เมื่อเราส่งข้อความไปเตือนคนที่แอบเอารูปคนอื่นมาใช้ แต่ผลสุดท้าย...ขอออกมาเตือนดังๆ แล้วกัน

เริ่มเรื่องเลยคือ จขกท. เป็นคนๆ นึงที่ชอบปลูกต้นไม้ และคลุกคลีกับเรื่องนี้มาพอสมควร
ครั้งหนึ่งเคยเสิร์ทเจอเพจๆ หนึ่งใน facebook เป็นเพจขายพันธุ์ไม้ เมล็ดพันธุ์ และพันธุ์พืช จากต่างประเทศ
เราก็สนใจสั่งซื้อ และยิ่งช่วงนั้นเขาเขียนไว้ตรงเกี่ยวกับประมาณว่า ถ้าอุดหนุนสินค้าเขาก็เหมือนช่วยชาวเขาไปในตัว
ก็อุดหนุนกันหลายครั้งไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วเราก็เลยไปขอเป็นเพื่อนกับเจ้าของเพจ
เพราะเข้าไปเพจเขาแล้วเห็นข้อมูล-รูปภาพ แบบวิถีชีวิตชาวไร่ ต้นไม้ ดอกไม้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราก็ชอบอยู่แล้ว

หลังจากที่รับเป็นเพื่อนแล้ว ทุกๆ วันเราจะเห็นเขาเล่าเรื่องราวชีวิต ผลผลิต ผ่านหน้า facebook ของเขาเอง
พอหลังจากนั้นเพจเขาเริ่มเป็นที่รู้จัก คนขอเป็นเพื่อนเยอะขึ้น เราก็เริ่มเห็นความผิดปกติของโพสต์ที่เขาลง
แต่ก่อนนี้แรกๆ ที่เขาเอารูปลง มักจะเป็นรูปที่เขาถ่ายเอง เราเรื่องราวอธิบาย ให้ความรู้
แต่พอมาตอนนี้โดยเฉพาะปี 2557-2558 เพจเริ่มดัง คนเป็นเพื่อนติดตามเยอะ เขาก็เริ่มไปเซฟรูปจากในอินเตอร์เน็ตผสมกับของตัวเอง
ซึ่งแรกๆ ที่เห็นเป็นรูปผลผลิต เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เพราะคิดว่าคงเอามาให้ดูเป็นตัวอย่างว่าออกผลมาแบบนี้นะ
แต่หลังๆ มีการใส่เรื่องราวเพิ่มขึ้น เช่น วันนี้เก็บรูปผลผลิตในไร่มาฝาก ซึ่งใครๆ อ่านมันก็ต้องเข้าใจว่าเป็นของเขา
บางวันมีการเล่าเรื่องราวแบบนี่หลานชายผม นี่เพื่อนผม คนในหมู่บ้านผม ทั้งๆ ที่คนในรูปไปเซฟมาจากเน็ตทั้งหมด
บางทีก็ลงรูปสวนไร่ วิว ที่เซฟมาจากอินเตอร์เน็ต แต่เล่าเรื่องว่า เก็บรูปมาฝากนี่เป็นที่ของผม สัตว์เลี้ยงของผม
บางครั้งลงรูปวิถีชีวิตคนในชุมชน ลายผ้า เสื้อผ้า แต่ก็นั่นแหละเซฟมาจากอินเตอร์เน็ตเหมือนเดิม
ซึ่งเขาจะลงเรื่องราวแบบนี้ทุกๆ วัน คนกดไลค์ก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็ชื่นชมตามปกติ

เราเองก็รับรู้มานานพอสมควร แต่ก็นิ่งเฉยไปก่อน เพื่อดูเชิงว่าจะยังทำต่อไหม
เราเคยคิดจะส่งข้อความไปเตือนเข้าหลายครั้งแล้ว และยิ่งไปเจอโพสต์ของวันหนึ่งที่เอารูปเด็กกำลังรดน้ำมาลง
แต่ใส่เรื่องราวว่า "เช้านี้ขอเก็บภาพ "น้องรอมโอ" หลานชายมาให้ดูกันครับ... ลูกครึ่งกะเหรี่ยงกับละตินอเมริกัน...มีแววชาวไร่ตั้งแต่เด็กๆ เลย"
ซึ่งเราเห็นโพสต์แล้วรู้สึกว่ามันมากไปแล้ว เอารูปเด็กมาเรียกไลค์ และยังเป็นบุคคลที่ 3 ที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยอีก
ตอนนั้นคิดจะส่งข้อความไปบอกแล้ว แต่ดันติดงานกลุ่มยาว เลยอยู่เงียบๆ ต่อ
หลังจากนั้นเขาก็ยังโพสต์เล่านู่นนี่ตามปกติ เซฟรูปจากเน็ตมาผสมกับรูปตัวเองถ่ายเอง

