สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบวชพระสายป่ากรรมฐานมาสอบถามหน่อยครับ แต่ก่อนอื่นขอเล่าถึงความต้องการและสาเหตุของผมก่อนน่ะครับ....ใครไม่อยากอ่านเนื้อหาข้ามไปย่อหน้าสุดท้ายที่เป็นคำถามได้เลยครับ
เรื่องมันเริ่มต้นเมื่อตอนที่ผมเรียนม.ปลายครับ อาจารย์ก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเกี่ยวกับหลวงตามหาบัวครับ บอกก่อนเลยน่ะครับว่าตอนนั้นผมไม่ค่อยจะมีความศรัทธาในตัวพระสงฆ์สักเท่าไหร่ เนื่องจากเหตุผลที่ทุกคนน่าจะเห็นกันมาบ้างในปัจจุบัน แต่เมื่ออาจารย์บอกกับผมว่าพระอรหันต์ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน และองค์หลวงตาบัวก็เป็นหนึ่งในนั้น ในตอนนั้นผมก็ไม่เชื่อส่ะทีเดียวครับ ผมจึงลองไปศึกษาหาข้อมูลทั้งประวัติ วัตรปฏิบัติขององค์หลวงตา บอกตามตรงน่ะครับตอนนั้นแม้แต่หลวงปู่มั่น ผมยังไม่รู้จักเลยครับ ตอนนั้นผมหาอ่านข้อมูลทุกอย่างที่พอจะอ่านได้ท้งหนังสือ ทั้งอินเตอร์เน็ต แต่ผมมาสะดุดตาและเชื่ออย่างสนิทใจในคลิปๆหนึ่งครับ เป็นคลิปทีหลวงตาบัวร้องไห้ออกมาตอนที่ท่านเทศนาธรรมเล่าเรื่องตอนที่ท่านบรรลุธรรมถ้าใครได้ดูก็คงคิดเหมือนผมครับ ว่านั้นคือความจริงใจจริงๆ เป็นคำพูดและน้ำตาที่ปราศจากการโกหกอย่างแน่นอน ตั้งแต่นั้นมาผมก็ตั้งมั่นเลยครับว่าเรียนจบม.ปลายแล้วจะต้องไปกราบท่านสักครั้งให้ได้
วันเวลาล่วงเลยผ่านไปประมาณปีนึงครับ วันนั้นผมอยู่บนรถแท๊กซี่ครับรถติดอยู่แถวๆหน้าวังอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ แต่ผมจำได้แม่นครับว่าวิทยุในรถพูดว่าอะไร วิทยุแจ้งข่าวการละสังขารของหลวงตาเมื่อคืนครับ ผมก็รีบถามพี่แท๊กซี่เลยครับว่าหลวงตาบัวละสังขารแล้วหรอ???? เพื่อให้มั่นใจอีกครั้งว่าตัวเองไม่ได้ยินผิด พี่แท๊กซี่คอนเฟิร์มอีกรอบครับเพราะพี่เขาก็เป็นคนอีสานเรื่องนี้พี่เขาก็ให้ความสนใจอยู่ เท่านั้นล่ะครับ น้ำตาผมไหลเลยแต่เป็นน้ำตาไหลซึ่มๆน่ะครับ ไม่ได้ร้องไห้โฮ ถ้าร้องไห้โฮนี้พี่เขาคงคิดว่าผมบ้า แล้วโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นครับ....เพื่อนโทรมาตามเพื่อคอนเฟิร์มทริปก่อนจบของพวกเราครับ พวกเราคุยกันว่าจะไปเกาะพะงันกันหน่ะครับ แต่ผมก็ปฏิเสธไปทันทีครับเพราะผมรู้แล้วว่าผมต้องไปวัดป่าบ้านตาดอย่างแน่นอนแล้ว
กลับถึงบ้านครับที่ภาคใต้ครับ...ผมก็ปรึกษากับครอบครัวครับว่าอยากไปวัดป่าบ้านตาดมาก อยากกราบท่านเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆพ่อกับแม่ผมเห็นถึงความตั้งใจจริงครับก็เลยตัดสินใจ ช่วยกันขับรถจากสุราษฎร์ธานีครับมุ่งสู่อุดรธานีเลยครับ ออกจากสุราษฎร์ประมาณเย็นๆแล้วครับ โดยมีพ่อและพี่ชายรับหน้าที่ขับรถมาส่งครับ โดยที่พ่อกับพี่ชายผมไม่ได้มีจิตศัทธาหรือรู้จักหลวงตาบัวมาก่อนเลยครับ ฮ่าๆส่วนผมนั้นนอนอยู่เบาะหลังครับ(ส่วนตัวก็ขับรถเป็นน่ะครับ แต่ถอนนั้นยังไม่มีใบขับขี่เลยปล่อยหน้าที่นั้นให้พ่อกะพี่ชายไป). เรามาถึงขอนแก่นกันตอนเช้ามืดครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอำเภอชุมแพ (พ่อกับพี่ชายผมค่อนข้างขับรถเร็วมากครับเรียกว่าถ้าถนนโล่งนี้ 180km/h กันเลยครับ)
เรามาถึงทางเข้าวัดป่าบ้านตาดประมาณ9โมงครับ ก็เลยแวะเข้าไปเลย ตอนนั้นผมจำได้ว่าแถวที่ต่อแถวขึ้นกราบสังขารท่านยาวมากครับ ก็เลยคิดว่าจะมาใหม่วันพรุ่งนี้เพราะเหนื่อยจากการเดินทางด้วย เลยตัดสินใจไปนอนพักเอาแรงที่โรงแรมก่อน
เช้าวันรุ่งขึ้นพ่อขี้เกียจไปด้วยแล้วครับ ผมเลยมาวัดกับพี่ชายสองคน มาถึงก็พบว่าแถวที่มีคนรอเข้ากราบสังขารหลวงตานั้นยาวกว่าเมื่อวานประมาณ 10เท่าๆ ฮ่าๆ คิดในใจรู้งี้กราบเมื่อวานเลยดีกว่า ระหว่างยืนมองๆอยู่ผมก็หันไปเห็นแถวเล็กๆแถวนึงครับเป็นแถวที่พระสงฆ์รูปหนึ่งอายุประมาณ80กว่ากำลังแจกของที่ระลึกในงานอยู่ครับ ผมไม่รู้จักหรอกครับว่าท่านเป็นใครเห็นแถวมันสั้นดีก็เลยเดินเข้าไปต่อด้วย ต่ออยู่ไม่กี่นาทีครับเพราะแถวสั้นมากๆก็ได้ของที่ระลึกมา ที่ได้มานั้นเป็นรูปการ์ดหลวงตาบัว กับเหรียญหลวงตาบัวเนื้อทราย(ไม่รู้เรียกแบบนี้หรือเปล่า เป็นคนไม่รู้จักพระเครื่องเลย เพราะคิดว่าพระอยู่ที่ใจไม่ไช้วัตถุ) ผมมาทราบภายหลังจากจบงานว่าท่านคือหลวงปู่ลี กุสลธโร ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงตาบัวเลยทีเดียว แล้วก็ยังเป็นพระอริยสงฆ์อีกด้วย เมื่อรับของที่ระลึกเสร๊จผมก็เดินไปต่อแถวครับ นึกภาพน่ะครับแถวนั้นมีเกือบ10แถวแช้วแต่ล่ะแถวยาวเป็นกิโล ฮ่าๆ(ถ้าใครไปในงานจะรู้ว่า ยาวผ่านหน้าพระตำหนักไปไกลจนถึงที่ราบด้านล่างเลยครับ) แถมวันนั้นยังเป็นวันซ้อมการยกสังขารท่านไปที่บริเวณปลงสังขารท่านอีก(ไม่รู้เรียกถูกมั้ยครับ) เรียกได้ว่ารอนานมาก ทั้งๆที่เมื่อวานจริงๆแล้วคนน้อยมากครับแต่ผมไม่รู้ แต่ผมไม่ย่อท้อครับรอต่อไป^___^ พี่ชายผมเดินมาหาแล้วก็บอกว่าจะไปนั่งรอ แต่พอดีเห็นผมมีเหรียญหลวงตาอยู่เลยอยากได้บ้าง ผมก็บอกไห้ไปต่อแถวครับ พี่ชายผมไผต่อแถวอยู่ประมาณ2-3ครั้งก็ไม่ได้ครับ
