้อตั๋วยืนมา พอเจอที่นั่งว่างข้างเรา(ของเพื่อนที่ตกรถ) นางก็มานั่งจ้าแต่ขนาดตัวนางพอนั่งปุ๊บคือ 3 ใน 4 ของที่นั่ง เรานี่นั่งอึดอัดตลอด 10 ชั่วโมงไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลยทีเดียว เซ็งเลย แถมยังเอาขาไปก่ายที่นั่งของเพื่อนตรงข้ามด้วย และเอาหลานตัวเองนอนพื้นใต้ที่นั่งของเราด้วย คือคนกลับต่างจังหวัดกันเยอะมาก จนท.บอกปกติรถไฟชั้น3 แทบไม่มีคน เข้าใจว่าต้องมีน้ำใจแบ่งให้นั่งแต่บางทีป้าควรเกรงใจเราหน่อยนะ นี่แค่ตอนเดินทาง ยังยาวเหยียดเลย 555 ขอโทษน้าาา
[CR] รีวิว เที่ยวเกาะพะงัน + full moon แบบประหยัด(มั้ง) 555
ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้ามีอะไรผิดพลาด เพิ่งเขียนกระทู้ครั้งแรก 555
วันแรก 30 เม.ย. 58
เมื่อต่างคนต่างที่มาแน่นอนก็ต้องมีการเดินทางที่หลากหลายและมีอุปสรรคมากมายเกือบจะล่มแล้วค่ะ
เริ่มจากพะเยา มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันคือผอ.ที่เพื่อนทำงานบอกให้เช้านี้ให้เข้าไปหาด้วย ตอนแรกใจเสียแล้วนึกว่าแผนจะล่ม แต่ด้วยความ...อะไรของมันไม่รู้ทำให้ขึ้นรถเมล์จากพะเยาไปเชียงรายเพื่อไปขึ้นเครื่องมากรุงเทพได้ทัน นับถือๆๆ เครื่องบินไลออนแอร์ 590 บาท
เราอยู่ลาดกระบังต้องไปรับเพื่อนที่ดอนเมืองก็ต้องไปสุวรรณภูมิเพื่อนั่งรถตู้ไปต่อเดียวถึง 50 บาท
งานนี้เราสบาย555 แต่พระเจ้ารถติดมากเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด พอไปถึงดอนเมืองก็รีบพาสองนางข้ามฝั่งไปขึ้นรถไฟเพื่อไปหัวลำโพง 20 บาท
จองตัวไว้แล้ว4ที่นั่งชั้น 3 (ประหยัดไว้ก่อน ) 257 บาท
รถไฟไปสุราษฎร์ออก 19.30 พอถึงหัวลำโพงยังเหลือเวลาก็หาไรกินกัน อยากจะบอกว่าข้าวตามสั่งตรงข้ามหัวลำโพงนี่ อร่อยมาก ทำเร็วมาก(ประชด!!) ก็เลยต้องใส่กล่องไปกินบนรถไฟ ไม่งั้นไม่ทันแน่
เออลืมพูดถึงเพื่อนสมุทรสาครเลย จะบอกว่านางงานยุ่งมากเวลาคุยกันในกรุ๊บไลน์นางไม่ค่อยจะตอบ ก็เลยต้องโทรหา
ช๊อครอบสองคือนางเพิ่งเลิกงาน 5โมงเย็น และยังไม่ได้เก็บกระเป๋าเลย ทุกคนมองหน้าแบบรู้กันว่าไม่ทันแน่ๆ เพราะรถติดมาก แต่นางก็นั่งแท็กซี่มาจากโน้นก็เลยรอจนวินาทีสุดท้าย พี่เจ้าหน้าที่การรถไฟเลยแนะนำให้นางลงจากแท็กซี่แล้วนั่งวินไปรอที่สถานีบางบำหรุแล้วเรากะเพื่อน 3 คนให้นั่งรถไฟไปก่อน เลยวิ่งกันหางจุกตูดเกือบไม่ทันเพราะรถไฟเริ่มเคลื่อนแล้วแต่เค้าแอบจอดให้เราด้วย ใจดีจุง แต่เหนื่อยมากตรงที่ชั้น3มันโบกี้หน้าๆ แต่เราวิ่งขึ้นโบกี้สุดท้าย เดินกันหอบเลย กว่าจะได้โทรบอกเพื่อนอีกคนตามที่พีเจ้าหน้าที่แนะนำ มันก็ใกล้จะถึงหัวลำโพงแล้ว และไม่มีวินมอไซค์เลย ช๊อครอบสาม แผนต่อมาคือให้สละตั๋วนี้ไปซื้อใหม่รอบ 22.50น.
แต่ก็ต้องช๊อครอบสี่คือตั๋วเต็มหมดแล้ว เร็วสุดคือบ่ายพรุ่งนี้ เราสามคนหน้าเสียเลย ก็เลยตัดสินใจบอกไปว่ากลับบ้านเลยเดี๋ยวจะดึกและคงไม่มีรถที่ไหนแล้วเวลานี้ที่จะไปทัน ทุกคนก็เลยนั่งกินข้าวจากที่ไม่อร่อย ก็ไม่อร่อยเข้าไปอีก แต่ก็ไม่ยอมล้มเลิกง่าย หาวิธีการเดินทางแบบอื่นที่เร็วที่สุด(ไม่ใช่นั่งเครื่อง) แล้วซักพักเพื่อนที่เราคิดว่านางคงนั่งแท็กซี่กลับบ้านไปแล้ว ส่งรูปมาในไลน์กรุ๊ปคือตั๋วรถไฟรอบ 22.30!!! ตอนนั้นดีใจมากกก สุดท้ายก็ได้ไปด้วยกัน ถ้าเป็นเราคงท้อและกลับบ้านไปละ นางบอกว่าตอนแรกไปอ้อนวอนจนท.รถไฟจนเค้าจะให้ไปนั่งหัวรถจักร555 แต่ความพยายามของนางคือโทร call center ย้ำๆจนมีคนสละตั๋ว นับถือๆๆ
ขอระบายส่วนตัวหน่อยค่ะ กับมนุษย์ป้าในรถไฟ นางซื้อตั๋วยืนมา พอเจอที่นั่งว่างข้างเรา(ของเพื่อนที่ตกรถ) นางก็มานั่งจ้าแต่ขนาดตัวนางพอนั่งปุ๊บคือ 3 ใน 4 ของที่นั่ง เรานี่นั่งอึดอัดตลอด 10 ชั่วโมงไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลยทีเดียว เซ็งเลย แถมยังเอาขาไปก่ายที่นั่งของเพื่อนตรงข้ามด้วย และเอาหลานตัวเองนอนพื้นใต้ที่นั่งของเราด้วย คือคนกลับต่างจังหวัดกันเยอะมาก จนท.บอกปกติรถไฟชั้น3 แทบไม่มีคน เข้าใจว่าต้องมีน้ำใจแบ่งให้นั่งแต่บางทีป้าควรเกรงใจเราหน่อยนะ นี่แค่ตอนเดินทาง ยังยาวเหยียดเลย 555 ขอโทษน้าาา