สวัสดียามดึกค่ะทุกคน วันนี้นุ่มนิ่มจะมารีวิว รองพื้นทั้งหมดที่เราเคยใช้ 14 ตัว มีทั้งถูกและแพงปะปนกันไปนะคะ ก่อนอื่นเลยเราขอแนะนำสภาพผิวหน้าของเราก่อน ผิวหน้าเราเป็นผิวผสม มันช่วง T zone ส่วน U zone จะแห้งนะคะ เนื่องจากผิวขาดน้ำ ช่วงไหนพักผ่อนเยอะ บำรุงจัดเต็มก็ T zone จะไม่ค่อยมันมาก แต่ถ้าช่วงไหนพักผ่อน อัดบำรุงกรุบกริบ T zone จะค่อนข้างมันมากค่ะ สภาพริ้วรอยร่องลึกยังไม่มี รอยดำ รอยแดงจากสิว ส่วนใหญ่จะเป็นรอยดำค่ะ มากน้อยแล้วแต่ช่วงสิวบุก แต่ถ้าบำรุงดีก็จะจางไว ต้องบอกสาวๆก่อนเลยค่ะว่า ประสิทธิภาพรองพื้นจะดีขึ้นและเห็นผลตามที่แต่ละ brand เคลมไว้นั้นต้องมาควบคู่กับการบำรุงผิวหน้าที่ดีด้วยนะคะ จะสังเกตได้ชัดว่ารองพื้นจะเกาะผิวหน้าได้ดีขึ้น แต่งหน้าสวยขึ้นจริงๆค่ะ พูดมากไปละๆ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
การรวมตัวกันของรองพื้นที่จะยกขโยงกันมาวันนี้จ้า บางตัวเราต้องขอยืมใช้ภาพจาก internet นะคะ เพราะว่าเพิ่งจะเคลียร์โต๊ะเครื่องแป้งไป ตัวที่ใช้หมดส่วนใหญ่จะโดนทิ้งขวดไปหมดแล้ว T-T
ก่อนจะเริ่มรีวิว เราอธิบายก่อนนะว่าการรีวิวของเราจะ เน้นหัวข้อดังนี้
- ความรู้สึกเมื่อทา เกลี่ยง่าย/ยาก, หนักหน้า/สบายผิว
- Finish look ที่ได้ matte/dewy
- ประสิทธิภาพการปกปิดรอยดำ รอยแดง
- ควบคุมความมัน/กันน้ำ
- สีของรองพื้นระหว่างวัน
- ให้คะแนน คะแนนเต็ม 10
- ซื้อต่อไหม
ทั้งหมดคือความรู้สึกส่วนตัวจากการใช้นะคะ ไม่มีสปอนเซอร์ ควักกระเป๋าเองล้วนๆจ้า และไม่ได้มีอคติกับ brand ไหนเป็นพิเศษนะคะ ผลลัพธ์ที่ได้มากจากการใช้บนสภาพผิวหน้าเราเอง ถ้าสภาพผิวเหมือนกันมีโอกาสได้ผลลัพธ์เหมือนกันค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไง รีวิวนี้อาจเป็นตัวประกอบการตัดสินใจได้ แต่อย่าตัดสินเลยไปเลยถ้ายังไม่ได้ลองนะจ้ะ เอ้าเริ่มมม
1. Revlon Photoready
ตัวนี้เนื้อค่อนข้างเป็น Liquid ในเนื้อรองพื้นจะผสมชิมเมอร์เม็ดเล็กละเอียดๆไว้อยู่ช่วยกระจายแสงและเพิ่มความแววาวให้ใบหน้าค่ะ ชื่อก็บอกว่า photoready ด้วยคุณสมบัติช่วยกระจายแสงจะทำให้หน้าเราผ่องขึ้นกล้อง ถ่ายรูปมาละสวย สำหรับเราเราไม่ได้รู้สึก ว้าว อะไรกับผลลัพธ์จากการถ่ายรูปเท่าไหร่นะ
ความรู้สึกหลังทาลงบนแล้วจะไม่ได้ดู matte นะ ดูฉ่ำเลย เราเป็นสายชอบ ดิวอี้หน่อยๆนะ เกลี่ยง่าย บางเบาระดับนึง แต่ถือว่าเบาสบายใช้ได้ ปกปิดน้อยถึงปานกลาง ต้องใช้ คอนซีลช่วย ควบคุมความมันและกันน้ำได้ระดับนึงเลยแต่ไม่เทพเท่ารุ่นฝาดำ แต่ไม่มันจนเยิ้มและจนเกิดคราบ โดนน้ำสาดช่วงสงกรานต์มีหลุด สำหรับเราถ้าวันปกติสามารถอยู่ได้ทั้งวัน สีมีดรอปบ้าง แต่ไม่ถึงกับราหูอม ดรอปนิดหน่อยเองเรารับได้ สีในรุ่นนี้จะออกเหลืองมากกว่ารุ่นฝาดำ (ฝาดำสีออกชมพู ซึ่งจะพูดในช่วงต่อไป) เพราะฉะนั้นจะไม่ค่อยเกิดอาการเทา ราคาถูก ซึ่งทำให้ตอนนี้ตัวนี้เป็นลูกรักเลย หยิบใช้เพลิน ใช้ไปใช้มาหมดไป 3 ขวดแล้วจ้า ประสิทธิภาพคุ้มราคา ปลื้มมมมมมมม
สรุปข้อดี
1. ถูก
2. คุมมันกันน้ำในระดับที่รับได้ สำหรับคนที่ไม่ต้องตรากตรำอาบเหงื่อต่างน้ำ
3. หน้าฉ่ำ กระจายแสงดูสุขภาพดี
4. มีสีที่ออกไปทาง undertone เหลือง
สรุปข้อเสีย
1. ปกปิดน้อย บางครั้งรอยสิงมาเยือนต้องประโคมคอนซีลหนักหน่อย
ให้คะแนน 10/10 เพราะมันให้ทุกอย่างที่เราอยากได้ ฉ่ำ ไม่มันเยิ้ม คุมมันกันน้ำในระดับที่รับได้ เพราะชีวิตประจำวันเราไม่ได้ตรากตรำตากแดด เหงื่อไหลย้อยอะไรขนาดนั้น และที่สำคัญถูกค่ะ ใช้เพลิน กระเป๋าไม่ฉีก
ซื้อต่อมั้ย อันนี่ซื้อต่อแน่นอนค่ะ ไม่งั้นไม่ใช้ไป 3 ขวดหรอก อิอิ
2. Revlon colorstay ฝาดำในตำนาน
รองพื้นในตำนานเลยค่ะตัวนี้ ทำให้มีความรู้สึกว่าต้องมีในครอบครอง จึงพุ่งตัวไปซื้อแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะ
ตัวนี้เป็นรองพื้นเนื้อครีมที่มาในรูปแบบขวดนะคะ บางคนจะคิดว่าเป็นเนื้อ liquid แต่จริงๆเป็นเนื้อครีมน้าาา ข้อดีของเนื้อครีมทั้งหลายคือจะคุมมัน และมีข้อเสียตามมาคือหนักหน้าค่ะ
มาพูดถึงเรื่องความรู้สึกระหว่างหลังจากทา จะรู้สึกว่าเกลี่ยยากนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับเป็นอุปสรรคนะ เนื้อแห้งเกาะผิวไว ต้องเกลี่ยดีๆนิดนึงเพื่อให้สีสม่ำเสมอค่ะ พอทาเสร็จปุ๊บ ให้ look matte จะรู้สึกหนักหน้ามาก แต่สวยเนียน ปกปิดระดับสูง ถ้ารอยดำสีไม่เข้มจริงไม่ต้องใช้คอนซีลเลย คุมมันกันน้ำระดับเทพ แบบที่ไม่ใช่ว่าคนหน้ามันจะไม่มันเลยนะ มันจะมีน้ำมันซึมออกมา เหงื่อออกก็จะมีเม็ดเหงื่อซึมออกมา แต่ไม่สามารถทำร้ายรองพื้นบนหน้าให้เกิดคราบได้ แค่ใช้ทิชชู่ซับ ก็จบค่ะ ผ่องเด้งเหมือนเดิม
