ความฝันต้องสลายเพราะอดีตเคยประวัติการเงินไม่ดี

เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เกิดจากประสบการณ์ตรงของ จขกท ที่แสนเจ็บปวด ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่รอบคอบ หรือไม่ได้คิดถึงว่าสิ่งนั้นจะย้อนกระทบจนถึงปัจจุบัน เหตุการเริ่มจากผมเป็นคน ตจว พอเรียนจบก็มาทำงานที่ กทม ที่บริษัทแห่งหนึ่ง เงินเดือนเริ่มต้นก็แค่ หมึ่นต้น ด้วยความคึกคะนองอารมณ์บ้านนอกเข้ากรุง ก็หลงไหลไปกับแสงสี ความศิวิไลในเมืองกรุง จึงทำให้ใช้จ่ายเกินตัว ซักหน้าไม่ถึงหลัง จนเรื่องมาหนักขึ้นเมื่อ ดันทำบัตรเครดิตได้ พอได้มาก็ รูดปรื๊ดๆ ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เดือนไหนไม่มีส่งให้ทางบ้านก็ต้องกดเงินสดออกมาส่งให้ เพราะไม่อยากให้ที่บ้านต้องเป็นกังวัลและสงสัย จนเต็มวงเงิน 3 ใบ ทีแรกก็คิดว่าผ่อนจ่าย 10% ก็ได้ คงไม่เป็นไร ไหวน้า จนต่อมาก็ไม่ไหว จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง จนเกิดประวัติเสียโดนจดหมายทวงหนี้ ขู่ว่าจะฟ้องบ้าง ยึดทรัพย์บ้าง จนตอนนั้นตัวเองเครียดมากๆ จนมานั้งคิดทบทวนตัวเอง และก็ปรับตัว พยายามหาเงินมาจ่ายให้มากที่สุด จนสักพักจ่ายบัตรที่ 1 หมด ใจชื่นก็เริ่มมีกำลังใจเราทำได้ ก็ทยอยๆต่อบัตรที่สองต่อ จนหมดหลังจากหกเดือนของบัตรแรก ที่นี้ก็เหลืออีกใบเท่านั้น กัดฟันสู้ต่อ จนสุดท้ายก็หมดสิ้นเสียที ใช้เวลาในการปลดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด 3 ใบ 3 ปี หลังจากนั้นก็ทำงานมาเรื่อยๆ 5-6 ปี จนเงินเดือนก็มากขึ้น การเป็นอยู่ก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง ก็เลยนึกอยากจะทำธุรกิจส่วนตัว จะได้กลับบ้านนอกเสียที (ด้วยเหตุผลอะไรหลายๆอย่าง ที่คิดว่าไม่อยากทำงาน กทม แล้ว เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ทุกวันก็รีบลุกรน ทำโน้นทำนี่ แย่งกันกินแย่งกันใช้ แออัด ยัดเยียด รถติด โอ้ยๆๆๆ ร้อยแปดพันประการ ก็เริ่มศึกษาธุรกิจมาเรื่อยๆ จนเข้าใจอย่างถองแท้ มีความรู้ มีคอนเน็คชั่นกับดีเลอร์อุปกรณ์ต่างๆ (ด้วยเงินทุนก็มีน้อย หลักทรัพย์ค้ำประกันไม่มี)  เลยศึกษาแหล่งกู้เงินเพื่อทำธุรกิจ ก็ได้เจอหลายแบงค์ที่มีการสนับสนุนเรื่องเงินทุนเพื่อ SME โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันและด้วยนโยบาลรัฐบาลที่ส่งเสริมในธุรกิจ SME จึงเริ่มเดินหน้าไปทำเรื่องขอกู้เงิน แต่แล้วเหตุการณ์ในอดีตก็ย้อนมาเล่นงานจนได้ เราเพราะติดเครดิตบูโร ถึงแม้ว่าจะเป็นสถานะ 11 (ปิดบัญชี) แล้วก็ตาม ยังไงก็ประวัติไม่ดีมาก่อน จึงโดนปฏิเสธการกู้เงิน ที่แล้วที่เล่าก็โดนก็โดนปฏิเสธด้วยเหตุผลเดิมๆ จนทำให้ท้อใจมากๆ ความฝัน ความหวัง ก็ต้องมลายหายไป โอกาส เวลา มันไม่ได้รอเราตลอด จะคิดไปทำอีก 3 ปีรอประวัติเคลียร์ก็คงทำยากขึ้น สุดท้ายเรื่องที่ผมเล่ามานั้นอยากจะเตือนใจ มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายกับเรื่องประวัติทางการเงิน เพราะมันมีความสำคัญกับเรามาก มันอาจเป็นเข็มทิศชี้ชะตาเราไว้เลยก็เป็นได้ อย่าคิดว่าเคลียร์ๆหนี้จบ ก็จบกันไป จงรักษาประวัติดีๆของคุณไว้ ใช้จ่ายอย่างมีสติ จะได้ไม่เกิดเหตุแบบผลแล้วจะต้องมาเสียใจทีหลัง ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจกับทุกคนครับ