สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป เนื่องจากเป็นกระทู้แรก หากผมผิดพลาดประการใด ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
สำหรับกระทู้นี้ ผมจะมาเล่าประสบการณ์การออกเดินทางคนเดียว โดยใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งแรก
เนื่องจากผมเป็นลูกครึ่งจีน-ไทยวน (หรือคนเมือง) แต่ผมเติบโตและรู้สึกผูกพันกับครอบครัวฝั่งไทยวนมากกว่า นี่จึงเป็นที่มาของการเดินทางในครั้งนี้
สงกรานต์ที่ผ่านมา ผมไม่มีโอกาสได้กลับบ้าน ก็เลยอยากเที่ยวที่ที่ทำให้หายคิดถึงบ้าน นึกขึ้นได้ว่าที่สระบุรีและราชบุรีมีชุมชนชาวไทยวนอยู่ แต่จะไปที่ไหนดีระหว่างสองที่นี้ ก็เลยลองเสิร์ชหาข้อมูลดู ก็เจอคลิปเหล่านี้

โอเค! งั้นไปสระบุรีละกัน (ราชบุรีเอาไว้โอกาสหน้านะครับ 😅)
จะช้าอยู่ไย ผมก็เตรียมสัมภาระไปเลย โดยไม่ได้ติดต่อใครที่สระบุรีก่อน หวังไปหาที่พักโฮมสเตย์เอาข้างหน้า
การเดินทางก็ใช้ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าสู่สระบุรีเลย
ขับมอเตอร์ไซค์ไปซักพัก อาจเมื่อยล้าบ้าง เลยแวะทานข้าวหมูแดงแถวสนับทึบ พระนครศรีอยุธยา
ออกจากสนับทึบก็เข้าเขตจังหวัดสระบุรี

หมายเหตุ : เนื่องจากตอนแรกผมกะจะถ่ายคลิปเพื่อนำมาตัดต่อลงยูทูบ โดยไม่ได้สำรวจดูคุณภาพของแอพแอนดรอยด์ก่อน รูปภาพส่วนใหญ่ต่อจากนี้ไป จะเป็นภาพแคปหน้าจอจากวิดีโอ ภาพอาจจะไม่ค่อยสวยครับ
ขับมาจนเกือบจะถึงตัวเมืองสระบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายออกถนนเลี่ยงเมือง ตรงไปเรื่อยๆก็จะเห็นป้ายให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตำบลต้นตาล ที่แรกที่เราถึงคือ หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน สระบุรี
พอเข้าไปข้างในหอฯก็ได้เจออาจารย์ทรงชัย วรรณกุล ประธานหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน แต่ท่านกำลังคุยธุระอยู่ ผมไม่กล้ารบกวน เลยหลบไปถ่ายคลิปแถวริมแม่น้ำป่าสักแทน

ส่วนรูปทั้งหมดดูได้ที่เพจเลยครับ ฝากเนื้อฝากตัวเพจด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/OrollingKhonKlingLor
ถ่ายได้นิดหน่อยผมก็กลับขึ้นมาที่หอฯ เจอคุณป้าท่านหนึ่งกำลังนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ผมเลยเข้าไปอู้กำเมืองหรือฟู่ยวนกับท่าน คุยไปคุยมาที่แท้คุณป้าก็เป็นภรรยาของอ.ทรงชัย คุยกันจนถามถึงโฮมสเตย์แถวนี้ ท่านว่าน่าจะไปหาแถวบ้านต้นตาลดู ที่จริงที่นี่ก็มีโฮมสเตย์เหมือนกัน แต่จะมีงานในวันพรุ่งนี้ (ที่ผมเห็นว่าอ.ทรงชัย กำลังคุยธุระอยู่นั่นแหละครับ) เลยไม่ค่อยสะดวก
เดินทางไปยังบ้านต้นตาล
พอถึงบ้านต้นตาลบริเวณข้างวัดต้นตาล ก็เจอลุงป้าน้าอานั่งคุยกันอยู่หน้าบ้านประมาณ 6-7 คน ผมเลยเข้าไปถามถึงโฮมสเตย์ (บทสนทนาต่อจากนี้ไป ความจริงแล้วใช้ภาษาไทยวน แต่้เพื่อความเข้าใจสำหรับผู้อ่านทุกท่าน จึงแปลเป็นภาษาไทยนะครับ)
แต่คุณตาท่านหนึ่งท่านถามว่า "แล้วมาจากไหน?"
ผม : "มาจากกรุงเทพฯครับ แต่เป็นคนน่าน"
คุณตา : "อ้าวเหรอ มาๆ มาคุยกันก่อน!"
ผมก็ลงจากมอเตอร์ไซค์ มานั่งเก้าอี้ในวงสนทนาที่แวดล้อมด้วยลุงป้าน้าอา
คุณตา : "แล้วคิดยังไงมาเที่ยวที่นี่?"
ผม : "ผมเคยได้ยินตายายเค้ามักจะเล่าให้ฟังว่า บรรพบุรุษของผมอพยพมาจากเชียงแสน เห็นว่าที่นี่ก็เป็นคนไทยวนที่อพยพมาจากเชียงแสนเหมือนกัน เลยอยากจะมาเที่ยวให้หายคิดถึงบ้านหน่อยครับ"
คุณตา : "นี่ จะเล่าให้ฟัง ชาวไทยวนอพยพออกจากเชียงแสน เมื่อปี พ.ศ.2347... ฯลฯ" (ต่อจากนั้นก็คุยกันยาวเลยครับ)
คุยกันได้สักพัก ถึงได้รู้ว่าคุณตาชื่อ สมจิตต์ ยะกุล อดีตกำนันตำบลต้นตาล ผลงานในอดีตท่านมีเยอะมาก จะเรียกว่าเป็นเซเลบของที่นี่เลยก็ว่าได้
พอคุยกันเสร็จ คุณตากำนันเลยบอกให้ผมไปพักโฮมสเตย์ของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ซึ่งอยู่ห่างจากวัดต้นตาลประมาณ 500 เมตร
พอไปถึงกลับไม่มีใครอยู่!! 😭 เลยกลับไปถามคุณตากำนันอีกครั้ง ท่านก็บอก "เค้าอยู่นั่นแหละ ไม่ไปไหนหรอก"
ผมก็เลยมานั่งรอที่ศาลาริมแม่น้ำป่าสักของผู้ใหญ่บ้าน
ช่วงระหว่างรอก็เล่นเน็ตเล่นเกมไป รอได้ประมาณเกือบชั่วโมง ชักหิวข้าวแล้วแฮะ ไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า แถวๆข้างวัดต้นตาลนั่นแหละ ร้านรวงเยอะดี
พอไปถึงก็เข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยวมากิน คุยกับป้าแม่ค้า แกถามว่าได้ที่พักรึยัง ผมก็ตอบว่ายังไม่ได้ ตากำนันบอกให้ไปหาผู้ใหญ่บ้าน แกก็ไม่อยู่อีก ป้าเลยบอก "ไม่เป็นไร เดี๋ยวป้าโทรหาผู้ใหญ่ให้" หูยยยย รอดละเรา 😂
ทานก๋วยเตี๋ยวได้สักพัก ก็มีคนขับรถเก๋งมาจอดหน้าร้าน
ป้าแม่ค้า : "ตาโพด น้องเค้าจะมาพักโฮมสเตย์ที่บ้าน แต่ไม่มีใครอยู่" ป้าบอกน้าผู้ชายที่ลงมาจากรถเก๋ง
น้า : "ผู้ใหญ่เค้าไปเข้าเวรที่อำเภอ ผมก็อยู่เทศบาล เลยไม่มีใครอยู่บ้าน"
ตากำนัน (อยู่ร้านข้างๆ) : กำนันผู้ใหญ่บ้านรุ่นใหม่ที่นี่เป็นผู้หญิง
ในเมื่อเจอเจ้าของบ้านแล้ว ผมก็เก็บข้าวของไปไว้ที่โฮมสเตย์ ช่วงระหว่างนั้นแม่ผู้ใหญ่หนากับพ่อโพด (ตอนแรกถือวิสาสะเรียกครับ แต่พ่อกับแม่เค้าไม่ว่าอะไร) ขอทำความสะอาดก่อน ผมก็เลยถือโอกาสเที่ยววัดแถวนั้นไปพลางๆ
วัดสูง (เสาร้องไห้ ที่มาของชื่ออำเภอ "เสาไห้")
วัดพะเยาว์ (หลวงพ่อทองคำ)
วัดอัมพวัน (หลวงพ่อย้อย ศพไม่เน่าไม่เปื่อย)
วัดเขาแก้ววรวิหาร
พอกลับมาจากเที่ยววัดต่างๆ ก็เพิ่งสังเกตเห็น ว่ามีศูนย์ทอผ้าอยู่หลังวัดต้นตาลด้วย

ผู้สูงอายุที่นี่หน้าตาเหมือนผู้สูงอายุที่บ้าน เห็นแล้วเหมือนได้กลับบ้านจริงๆ 😊
พูดคุยกับยาย 2-3 คนที่ศูนย์ทอผ้าแป๊บเดียวก็กลับโฮมสเตย์ ก่อนกลับคุณยายท่านหนึ่งก็พูดขึ้นมา "พูดภาษายวนอย่างนี้ไว้นะลูก ยายจะรักมากเลย"
กลับมาถึงโฮมสเตย์ แม่ผู้ใหญ่ก็ตะโกนขึ้นมา "พรุ่งนี้จะมีพิธีรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ อย่าลืมไปกับแม่นะ จัดกันเป็นขบวนโดยกำนันผู้ใหญ่บ้าน"
ทีแรกนึกไว้ว่า มาที่นี่จะมาเที่ยวหอวัฒนธรรม กับตลาดต้าน้ำเท่านั้น แต่บังเอิญมาเจอพิธีรดน้ำดำหัวอีก ถือว่าเป็นกำไรมากครับ
เช้าวันต่อมา ป้าปุ๊แม่ครัวร้านอาหารตามสั่งที่ผมฝากท้องตอนอยู่ที่นี่ แกบอกว่าจะมีบวงสรวงพ่อปู่ฟ้าแมบ (แปลว่า ฟ้าแลบ) ก็เลยลองไปดู
ในพิธีมีการฟ้อนรำตามดนตรีของวงปี่พาทย์ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนั้น ผมกลัวว่าจะไปรบกวนพิธี เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ
เวลาบ่ายสอง เริ่มขบวนพิธีรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่
บ้านหลังแรก เป็นผู้สูงอายุ 102 ปี อายุมากที่สุดในตำบลต้นตาล สุขภาพท่านก็ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉงมากครับ
หลังจากนั้นขบวนแห่ไปรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ ที่อายุมากที่สุดของแต่ละหมู่บ้าน
ผู้เฒ่าบ้านหลังนี้เต้นกับลูกหลานอย่างสนุกสนาน
แล้วก็ไปรดน้ำดำหัว อ.ทรงชัย วรรณกุล ประธานหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน

พอถึงคิวผมที่ต้องรดน้ำดำหัว อ.ทรงชัยก็ถาม
อ.ทรงชัย : "แล้วคนนี้ลูกหลานใคร ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน"
แม่ผู้ใหญ่ : "น้องเค้ามาจากน่านค่ะอาจารย์ เค้าอยากมาดูวัฒนธรรมของบ้านเรา"
อ.ทรงชัย : "เออดีๆ มาเที่ยวบ่อยๆนะ มาเป็นลูกหลานที่นี่ ย้ายบ้านมาอยู่นี่ได้ยิ่งดี"
ออกจากหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน ก็เดินขบวนต่อไปที่บ้านตากำนันสมจิตต์เป็นที่สุดท้าย ที่บ้านของตากำนันเลี้ยงทั้งอาหารไทย อาหารไทยวน ทานอาหารจนอิ่มแล้วจึงเริ่มพิธีรดน้ำดำหัว
กลับมาที่โฮมสเตย์ ดื่มน้ำเปล่าชมวิวริมแม่น้ำป่าสัก ฟินจริงๆครับ
เช้าวันสุดท้าย เที่ยวตลาดท่าน้ำ และสรงน้ำพระ
สุดท้ายก็ขอขอบคุณ
แม่ผู้ใหญ่กัญญารัตน์ จันทร์ทอง และครอบครัว ที่อำนวยความสะดวกเรื่องที่อยู่อาศัย
ป้าปุ๊ ร้านอาหารตามสั่งข้างวัดต้นตาล ที่ผมฝากท้องเกือบทุกมื้อ
อ.ทรงชัย วรรณกุล ประธานหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน
และคุณตากำนันสมจิตต์ ยะกุล อดีตกำนันตำบลต้นตาล ที่ให้ความรู้ และต้อนรับผมเหมือนลูกเหมือนหลานแท้ๆ
และพี่น้องลุงป้าน้าอาทุกท่าน ขอบคุณมากจริงๆครับ
พบกันใหม่ทริปหน้า
สวัสดีครับ
เยือนถิ่นไทยวนสระบุรี
สำหรับกระทู้นี้ ผมจะมาเล่าประสบการณ์การออกเดินทางคนเดียว โดยใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งแรก