เรื่องสี ข้อเสียของ revlon รุ่นนี้ คือ ไม่มีสี undertone เหลืองที่เป็นเหลืองจริงๆค่ะ สีเกือบทั้งหมดจะอมชมพู ขนาดที่เหลืองที่สุดยังมีติ่งของชมพูเลย ซึ่งผิวสาวไทยส่วนใหญ่เป็น undertone เหลือง เพราะฉะนั้น ระหว่างวันอาจมีสีหมองลงได้ บางคนทาแล้วหน้าเทา ก้อต้องเลือกสีที่ใกล้เคียงผิวที่สุดจะลดเรื่องนี้ได้ แต่ยังไงก็มีเทาบ้างอยู่ดี ยิ่งถ้าคนผิวคล้ำมากๆยังไงก็เทาค่ะ แต่เลี่ยงไม่ได้จริงๆบางงานอย่างรับปริญญาที่หน้าต้องปังทั้งวัน ต้องพึ่งนางเลยค่ะ ถูกและติดทน เด้งเช้าจรดเย็นจริงๆ แต่ต้องล้างหน้าดีๆค่ะไม่งั้น สิวอุดตันมาเยือน
สรุปข้อดี
1.คุมมันกันน้ำดี๊ดี
2.ติดทน ผ่อง เด้ง ทั้งวัน
3. ถูก คุ้มราคา
สรุปข้อเสีย
1. หนักหน้า
2. ไม่เป็นธรรมชาติ ดูหนา
3. สีออกชมพู ทำให้หน้าเทา
ให้คะแนน 9/10 จริงๆตัวนี้เป็นตัวที่เราหยิบมาใช้น้อยมาก เพราะหนักหน้า ถ้าจะใช้เป็นประจำละรู้สึดอึดอัดผิว แต่ให้คะแนนมากเพราะ คุณภาพคุ้มราคามากจริงๆ ช่วยเราได้ในโอกาสที่หน้าต้องเป๊ะปัง ต้องคุมมันกันน้ำระดับสุด
ซื้อต่อมั้ย ซื้อต่อแน่นอน แต่อีกนานเพราะใช้บางโอกาส แต่จำเป็นต้องมีนางติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ค่ะ
3. Giffarine Crystalline Foudation Cream
รองพื้นเนื้อครีมที่มาในรูปแบบหลอดค่ะ
ความรู้สึกเมื่อทา ตัวนี้เกลี่ยง่ายค่ะ เนื้อรองพื้นค่อนข้างลื่นๆ น่าผสม moisturizer เยอะหน่อย ไม่เหมาะกับคนผิวมันค่ะ ทาเสร็จละ matte ได้ซักพัก แล้วก็จะเริ่มฉ่ำๆค่อนไปทางเยิ้มในบริเวณที่หน้ามัน แต่เคยใช้ให้คนผิวแห้งเป็นขุยตัวนี้ใช้โอเคเลยค่ะ สภาพผิวของคนผิวแห้งจะรับกับรองพื้นตัวนี้ได้ดีไม่เป็นขุยและดูชุ่มชื้นค่ะ หนักหน้านิดหน่อย ปกปิดปานกลางถึงมากค่ะ สามารถ layer เพิ่มการปกปิดได้ สีดรอประหว่างวันอยู่พอตัวค่ะ ต้องใช้ที่สว่างกว่าผิว 1 เสต็ป เพื่อเวลามันดรอปลงแล้วจะพอดีผิวหน้าค่ะ สี undertone เหลืองได้ใจมาก เข้ากับสีผิวสาวไทยได้ดีเลย กันน้ำระดับนึงนะแต่เราว่าน้อยค่ะ เหงื่อออกมีเป็นคราบ ยิ่งถ้าหน้ามันนี่หลุดเลยค่ะ จมูกงี้หลุดก่อนเลย