ครั้งแรก ไปแถวจนจะถึงตัวอยู่แล้ว(ตอนพี่ชายผมไปคนต่อแถวเยอะมากกกกกกก) แต่แกเห็นว่ามีคนทำบุญแกเลยคิดว่าต้องใช้ปัจจัย(ตอนผมไปไม่มีใครถวายปัจจัยเลยครับ ท่านแจกฟรี แต่คาดว่าตอนนั้นคนคงอยากทำบุญด้วย) พี่ชายผมก็เดินออกมาครับเพราะแกไม่ได้พกตังไป แล้วก็เดินมาหาผมบอกเอาตังมาหน่อย เพราะต้องใช้ตัง...ผมก็งงๆครับตอบไปว่าเขาไห้ฟรี ตอนผมไปเอาก็ไม่ต้องใช้ แกก็เดินไปอีกรอบครับ แถวยาวเหมือนเดิม เริ่มต่อแถวใหม่ พอจะถึงแกเหชืออีกแค่คนเดียวก็จะถึงแกแล้วปรากฏว่าหลวงปู่ลี ท่านพักการแจกไว้ก่อนครับ ฮ่าๆ พี่ชายผมก็จำใจต้องเดินออกมา มาเล่าให้ผมฟัง ผมคิดในมุมมองว่าบางทีพี่ชายผมอาจจะยังไม่มีศรัทธามากพอ พี่ผมหายไปครับ บอกว่าจะไปหาที่นั่งรอ ผมต่อแถวจนได้ขึ้นไปกราบสังขารท่านครับ แล้วผมก็อธิษฐานบอกท่านว่า"ถึงแม้ผมจะไม่เคยมากรายท่านตอนท่านมีชีวิตอยู่ แต่ท่านเป็นผู้ที่เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนทัศนคติของผม เป็นแบบอย่างของผม สักวันหนึ่งผมก็อยากจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ทำประโยชน์ให้กับพระศาสนา แบบท่าน แล้วผมก็ขอให้ท่านรับผมเป็นศิษย์ ผมไม่รู้ว่าท่านจะรับผมเป็นศิษย์หรือเปล่า แต่ผมถือท่านเป็นครูบาอาจารย์ไปแล้วครับ และผมก็สัญญาต่อหน้าสังขารท่านในวันนั้นว่าจะขอบวชเพื่อเจริญรอยตามท่านให้ได้) พอกราบท่านเสร๊จก็เดินไปช่วยเขาขนดินมาทำสพานที่พวายเพลิงสังขารหลวงตาครับ สักพักนึงคนเริ่มมาช่วยเยอะ ผมกับพี่ก็กลับ พร้อมๆกับสีหน้าที่ฉุนเฉียวของพี่ ฮ่าๆผมถามไปว่าเป็นอะไร พี่ชายผมก็เล่าให้ฟังว่าระหว่างรออยู่ก็ยืนเคี้ยวหมากวรั่งยู่ก็มีพระรูปหนึ่งเดินเข้ามาตบปากแล้วบอกให้คายหมากฝรั่งออกไปทิ้ง ฮ่าๆ ผมกับพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่ามีข้อห้ามแบบนี้ด้วย^___^ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรครับเพราะพระท่านคงหวังดี (ตอนนี้พี่ชายผมอยากบวชพระสายนี้มากกว่าผมอีกครับ)
ตอนหลังผมได้มาทราบว่าหลวงปู่ลี ที่ผมเจอนั้นเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงตาบัว ซึ่งท่านบวชหน้าไฟตอนถวายเพลิงสังขารหลวงปู่มั่น. ตอนนี้ผมไกล้จะเรียนจบแล้วครับ โดยมีความคิดที่ว่าในวันนั้นผมได้เจอกับพระอรหันต์ครั้งแรก และได้รับของจากท่านมา ผมเลยตั้งใจว่าจะไปบวชที่วัดป่าภูผาแดงของท่าน แต่ผมยังมีคำถามที่ต้องการทราบอยู่ครับ
1.อยากทราบว่าวัดป่าภูผาแดงรับบวชพระใหม่แบบผมมั้ยครับ คือผมอยากบวชวัดนี้จริงๆ
2.ถ้ารับ...ผมต้องทำยังไงบ้างครับ ต้องเตรียมอะไรบ้างครับ เอาตั้งแต่เข้าไปขอบวชจนบวชเลยน่ะครับ
3.บทสวดมนต์ที่ต้องใช้มีอะไรบ้างครับ คำสวดเท่าที่เคยได้ยินมาเหมือนจะแตกต่างจากมหานิกายอยู่นิครับ คือผมต้องการหัดท่องก่อนน่ะครับเพื่อเป็นการเตรียมตัวด้วย
4.กฏระเบียบของวัด ของพระในวัดเป็นอย่างไรบ้างครับ อยากศึกษาไปก่อนขอบวชน่ะครับ
ปล.ผมใช้คำไม่ค่อยถูกน่ะครับขออภัยด้วยครับ
บวช พระป่า วัดป่าภูผาแดง
เรื่องมันเริ่มต้นเมื่อตอนที่ผมเรียนม.ปลายครับ อาจารย์ก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเกี่ยวกับหลวงตามหาบัวครับ บอกก่อนเลยน่ะครับว่าตอนนั้นผมไม่ค่อยจะมีความศรัทธาในตัวพระสงฆ์สักเท่าไหร่ เนื่องจากเหตุผลที่ทุกคนน่าจะเห็นกันมาบ้างในปัจจุบัน แต่เมื่ออาจารย์บอกกับผมว่าพระอรหันต์ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน และองค์หลวงตาบัวก็เป็นหนึ่งในนั้น ในตอนนั้นผมก็ไม่เชื่อส่ะทีเดียวครับ ผมจึงลองไปศึกษาหาข้อมูลทั้งประวัติ วัตรปฏิบัติขององค์หลวงตา บอกตามตรงน่ะครับตอนนั้นแม้แต่หลวงปู่มั่น ผมยังไม่รู้จักเลยครับ ตอนนั้นผมหาอ่านข้อมูลทุกอย่างที่พอจะอ่านได้ท้งหนังสือ ทั้งอินเตอร์เน็ต แต่ผมมาสะดุดตาและเชื่ออย่างสนิทใจในคลิปๆหนึ่งครับ เป็นคลิปทีหลวงตาบัวร้องไห้ออกมาตอนที่ท่านเทศนาธรรมเล่าเรื่องตอนที่ท่านบรรลุธรรมถ้าใครได้ดูก็คงคิดเหมือนผมครับ ว่านั้นคือความจริงใจจริงๆ เป็นคำพูดและน้ำตาที่ปราศจากการโกหกอย่างแน่นอน ตั้งแต่นั้นมาผมก็ตั้งมั่นเลยครับว่าเรียนจบม.ปลายแล้วจะต้องไปกราบท่านสักครั้งให้ได้
วันเวลาล่วงเลยผ่านไปประมาณปีนึงครับ วันนั้นผมอยู่บนรถแท๊กซี่ครับรถติดอยู่แถวๆหน้าวังอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ แต่ผมจำได้แม่นครับว่าวิทยุในรถพูดว่าอะไร วิทยุแจ้งข่าวการละสังขารของหลวงตาเมื่อคืนครับ ผมก็รีบถามพี่แท๊กซี่เลยครับว่าหลวงตาบัวละสังขารแล้วหรอ???? เพื่อให้มั่นใจอีกครั้งว่าตัวเองไม่ได้ยินผิด พี่แท๊กซี่คอนเฟิร์มอีกรอบครับเพราะพี่เขาก็เป็นคนอีสานเรื่องนี้พี่เขาก็ให้ความสนใจอยู่ เท่านั้นล่ะครับ น้ำตาผมไหลเลยแต่เป็นน้ำตาไหลซึ่มๆน่ะครับ ไม่ได้ร้องไห้โฮ ถ้าร้องไห้โฮนี้พี่เขาคงคิดว่าผมบ้า แล้วโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นครับ....เพื่อนโทรมาตามเพื่อคอนเฟิร์มทริปก่อนจบของพวกเราครับ พวกเราคุยกันว่าจะไปเกาะพะงันกันหน่ะครับ แต่ผมก็ปฏิเสธไปทันทีครับเพราะผมรู้แล้วว่าผมต้องไปวัดป่าบ้านตาดอย่างแน่นอนแล้ว
กลับถึงบ้านครับที่ภาคใต้ครับ...ผมก็ปรึกษากับครอบครัวครับว่าอยากไปวัดป่าบ้านตาดมาก อยากกราบท่านเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆพ่อกับแม่ผมเห็นถึงความตั้งใจจริงครับก็เลยตัดสินใจ ช่วยกันขับรถจากสุราษฎร์ธานีครับมุ่งสู่อุดรธานีเลยครับ ออกจากสุราษฎร์ประมาณเย็นๆแล้วครับ โดยมีพ่อและพี่ชายรับหน้าที่ขับรถมาส่งครับ โดยที่พ่อกับพี่ชายผมไม่ได้มีจิตศัทธาหรือรู้จักหลวงตาบัวมาก่อนเลยครับ ฮ่าๆส่วนผมนั้นนอนอยู่เบาะหลังครับ(ส่วนตัวก็ขับรถเป็นน่ะครับ แต่ถอนนั้นยังไม่มีใบขับขี่เลยปล่อยหน้าที่นั้นให้พ่อกะพี่ชายไป). เรามาถึงขอนแก่นกันตอนเช้ามืดครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอำเภอชุมแพ (พ่อกับพี่ชายผมค่อนข้างขับรถเร็วมากครับเรียกว่าถ้าถนนโล่งนี้ 180km/h กันเลยครับ)
เรามาถึงทางเข้าวัดป่าบ้านตาดประมาณ9โมงครับ ก็เลยแวะเข้าไปเลย ตอนนั้นผมจำได้ว่าแถวที่ต่อแถวขึ้นกราบสังขารท่านยาวมากครับ ก็เลยคิดว่าจะมาใหม่วันพรุ่งนี้เพราะเหนื่อยจากการเดินทางด้วย เลยตัดสินใจไปนอนพักเอาแรงที่โรงแรมก่อน
เช้าวันรุ่งขึ้นพ่อขี้เกียจไปด้วยแล้วครับ ผมเลยมาวัดกับพี่ชายสองคน มาถึงก็พบว่าแถวที่มีคนรอเข้ากราบสังขารหลวงตานั้นยาวกว่าเมื่อวานประมาณ 10เท่าๆ ฮ่าๆ คิดในใจรู้งี้กราบเมื่อวานเลยดีกว่า ระหว่างยืนมองๆอยู่ผมก็หันไปเห็นแถวเล็กๆแถวนึงครับเป็นแถวที่พระสงฆ์รูปหนึ่งอายุประมาณ80กว่ากำลังแจกของที่ระลึกในงานอยู่ครับ ผมไม่รู้จักหรอกครับว่าท่านเป็นใครเห็นแถวมันสั้นดีก็เลยเดินเข้าไปต่อด้วย ต่ออยู่ไม่กี่นาทีครับเพราะแถวสั้นมากๆก็ได้ของที่ระลึกมา ที่ได้มานั้นเป็นรูปการ์ดหลวงตาบัว กับเหรียญหลวงตาบัวเนื้อทราย(ไม่รู้เรียกแบบนี้หรือเปล่า เป็นคนไม่รู้จักพระเครื่องเลย เพราะคิดว่าพระอยู่ที่ใจไม่ไช้วัตถุ) ผมมาทราบภายหลังจากจบงานว่าท่านคือหลวงปู่ลี กุสลธโร ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงตาบัวเลยทีเดียว แล้วก็ยังเป็นพระอริยสงฆ์อีกด้วย เมื่อรับของที่ระลึกเสร๊จผมก็เดินไปต่อแถวครับ นึกภาพน่ะครับแถวนั้นมีเกือบ10แถวแช้วแต่ล่ะแถวยาวเป็นกิโล ฮ่าๆ(ถ้าใครไปในงานจะรู้ว่า ยาวผ่านหน้าพระตำหนักไปไกลจนถึงที่ราบด้านล่างเลยครับ) แถมวันนั้นยังเป็นวันซ้อมการยกสังขารท่านไปที่บริเวณปลงสังขารท่านอีก(ไม่รู้เรียกถูกมั้ยครับ) เรียกได้ว่ารอนานมาก ทั้งๆที่เมื่อวานจริงๆแล้วคนน้อยมากครับแต่ผมไม่รู้ แต่ผมไม่ย่อท้อครับรอต่อไป^___^ พี่ชายผมเดินมาหาแล้วก็บอกว่าจะไปนั่งรอ แต่พอดีเห็นผมมีเหรียญหลวงตาอยู่เลยอยากได้บ้าง ผมก็บอกไห้ไปต่อแถวครับ พี่ชายผมไผต่อแถวอยู่ประมาณ2-3ครั้งก็ไม่ได้ครับ
