คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม มันจะหมดอายุได้ไหมคะ

สวัสดีค่ะทุกคน เราอยากเล่าเรื่องของเราค่ะ ถ้ามีข้อผิดพลาดต้องขออภัยนะคะ
เรื่องนี้มันเริ่มตอนที่เราเข้ามาปีหนึ่ง ตอนนั้นราเพิ่งเลิกเรียนออกมา แล้วเราก็ได้พบกับผู้ชายแบกกีร์ต้าทำหน้ามึนๆ  ไม่รู้อะไรดลใจเราให้หยุดเดิน ใจเราเต้นแรงมาก มากจนกลัวเพื่อนจะได้ยิน แต่เราก็ยังเดินต่อไปเราเดินลงมาที่ศูนย์หนังสือ แล้วเราก็ได้เจอเค้าอีกครั้ง มือเท้าเราเย็นไปหมด แต่เราก็ไม่ได้คิดจะทำความรู้จักอะไร เราเพิ่งเลิกกับแฟนเก่าและรู้สึกไม่พร้อมจะรักใครอีกครั้งในตอนนั้น และในสุดสัปดาห์นั้นเรามีต้องออกค่ายกับวิชาหนึ่งไปกัน 2 วัน 1 คือ ตอนที่เรารวมตัวกันตอนเช้าเราก็ได้เจอกับเค้าอีกครั้ง เราขอสมมตินามเค้าว่านายพีแล้วกัน เราเริ่มรู้สึกแล้วว่านี่มันพรหมลิขิตรึป่าว ตอนอยู่ในค่ายเราก็พยายามทำตัวปกติแต่เห็นหน้าเค้าทีไรเราก็อยากจะยิ้ม ไปๆมาๆเลยเหมือนยิ้มให้เค้าทั้งวันเลย เป็นธรรมเนียมของค่ายที่ตอนเย็นจะมาล้อมวงพูดคุยแล้วเล่นดนตรีกันและก็เป็นนายพีนี่แหละที่มาดีดกีร์ต้าให้กับทุกคนในค่าย  เค้าก็เล่นไปเรื่อยๆตามที่คนขอเพลงไป จนมาถึงเพลงต่างประเทศเพลงหนึ่งซึ่งคนทั้งค่ายก็เริ่มไม่สนใจเค้ามานั่งคุยกันเอง จนเค้าพูดขึ้นว่า"จะฟังกันไหมเนี่ย ไม่งั้นจะเลิกเล่นแล้ว" เราเลยรีบบอกออกไปว่า"ฟังอยุ่นะ เล่นต่อไปสิ" แล้วเค้าก็ยิ้มให้เรา แล้วอาจารย์ก็ปล่อยให้ทุกคนเข้านอนกัน วันถัดมาเป็นวันกลับแล้วกิจกรรมสุดท้ายคือให้คนที่เราจับชื่อได้เพ้นต์เสื้อค่ายให้กับเราแล้วให้คนนั้นจับสลากรายชื่อต่อไป  เรานั่งลุ้นจนคนเกือบท้ายๆแล้ว และนายพีก็ยังไม่มีใครจับชื่อเค้าได้ เรารู้แค่ว่าตอนนั้นอยากให้เค้าทำเสื้อให้เรามาก แต่สุดท้ายก็มีคนจับชื่อเค้าไปได้ซะก่อน เราก็แอบเซ็งๆผิดหวังซะงั้น แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงจะรักเราอยู่ นายพีจับได้ชื่อเรา เราอยากจะกรีดร้องให้ก้องโลก  เราพยายามทำให้เสื้อที่เราเพ้นต์ออกมาดีที่สุด เราไปถามชื่อเค้ามาเพื่อเขียนลงบนเสื้อแถมเรายังเขียนการ์ดให้เค้าอีกใบด้วย.  หลังจบค่ายนั้นเรารู้ทั้งเฟสและเบอของเค้า แต่มันติดที่เราเพิ่งเลิกกับแฟนเก่า เราไม่อยากดูเหมือนเลิกกับคนเก่าเพื่อคบกับคนใหม่ เราเลยไม่ได้พยายามติดต่อนายพีไป แต่ในเย็นที่กลับจากค่ายนั้น นายพีทักแชทเฟสมา เรายิ้มจนแก้มแทบปริ เริ่มรู้สึกตัวเองเป็นคนเลวแล้วเพราะเราตั้งใจจะเริ่มคบกับนายพีให้ได้   หลังจากวันนั้นมา เราคุยกันทุกวัน เราส่งข้อความในมือถือคุยกันตลอด (เราส่งแบบตื้อมาก เค้าไม่ตอบก็ส่งเปลี่ยนเรื่องคุย ให้เค้าตอบให้ได้) คุยกันมาเดือนกว่า เราพยายามหยอดตลอด หยอดให้เหมือนแซวเล่น ทำแบบพี่สาวน้องชายเพื่อดูปฎิกิริยาเค้า แล้วก็ได้รู้ว่าเค้าก็น่าจะเริ่มมีใจให้เราแล้ว นอกจากข้อความแล้วเรายังเล่นสไกเปิดกล้องคุยกับเค้าด้วย แอบแม่คุยจนเกือบเที่ยงคืน นายพีก็มาดีดกีร์ต้าให้เราฟังบ้าง คุยเล่นบ้าง มีออกไปกินข้าวในมหาลัยด้วยกันบ้าง  จนนานๆเข้าเราเริ่มมั่นใจในหลายๆอย่าง เราก็ส่งข้อความไปหาเค้าว่า "สรุปว่านายเฟรนด์ลี่หรือมีอะไรมากกว่านั้น "  แล้วนายพีก็ตอบเรามาว่า"แล้วเห็นเราทำแบบนี้กับใครไหมล่ะ" คุณพระ!! เราดีใจจนแก้มแทบปริ ไม่กี่วันต่อมา นายพีก็ส่งข้อความมาถามเราว่า"มีไรจะขออย่างได้ไหม". เราก็ตอบไป"จะขอไร ไม่มีเงินให้ยืมนะ". แล้วนายพีก็"ขอเป็นแฟนน่ะ" ตอนนั้นเราแอบเล่นตัวค่ะ ให้เค้าไปเขียนจดหมายสมัครเป็นแฟนมา แล้ววันต่อมาเราก็ได้เริ่มคบกันแบบจริงจัง มันเป็นเรื่องบังเอิญ,โลกกลม หรือเพราะพรหมลิขิตที่คนที่เราแอบชอบจะมาชอบเรากลับ  หลายคนๆก็คิดว่าแค่นี้ก็แฮปปี้เอนดิ้งแล้ว. แต่ป่าวเลย นี่ชีวิตจริงนะคะ   ......เดี๋ยวกลับมาเล่าต่อนะคะ.....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่