สรุปข้อดี
1. เหมาะกับคนหน้าแห้งแบบเป็นขุย
2. ถูก
3. สี undertone เหลืองเข้ากับสาวไทย
4. ปกปิดดีใช้ได้
สรุปข้อเสีย
1. หาซื้อยากต้องเป็น member
2. คุมมันกันน้ำน้อยมาก
3. สีดรอประหว่างวัน
4. ไม่ติดทน ถ้าช่วงไหนมันมากจะหลุดอย่างไว
ให้คะแนน 4/10 ยังมีคะแนน เพราะถูกและเรายังใช้ประโยชน์จากการเอาไปแต่งหน้าให้เพื่อนที่หน้าแห้งเป็นขุยได้แล้วออกมาสวยด้วยนะ แต่สำหรับสภาพผิวเราเองเราใช้ไม่รอดเลยตัวนี้
ซื้อต่อมั้ย ไม่ซื้อจ้ะ
4. ฺBourjois Healthy mix Foundation
รองพื้นตัวนี้เนื้อกึ่ง Liquid กึ่ง Cream ในความรู้สึกเรานะ ที่ชอบที่สุดของตัวนี้คือกลิ่น หอม ฟิน กลิ่นผลไม้รวม ทาละรู้สึกผ่อนคลาย อิอิ
ความรู้สึกเมื่อทา เกลี่ยง่าย บางเบาไม่หนักหน้า ให้ look dewy ปกปิดร้อยถึงปานกลาง คุมมันกันน้ำได้ไม่ค่อยดี หลายคนใช้แล้วบอกว่าเป็นรองพื้นที่ถูกและดีสมราคา ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบอ่ะ รู้สึกทาแล้วพอตกบ่ายหน้าราหูอมมาก จนเพื่อนทักเลยว่าแกไปทำอะไรมากเหมือนโทรม เหมือนโดนของ คือตอนแรกเราไม่ได้เอะใจว่าเป็นที่รองพื้นนะ ก็ใช้อยู่ซักพัก จนรู้สึกว่าทำไมหน้าไม่ผ่องเลยลองเปลี่ยนรองพื้นดู พอเปลี่ยนปุ๊บเพื่อนทักปั๊บว่าเห้ยหลายวันก่อนไปทำอะไรมา วันนี้คือดูดีขึ้นอ่ะ เพิ่งหายป่วยหรอ คือ รู้ตัวการเลยจ้าาาา แต่พอเราบำรุงหน้าดีๆ วันไหนตื่นเช้ามาแล้วเห้ยหน้าดีเว่อร์ ลองมาใช้ตัวนี้ดู ก็ไม่เลวร้ายเหมือนตอนแรกนะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นอ่ะค่ะ พอตกบ่ายแก่ๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน หลุด เยิ้ม หน้าหมอง งง เราเลยสรุปเอาเองว่าตัวนี้มันเหมาะกับคนที่ผิวดีมากๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอ่ะ ไม่ได้หวังเรื่องช่วยให้ผ่องแต่หวังแค่ปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอก็พออะไรแบบนี้ค่ะ ตัวนี้จะหาสีที่เข้ากับสีผิวจริงๆได้ค่อนข้างยากด้วยนะ เพราะมีสีให้เลือกน้อยมากค่ะ
สรุปข้อดี
1. กลิ่นหอมมาก
2. เกลี่ยง่าย บางเบา ฉ่ำ ถ้าคนผิวดีมากเป็นทุนเดิมจะโอเคกับตัวนี้
3. ราคาถูก
สรุปข้อเสีย
1. ไม่คุมมันไม่กันน้ำ
2. สีดรอปลงจนหน้าราหูอม
3. มีสีให้เลือกน้อยมาก