เนื่องจากผมเป็นลูกครึ่งจีน-ไทยวน (หรือคนเมือง) แต่ผมเติบโตและรู้สึกผูกพันกับครอบครัวฝั่งไทยวนมากกว่า นี่จึงเป็นที่มาของการเดินทางในครั้งนี้
สงกรานต์ที่ผ่านมา ผมไม่มีโอกาสได้กลับบ้าน ก็เลยอยากเที่ยวที่ที่ทำให้หายคิดถึงบ้าน นึกขึ้นได้ว่าที่สระบุรีและราชบุรีมีชุมชนชาวไทยวนอยู่ แต่จะไปที่ไหนดีระหว่างสองที่นี้ ก็เลยลองเสิร์ชหาข้อมูลดู ก็เจอคลิปเหล่านี้
โอเค! งั้นไปสระบุรีละกัน (ราชบุรีเอาไว้โอกาสหน้านะครับ 😅)
จะช้าอยู่ไย ผมก็เตรียมสัมภาระไปเลย โดยไม่ได้ติดต่อใครที่สระบุรีก่อน หวังไปหาที่พักโฮมสเตย์เอาข้างหน้า
การเดินทางก็ใช้ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าสู่สระบุรีเลย
ขับมอเตอร์ไซค์ไปซักพัก อาจเมื่อยล้าบ้าง เลยแวะทานข้าวหมูแดงแถวสนับทึบ พระนครศรีอยุธยา
ออกจากสนับทึบก็เข้าเขตจังหวัดสระบุรี
หมายเหตุ : เนื่องจากตอนแรกผมกะจะถ่ายคลิปเพื่อนำมาตัดต่อลงยูทูบ โดยไม่ได้สำรวจดูคุณภาพของแอพแอนดรอยด์ก่อน รูปภาพส่วนใหญ่ต่อจากนี้ไป จะเป็นภาพแคปหน้าจอจากวิดีโอ ภาพอาจจะไม่ค่อยสวยครับ
ขับมาจนเกือบจะถึงตัวเมืองสระบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายออกถนนเลี่ยงเมือง ตรงไปเรื่อยๆก็จะเห็นป้ายให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตำบลต้นตาล ที่แรกที่เราถึงคือ หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน สระบุรี
พอเข้าไปข้างในหอฯก็ได้เจออาจารย์ทรงชัย วรรณกุล ประธานหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน แต่ท่านกำลังคุยธุระอยู่ ผมไม่กล้ารบกวน เลยหลบไปถ่ายคลิปแถวริมแม่น้ำป่าสักแทน
ส่วนรูปทั้งหมดดูได้ที่เพจเลยครับ ฝากเนื้อฝากตัวเพจด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/OrollingKhonKlingLor
ถ่ายได้นิดหน่อยผมก็กลับขึ้นมาที่หอฯ เจอคุณป้าท่านหนึ่งกำลังนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ผมเลยเข้าไปอู้กำเมืองหรือฟู่ยวนกับท่าน คุยไปคุยมาที่แท้คุณป้าก็เป็นภรรยาของอ.ทรงชัย คุยกันจนถามถึงโฮมสเตย์แถวนี้ ท่านว่าน่าจะไปหาแถวบ้านต้นตาลดู ที่จริงที่นี่ก็มีโฮมสเตย์เหมือนกัน แต่จะมีงานในวันพรุ่งนี้ (ที่ผมเห็นว่าอ.ทรงชัย กำลังคุยธุระอยู่นั่นแหละครับ) เลยไม่ค่อยสะดวก
เดินทางไปยังบ้านต้นตาล
พอถึงบ้านต้นตาลบริเวณข้างวัดต้นตาล ก็เจอลุงป้าน้าอานั่งคุยกันอยู่หน้าบ้านประมาณ 6-7 คน ผมเลยเข้าไปถามถึงโฮมสเตย์ (บทสนทนาต่อจากนี้ไป ความจริงแล้วใช้ภาษาไทยวน แต่้เพื่อความเข้าใจสำหรับผู้อ่านทุกท่าน จึงแปลเป็นภาษาไทยนะครับ)
แต่คุณตาท่านหนึ่งท่านถามว่า "แล้วมาจากไหน?"