ครั้งแรก ไปแถวจนจะถึงตัวอยู่แล้ว(ตอนพี่ชายผมไปคนต่อแถวเยอะมากกกกกกก) แต่แกเห็นว่ามีคนทำบุญแกเลยคิดว่าต้องใช้ปัจจัย(ตอนผมไปไม่มีใครถวายปัจจัยเลยครับ ท่านแจกฟรี แต่คาดว่าตอนนั้นคนคงอยากทำบุญด้วย) พี่ชายผมก็เดินออกมาครับเพราะแกไม่ได้พกตังไป แล้วก็เดินมาหาผมบอกเอาตังมาหน่อย เพราะต้องใช้ตัง...ผมก็งงๆครับตอบไปว่าเขาไห้ฟรี ตอนผมไปเอาก็ไม่ต้องใช้ แกก็เดินไปอีกรอบครับ แถวยาวเหมือนเดิม เริ่มต่อแถวใหม่ พอจะถึงแกเหชืออีกแค่คนเดียวก็จะถึงแกแล้วปรากฏว่าหลวงปู่ลี ท่านพักการแจกไว้ก่อนครับ ฮ่าๆ พี่ชายผมก็จำใจต้องเดินออกมา มาเล่าให้ผมฟัง ผมคิดในมุมมองว่าบางทีพี่ชายผมอาจจะยังไม่มีศรัทธามากพอ พี่ผมหายไปครับ บอกว่าจะไปหาที่นั่งรอ ผมต่อแถวจนได้ขึ้นไปกราบสังขารท่านครับ แล้วผมก็อธิษฐานบอกท่านว่า"ถึงแม้ผมจะไม่เคยมากรายท่านตอนท่านมีชีวิตอยู่ แต่ท่านเป็นผู้ที่เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนทัศนคติของผม เป็นแบบอย่างของผม สักวันหนึ่งผมก็อยากจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ทำประโยชน์ให้กับพระศาสนา แบบท่าน แล้วผมก็ขอให้ท่านรับผมเป็นศิษย์ ผมไม่รู้ว่าท่านจะรับผมเป็นศิษย์หรือเปล่า แต่ผมถือท่านเป็นครูบาอาจารย์ไปแล้วครับ และผมก็สัญญาต่อหน้าสังขารท่านในวันนั้นว่าจะขอบวชเพื่อเจริญรอยตามท่านให้ได้) พอกราบท่านเสร๊จก็เดินไปช่วยเขาขนดินมาทำสพานที่พวายเพลิงสังขารหลวงตาครับ สักพักนึงคนเริ่มมาช่วยเยอะ ผมกับพี่ก็กลับ พร้อมๆกับสีหน้าที่ฉุนเฉียวของพี่ ฮ่าๆผมถามไปว่าเป็นอะไร พี่ชายผมก็เล่าให้ฟังว่าระหว่างรออยู่ก็ยืนเคี้ยวหมากวรั่งยู่ก็มีพระรูปหนึ่งเดินเข้ามาตบปากแล้วบอกให้คายหมากฝรั่งออกไปทิ้ง ฮ่าๆ ผมกับพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่ามีข้อห้ามแบบนี้ด้วย^___^ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรครับเพราะพระท่านคงหวังดี (ตอนนี้พี่ชายผมอยากบวชพระสายนี้มากกว่าผมอีกครับ)
ตอนหลังผมได้มาทราบว่าหลวงปู่ลี ที่ผมเจอนั้นเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงตาบัว ซึ่งท่านบวชหน้าไฟตอนถวายเพลิงสังขารหลวงปู่มั่น. ตอนนี้ผมไกล้จะเรียนจบแล้วครับ โดยมีความคิดที่ว่าในวันนั้นผมได้เจอกับพระอรหันต์ครั้งแรก และได้รับของจากท่านมา ผมเลยตั้งใจว่าจะไปบวชที่วัดป่าภูผาแดงของท่าน แต่ผมยังมีคำถามที่ต้องการทราบอยู่ครับ
1.อยากทราบว่าวัดป่าภูผาแดงรับบวชพระใหม่แบบผมมั้ยครับ คือผมอยากบวชวัดนี้จริงๆ
2.ถ้ารับ...ผมต้องทำยังไงบ้างครับ ต้องเตรียมอะไรบ้างครับ เอาตั้งแต่เข้าไปขอบวชจนบวชเลยน่ะครับ
3.บทสวดมนต์ที่ต้องใช้มีอะไรบ้างครับ คำสวดเท่าที่เคยได้ยินมาเหมือนจะแตกต่างจากมหานิกายอยู่นิครับ คือผมต้องการหัดท่องก่อนน่ะครับเพื่อเป็นการเตรียมตัวด้วย
4.กฏระเบียบของวัด ของพระในวัดเป็นอย่างไรบ้างครับ อยากศึกษาไปก่อนขอบวชน่ะครับ
ปล.ผมใช้คำไม่ค่อยถูกน่ะครับขออภัยด้วยครับ