ให้คะแนน 0/10 ดูโหดร้ายอ่ะ แต่สำหรับเรามันไม่รอดจริงๆนะ แล้วไม่ค่อยกล้าเอาไปใช้แต่งให้คนอื่นด้วยอ่ะ
ซื้อต่อมั้ย ไม่ซื้อค่ะ
สาวๆท่านไหนมีคำถามสามารถหลังไมค์มาได้นะคะ และเราขอฝากอีกหนึ่งช่องทางการติดต่อไว้สำหรับสาวๆที่รักการแต่งหน้าเผื่ออยากพูดคุยกันค่ะ ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/pages/Superb-by-Suphak-Makeup-artist/1463729503866151?fref=ts
[CR] Review :: มหกรรมรีวิว รองพื้น 14 ตัว ที่เคยใช้ ถูกยันแพง เชิญติดตามค่ะ
การรวมตัวกันของรองพื้นที่จะยกขโยงกันมาวันนี้จ้า บางตัวเราต้องขอยืมใช้ภาพจาก internet นะคะ เพราะว่าเพิ่งจะเคลียร์โต๊ะเครื่องแป้งไป ตัวที่ใช้หมดส่วนใหญ่จะโดนทิ้งขวดไปหมดแล้ว T-T
ก่อนจะเริ่มรีวิว เราอธิบายก่อนนะว่าการรีวิวของเราจะ เน้นหัวข้อดังนี้
- ความรู้สึกเมื่อทา เกลี่ยง่าย/ยาก, หนักหน้า/สบายผิว
- Finish look ที่ได้ matte/dewy
- ประสิทธิภาพการปกปิดรอยดำ รอยแดง
- ควบคุมความมัน/กันน้ำ
- สีของรองพื้นระหว่างวัน
- ให้คะแนน คะแนนเต็ม 10
- ซื้อต่อไหม
ทั้งหมดคือความรู้สึกส่วนตัวจากการใช้นะคะ ไม่มีสปอนเซอร์ ควักกระเป๋าเองล้วนๆจ้า และไม่ได้มีอคติกับ brand ไหนเป็นพิเศษนะคะ ผลลัพธ์ที่ได้มากจากการใช้บนสภาพผิวหน้าเราเอง ถ้าสภาพผิวเหมือนกันมีโอกาสได้ผลลัพธ์เหมือนกันค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไง รีวิวนี้อาจเป็นตัวประกอบการตัดสินใจได้ แต่อย่าตัดสินเลยไปเลยถ้ายังไม่ได้ลองนะจ้ะ เอ้าเริ่มมม
1. Revlon Photoready
ตัวนี้เนื้อค่อนข้างเป็น Liquid ในเนื้อรองพื้นจะผสมชิมเมอร์เม็ดเล็กละเอียดๆไว้อยู่ช่วยกระจายแสงและเพิ่มความแววาวให้ใบหน้าค่ะ ชื่อก็บอกว่า photoready ด้วยคุณสมบัติช่วยกระจายแสงจะทำให้หน้าเราผ่องขึ้นกล้อง ถ่ายรูปมาละสวย สำหรับเราเราไม่ได้รู้สึก ว้าว อะไรกับผลลัพธ์จากการถ่ายรูปเท่าไหร่นะ
ความรู้สึกหลังทาลงบนแล้วจะไม่ได้ดู matte นะ ดูฉ่ำเลย เราเป็นสายชอบ ดิวอี้หน่อยๆนะ เกลี่ยง่าย บางเบาระดับนึง แต่ถือว่าเบาสบายใช้ได้ ปกปิดน้อยถึงปานกลาง ต้องใช้ คอนซีลช่วย ควบคุมความมันและกันน้ำได้ระดับนึงเลยแต่ไม่เทพเท่ารุ่นฝาดำ แต่ไม่มันจนเยิ้มและจนเกิดคราบ โดนน้ำสาดช่วงสงกรานต์มีหลุด