ผม : "มาจากกรุงเทพฯครับ แต่เป็นคนน่าน"
คุณตา : "อ้าวเหรอ มาๆ มาคุยกันก่อน!"
ผมก็ลงจากมอเตอร์ไซค์ มานั่งเก้าอี้ในวงสนทนาที่แวดล้อมด้วยลุงป้าน้าอา
คุณตา : "แล้วคิดยังไงมาเที่ยวที่นี่?"
ผม : "ผมเคยได้ยินตายายเค้ามักจะเล่าให้ฟังว่า บรรพบุรุษของผมอพยพมาจากเชียงแสน เห็นว่าที่นี่ก็เป็นคนไทยวนที่อพยพมาจากเชียงแสนเหมือนกัน เลยอยากจะมาเที่ยวให้หายคิดถึงบ้านหน่อยครับ"
คุณตา : "นี่ จะเล่าให้ฟัง ชาวไทยวนอพยพออกจากเชียงแสน เมื่อปี พ.ศ.2347... ฯลฯ" (ต่อจากนั้นก็คุยกันยาวเลยครับ)
คุยกันได้สักพัก ถึงได้รู้ว่าคุณตาชื่อ สมจิตต์ ยะกุล อดีตกำนันตำบลต้นตาล ผลงานในอดีตท่านมีเยอะมาก จะเรียกว่าเป็นเซเลบของที่นี่เลยก็ว่าได้
พอคุยกันเสร็จ คุณตากำนันเลยบอกให้ผมไปพักโฮมสเตย์ของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ซึ่งอยู่ห่างจากวัดต้นตาลประมาณ 500 เมตร
พอไปถึงกลับไม่มีใครอยู่!! 😭 เลยกลับไปถามคุณตากำนันอีกครั้ง ท่านก็บอก "เค้าอยู่นั่นแหละ ไม่ไปไหนหรอก"
ผมก็เลยมานั่งรอที่ศาลาริมแม่น้ำป่าสักของผู้ใหญ่บ้าน
ช่วงระหว่างรอก็เล่นเน็ตเล่นเกมไป รอได้ประมาณเกือบชั่วโมง ชักหิวข้าวแล้วแฮะ ไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า แถวๆข้างวัดต้นตาลนั่นแหละ ร้านรวงเยอะดี
พอไปถึงก็เข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยวมากิน คุยกับป้าแม่ค้า แกถามว่าได้ที่พักรึยัง ผมก็ตอบว่ายังไม่ได้ ตากำนันบอกให้ไปหาผู้ใหญ่บ้าน แกก็ไม่อยู่อีก ป้าเลยบอก "ไม่เป็นไร เดี๋ยวป้าโทรหาผู้ใหญ่ให้" หูยยยย รอดละเรา 😂
ทานก๋วยเตี๋ยวได้สักพัก ก็มีคนขับรถเก๋งมาจอดหน้าร้าน
ป้าแม่ค้า : "ตาโพด น้องเค้าจะมาพักโฮมสเตย์ที่บ้าน แต่ไม่มีใครอยู่" ป้าบอกน้าผู้ชายที่ลงมาจากรถเก๋ง
น้า : "ผู้ใหญ่เค้าไปเข้าเวรที่อำเภอ ผมก็อยู่เทศบาล เลยไม่มีใครอยู่บ้าน"
ตากำนัน (อยู่ร้านข้างๆ) : กำนันผู้ใหญ่บ้านรุ่นใหม่ที่นี่เป็นผู้หญิง
ในเมื่อเจอเจ้าของบ้านแล้ว ผมก็เก็บข้าวของไปไว้ที่โฮมสเตย์ ช่วงระหว่างนั้นแม่ผู้ใหญ่หนากับพ่อโพด (ตอนแรกถือวิสาสะเรียกครับ แต่พ่อกับแม่เค้าไม่ว่าอะไร) ขอทำความสะอาดก่อน ผมก็เลยถือโอกาสเที่ยววัดแถวนั้นไปพลางๆ
วัดสูง (เสาร้องไห้ ที่มาของชื่ออำเภอ "เสาไห้")
วัดพะเยาว์ (หลวงพ่อทองคำ)
วัดอัมพวัน (หลวงพ่อย้อย ศพไม่เน่าไม่เปื่อย)
วัดเขาแก้ววรวิหาร
พอกลับมาจากเที่ยววัดต่างๆ ก็เพิ่งสังเกตเห็น ว่ามีศูนย์ทอผ้าอยู่หลังวัดต้นตาลด้วย
ผู้สูงอายุที่นี่หน้าตาเหมือนผู้สูงอายุที่บ้าน เห็นแล้วเหมือนได้กลับบ้านจริงๆ 😊