แล้วเมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ก็มีลงโพสต์เรื่องราวอีก (รูปทั้งหมดเสิร์ทเจอจากเว็บบล็อคของคนญี่ปุ่นที่ไปเที่ยว)
ซึ่งเป็นรูปนักท่องเทียวญี่ปุ่นมาเที่ยวหมู่บ้านชาวเขาที่เชียงใหม่ แต่เขากลับเล่าเรื่องราวประมาณว่า ภาคภูมิใจในความเป็นคาเรน(กะเหลี่ยงชนกลุ่มหนึ่ง) และอีกรูปมีเพื่อนชมว่า น่ารักจัง เขาก็ตอบว่าคนนี้เรียนอยู่ออสเตรเลีย บลาๆ
หลังจากที่เห็นโพสต์รอบนั้นเราเลยตัดสินใจส่งข้อความไปถามตรงๆ เพื่อจะเตือนให้รู้ว่าไม่สมควร โดยเฉพาะที่เอารูปบุคคลมาใส่











จากข้อความที่แก้ตัวบอกเลยว่าเราไม่เชื่อหรอก แต่ขี้เกียจต่อให้ยาวก็เลยโอเคไป
ซึ่งจากข้อความจะเห็นแล้วว่าเขาสัญญาว่าจะเอารูปตัวเองถ่ายเองลง
หลังจากนั้นเขาก็ลบรูปที่ไปเซฟมาเกือบหมด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2558
แต่ยังมีหลงเหลืออยู่ในเดือนมกราคม และปี 2556-2557
แล้วหลังจากนั้นเขาก็ทำตัวปกติ โพสต์เล่าเรื่องใส่รูปที่เขาถ่ายเองทั้งหมด เราก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วเพราะเห็นว่าปรับปรุงตัว
แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้เราไม่เห็นโพสต์เขาขึ้นหน้า feedback ก็สงสัย เลยเข้าไปดูปรากฏว่าตอนนี้เราถูกเขาบล็อกแล้ว
เราเลยลองเอาของเพื่อนเข้าไปดู ปรากฏว่าเขาเริ่มจะเอารูปจากอินเตอร์เน็ตมาใส่ปนกับรูปเขาเหมือนเดิม
ทั้งๆ ที่ในข้อความที่คุยบอกจะลงรูปที่ถ่ายเอง





เราเลยส่งข้อความไปทางเพจที่เคยซื้อเมล็ดพันธุ์ ต้นไม้เขาไปประมาณว่าไม่น่าเตือนดีๆ แต่แรกน่าจะจัดหนักมากกว่า



ตอนนี้ไม่ต้องการอะไรหรอก ถึงจะบล๊อกเราไปแล้ว ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
แต่จากการกระทำแล้ว คิดว่าอนาคตคงไม่พ้นเซฟรูปจากเน็ตมาใส่ปนเหมือนเดิม
อุส่าห์เตือนกันดีๆ จบดีๆ แล้วสุดท้ายกลับไปทำเหมือนเดิม
ทั้งๆ ที่เขาเองก็มีของดีอยู่ใกล้ตัวมากมายที่สามารถถ่ายเอาลงเองได้
วิถีชีวิต ผลผลิตจากไร่เขาเอง วิวสวยๆ รอบตัว ลายผ้างามๆ ก็อยู่ใกล้ทั้งหมด
แต่ทำไมถึงเลือกจะเซฟรูปคนอื่นมาโกหกเราก็ไม่เข้าใจ

เราเซฟรูปที่เขาไปเซฟจากคนอื่นมาลงไว้ลองพิจารณาดูนะคะ
อาจจะไม่ได้เรียงไทม์ไลน์ และก็เล็กๆ ใหญ่ๆ บางอันตอนนี้ถูกลบไปแล้ว







































































แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่