สำหรับเราถ้าวันปกติสามารถอยู่ได้ทั้งวัน สีมีดรอปบ้าง แต่ไม่ถึงกับราหูอม ดรอปนิดหน่อยเองเรารับได้ สีในรุ่นนี้จะออกเหลืองมากกว่ารุ่นฝาดำ (ฝาดำสีออกชมพู ซึ่งจะพูดในช่วงต่อไป) เพราะฉะนั้นจะไม่ค่อยเกิดอาการเทา ราคาถูก ซึ่งทำให้ตอนนี้ตัวนี้เป็นลูกรักเลย หยิบใช้เพลิน ใช้ไปใช้มาหมดไป 3 ขวดแล้วจ้า ประสิทธิภาพคุ้มราคา ปลื้มมมมมมมม
สรุปข้อดี
1. ถูก
2. คุมมันกันน้ำในระดับที่รับได้ สำหรับคนที่ไม่ต้องตรากตรำอาบเหงื่อต่างน้ำ
3. หน้าฉ่ำ กระจายแสงดูสุขภาพดี
4. มีสีที่ออกไปทาง undertone เหลือง
สรุปข้อเสีย
1. ปกปิดน้อย บางครั้งรอยสิงมาเยือนต้องประโคมคอนซีลหนักหน่อย
ให้คะแนน 10/10 เพราะมันให้ทุกอย่างที่เราอยากได้ ฉ่ำ ไม่มันเยิ้ม คุมมันกันน้ำในระดับที่รับได้ เพราะชีวิตประจำวันเราไม่ได้ตรากตรำตากแดด เหงื่อไหลย้อยอะไรขนาดนั้น และที่สำคัญถูกค่ะ ใช้เพลิน กระเป๋าไม่ฉีก
ซื้อต่อมั้ย อันนี่ซื้อต่อแน่นอนค่ะ ไม่งั้นไม่ใช้ไป 3 ขวดหรอก อิอิ
2. Revlon colorstay ฝาดำในตำนาน
รองพื้นในตำนานเลยค่ะตัวนี้ ทำให้มีความรู้สึกว่าต้องมีในครอบครอง จึงพุ่งตัวไปซื้อแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะ
ตัวนี้เป็นรองพื้นเนื้อครีมที่มาในรูปแบบขวดนะคะ บางคนจะคิดว่าเป็นเนื้อ liquid แต่จริงๆเป็นเนื้อครีมน้าาา ข้อดีของเนื้อครีมทั้งหลายคือจะคุมมัน และมีข้อเสียตามมาคือหนักหน้าค่ะ
มาพูดถึงเรื่องความรู้สึกระหว่างหลังจากทา จะรู้สึกว่าเกลี่ยยากนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับเป็นอุปสรรคนะ เนื้อแห้งเกาะผิวไว ต้องเกลี่ยดีๆนิดนึงเพื่อให้สีสม่ำเสมอค่ะ พอทาเสร็จปุ๊บ ให้ look matte จะรู้สึกหนักหน้ามาก แต่สวยเนียน ปกปิดระดับสูง ถ้ารอยดำสีไม่เข้มจริงไม่ต้องใช้คอนซีลเลย คุมมันกันน้ำระดับเทพ แบบที่ไม่ใช่ว่าคนหน้ามันจะไม่มันเลยนะ มันจะมีน้ำมันซึมออกมา เหงื่อออกก็จะมีเม็ดเหงื่อซึมออกมา แต่ไม่สามารถทำร้ายรองพื้นบนหน้าให้เกิดคราบได้ แค่ใช้ทิชชู่ซับ ก็จบค่ะ ผ่องเด้งเหมือนเดิม
เรื่องสี ข้อเสียของ revlon รุ่นนี้ คือ ไม่มีสี undertone เหลืองที่เป็นเหลืองจริงๆค่ะ สีเกือบทั้งหมดจะอมชมพู ขนาดที่เหลืองที่สุดยังมีติ่งของชมพูเลย ซึ่งผิวสาวไทยส่วนใหญ่เป็น undertone เหลือง เพราะฉะนั้น ระหว่างวันอาจมีสีหมองลงได้ บางคนทาแล้วหน้าเทา ก้อต้องเลือกสีที่ใกล้เคียงผิวที่สุดจะลดเรื่องนี้ได้ แต่ยังไงก็มีเทาบ้างอยู่ดี ยิ่งถ้าคนผิวคล้ำมากๆยังไงก็เทาค่ะ แต่เลี่ยงไม่ได้จริงๆบางงานอย่างรับปริญญาที่หน้าต้องปังทั้งวัน ต้องพึ่งนางเลยค่ะ ถูกและติดทน เด้งเช้าจรดเย็นจริงๆ แต่ต้องล้างหน้าดีๆค่ะไม่งั้น สิวอุดตันมาเยือน
สรุปข้อดี
1.คุมมันกันน้ำดี๊ดี
2.ติดทน ผ่อง เด้ง ทั้งวัน
3. ถูก คุ้มราคา
สรุปข้อเสีย
1. หนักหน้า
2. ไม่เป็นธรรมชาติ ดูหนา
3. สีออกชมพู ทำให้หน้าเทา
ให้คะแนน 9/10 จริงๆตัวนี้เป็นตัวที่เราหยิบมาใช้น้อยมาก เพราะหนักหน้า ถ้าจะใช้เป็นประจำละรู้สึดอึดอัดผิว แต่ให้คะแนนมากเพราะ คุณภาพคุ้มราคามากจริงๆ ช่วยเราได้ในโอกาสที่หน้าต้องเป๊ะปัง ต้องคุมมันกันน้ำระดับสุด
ซื้อต่อมั้ย ซื้อต่อแน่นอน แต่อีกนานเพราะใช้บางโอกาส แต่จำเป็นต้องมีนางติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ค่ะ
3. Giffarine Crystalline Foudation Cream
รองพื้นเนื้อครีมที่มาในรูปแบบหลอดค่ะ
ความรู้สึกเมื่อทา ตัวนี้เกลี่ยง่ายค่ะ เนื้อรองพื้นค่อนข้างลื่นๆ น่าผสม moisturizer เยอะหน่อย ไม่เหมาะกับคนผิวมันค่ะ ทาเสร็จละ matte ได้ซักพัก แล้วก็จะเริ่มฉ่ำๆค่อนไปทางเยิ้มในบริเวณที่หน้ามัน แต่เคยใช้ให้คนผิวแห้งเป็นขุยตัวนี้ใช้โอเคเลยค่ะ สภาพผิวของคนผิวแห้งจะรับกับรองพื้นตัวนี้ได้ดีไม่เป็นขุยและดูชุ่มชื้นค่ะ หนักหน้านิดหน่อย ปกปิดปานกลางถึงมากค่ะ สามารถ layer เพิ่มการปกปิดได้ สีดรอประหว่างวันอยู่พอตัวค่ะ ต้องใช้ที่สว่างกว่าผิว 1 เสต็ป เพื่อเวลามันดรอปลงแล้วจะพอดีผิวหน้าค่ะ สี undertone เหลืองได้ใจมาก เข้ากับสีผิวสาวไทยได้ดีเลย กันน้ำระดับนึงนะแต่เราว่าน้อยค่ะ เหงื่อออกมีเป็นคราบ ยิ่งถ้าหน้ามันนี่หลุดเลยค่ะ จมูกงี้หลุดก่อนเลย
สรุปข้อดี
1. เหมาะกับคนหน้าแห้งแบบเป็นขุย
2. ถูก
3. สี undertone เหลืองเข้ากับสาวไทย
4. ปกปิดดีใช้ได้
สรุปข้อเสีย
1. หาซื้อยากต้องเป็น member
2. คุมมันกันน้ำน้อยมาก
3. สีดรอประหว่างวัน
4. ไม่ติดทน ถ้าช่วงไหนมันมากจะหลุดอย่างไว