พูดคุยกับยาย 2-3 คนที่ศูนย์ทอผ้าแป๊บเดียวก็กลับโฮมสเตย์ ก่อนกลับคุณยายท่านหนึ่งก็พูดขึ้นมา "พูดภาษายวนอย่างนี้ไว้นะลูก ยายจะรักมากเลย"
กลับมาถึงโฮมสเตย์ แม่ผู้ใหญ่ก็ตะโกนขึ้นมา "พรุ่งนี้จะมีพิธีรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ อย่าลืมไปกับแม่นะ จัดกันเป็นขบวนโดยกำนันผู้ใหญ่บ้าน"
ทีแรกนึกไว้ว่า มาที่นี่จะมาเที่ยวหอวัฒนธรรม กับตลาดต้าน้ำเท่านั้น แต่บังเอิญมาเจอพิธีรดน้ำดำหัวอีก ถือว่าเป็นกำไรมากครับ
เช้าวันต่อมา ป้าปุ๊แม่ครัวร้านอาหารตามสั่งที่ผมฝากท้องตอนอยู่ที่นี่ แกบอกว่าจะมีบวงสรวงพ่อปู่ฟ้าแมบ (แปลว่า ฟ้าแลบ) ก็เลยลองไปดู
ในพิธีมีการฟ้อนรำตามดนตรีของวงปี่พาทย์ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนั้น ผมกลัวว่าจะไปรบกวนพิธี เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ
เวลาบ่ายสอง เริ่มขบวนพิธีรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่
บ้านหลังแรก เป็นผู้สูงอายุ 102 ปี อายุมากที่สุดในตำบลต้นตาล สุขภาพท่านก็ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉงมากครับ
หลังจากนั้นขบวนแห่ไปรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ ที่อายุมากที่สุดของแต่ละหมู่บ้าน
ผู้เฒ่าบ้านหลังนี้เต้นกับลูกหลานอย่างสนุกสนาน
แล้วก็ไปรดน้ำดำหัว อ.ทรงชัย วรรณกุล ประธานหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน
พอถึงคิวผมที่ต้องรดน้ำดำหัว อ.ทรงชัยก็ถาม
อ.ทรงชัย : "แล้วคนนี้ลูกหลานใคร ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน"
แม่ผู้ใหญ่ : "น้องเค้ามาจากน่านค่ะอาจารย์ เค้าอยากมาดูวัฒนธรรมของบ้านเรา"
อ.ทรงชัย : "เออดีๆ มาเที่ยวบ่อยๆนะ มาเป็นลูกหลานที่นี่ ย้ายบ้านมาอยู่นี่ได้ยิ่งดี"
ออกจากหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน ก็เดินขบวนต่อไปที่บ้านตากำนันสมจิตต์เป็นที่สุดท้าย ที่บ้านของตากำนันเลี้ยงทั้งอาหารไทย อาหารไทยวน ทานอาหารจนอิ่มแล้วจึงเริ่มพิธีรดน้ำดำหัว
กลับมาที่โฮมสเตย์ ดื่มน้ำเปล่าชมวิวริมแม่น้ำป่าสัก ฟินจริงๆครับ
เช้าวันสุดท้าย เที่ยวตลาดท่าน้ำ และสรงน้ำพระ
สุดท้ายก็ขอขอบคุณ
แม่ผู้ใหญ่กัญญารัตน์ จันทร์ทอง และครอบครัว ที่อำนวยความสะดวกเรื่องที่อยู่อาศัย
ป้าปุ๊ ร้านอาหารตามสั่งข้างวัดต้นตาล ที่ผมฝากท้องเกือบทุกมื้อ
อ.ทรงชัย วรรณกุล ประธานหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน
และคุณตากำนันสมจิตต์ ยะกุล อดีตกำนันตำบลต้นตาล ที่ให้ความรู้ และต้อนรับผมเหมือนลูกเหมือนหลานแท้ๆ
และพี่น้องลุงป้าน้าอาทุกท่าน ขอบคุณมากจริงๆครับ
พบกันใหม่ทริปหน้า
สวัสดีครับ