ให้คะแนน 4/10 ยังมีคะแนน เพราะถูกและเรายังใช้ประโยชน์จากการเอาไปแต่งหน้าให้เพื่อนที่หน้าแห้งเป็นขุยได้แล้วออกมาสวยด้วยนะ แต่สำหรับสภาพผิวเราเองเราใช้ไม่รอดเลยตัวนี้
ซื้อต่อมั้ย ไม่ซื้อจ้ะ
4. ฺBourjois Healthy mix Foundation
รองพื้นตัวนี้เนื้อกึ่ง Liquid กึ่ง Cream ในความรู้สึกเรานะ ที่ชอบที่สุดของตัวนี้คือกลิ่น หอม ฟิน กลิ่นผลไม้รวม ทาละรู้สึกผ่อนคลาย อิอิ
ความรู้สึกเมื่อทา เกลี่ยง่าย บางเบาไม่หนักหน้า ให้ look dewy ปกปิดร้อยถึงปานกลาง คุมมันกันน้ำได้ไม่ค่อยดี หลายคนใช้แล้วบอกว่าเป็นรองพื้นที่ถูกและดีสมราคา ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบอ่ะ รู้สึกทาแล้วพอตกบ่ายหน้าราหูอมมาก จนเพื่อนทักเลยว่าแกไปทำอะไรมากเหมือนโทรม เหมือนโดนของ คือตอนแรกเราไม่ได้เอะใจว่าเป็นที่รองพื้นนะ ก็ใช้อยู่ซักพัก จนรู้สึกว่าทำไมหน้าไม่ผ่องเลยลองเปลี่ยนรองพื้นดู พอเปลี่ยนปุ๊บเพื่อนทักปั๊บว่าเห้ยหลายวันก่อนไปทำอะไรมา วันนี้คือดูดีขึ้นอ่ะ เพิ่งหายป่วยหรอ คือ รู้ตัวการเลยจ้าาาา แต่พอเราบำรุงหน้าดีๆ วันไหนตื่นเช้ามาแล้วเห้ยหน้าดีเว่อร์ ลองมาใช้ตัวนี้ดู ก็ไม่เลวร้ายเหมือนตอนแรกนะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นอ่ะค่ะ พอตกบ่ายแก่ๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน หลุด เยิ้ม หน้าหมอง งง เราเลยสรุปเอาเองว่าตัวนี้มันเหมาะกับคนที่ผิวดีมากๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอ่ะ ไม่ได้หวังเรื่องช่วยให้ผ่องแต่หวังแค่ปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอก็พออะไรแบบนี้ค่ะ ตัวนี้จะหาสีที่เข้ากับสีผิวจริงๆได้ค่อนข้างยากด้วยนะ เพราะมีสีให้เลือกน้อยมากค่ะ
สรุปข้อดี
1. กลิ่นหอมมาก
2. เกลี่ยง่าย บางเบา ฉ่ำ ถ้าคนผิวดีมากเป็นทุนเดิมจะโอเคกับตัวนี้
3. ราคาถูก
สรุปข้อเสีย
1. ไม่คุมมันไม่กันน้ำ
2. สีดรอปลงจนหน้าราหูอม
3. มีสีให้เลือกน้อยมาก
ให้คะแนน 0/10 ดูโหดร้ายอ่ะ แต่สำหรับเรามันไม่รอดจริงๆนะ แล้วไม่ค่อยกล้าเอาไปใช้แต่งให้คนอื่นด้วยอ่ะ
ซื้อต่อมั้ย ไม่ซื้อค่ะ
สาวๆท่านไหนมีคำถามสามารถหลังไมค์มาได้นะคะ และเราขอฝากอีกหนึ่งช่องทางการติดต่อไว้สำหรับสาวๆที่รักการแต่งหน้าเผื่ออยากพูดคุยกันค่ะ ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้