สปอยเนื้อเรื่องบางส่วนในตัวซีรี่ย์และนิยาย ใครไม่อยากรู้ยังไม่ได้ดูข้ามด่วน
จขกท. ไม่ได้ดูตอนฉายโทรทัศน์นะคับ ติดงาน กลับมาเลยเปิดดูย้อนหลังเอา
ขอรีวิวแบบที่เคยทำในซีซั่น 1 นะฮะ ไม่พูดแรง แต่ขอพูดตรงๆ - -"
เนื้อเรื่อง - การตัดต่อ
เปิดฉากมา จั๊กจี้มาก มอนิ่งคับ ต่อมาก็รู้ว่าเปนฉากในความฝัน ตามมาด้วย Opening title อันใหม่ หวานแววมีประกายสีชมพู ยอมรับว่าไม่ชอบ สู้แบบ SS1 ไม่ได้ ที่ดูเข้ากับเนื้อเรื่องแบบนี้มากกว่า
ตามมาด้วยฉากเลือกกินน้ำสองแก้วจากเอิ้น เข้าใจนะว่าอยากสื่ออะไร แต่มันดูจงใจไป แต่ฟิลลิ่งมันดูไม่ประติดประต่อกับการสลับเล่าเรื่องจี๊ดซื้อเสื้อ อารมณ์เหมือนจังหวะตัดใน SS1 เลย คือ อยากตัดอะไรก็ตัดใส่สลับไปๆมาๆ ทำให้คนดูขาดสมาธิที่จะจดจ่ออยู่กับเนื้อเรื่อง คือสรุปคนตัดคนเดิมหรือเปล่า หรือเข้าสิงคนตัดต่อคนใหม่ไปด้วย -*-
แต่ที่เซอร์ไพรซ์เลยก็คือ ยูโทรหาโน่ไปกินข้าว โน่ไปหายูและไปเจอปุณณ์กับเอม โน่ชะงักเมื่อเห็นปุณณ์ คือ ฉากสั่งกับข้าวตามด้วย เอม-ยู ชวนไปเที่ยวหัวหิน ?? มันคืออัลไล จริงๆแล้วมันต้องฉากแข่งกีฬาไม่ใช่หรอ อย่าเล่นวอ น่ะ แถมตัวอย่างตอนหน้า เป็นปุณณ์พาโน่ขึ้นแท็กซี่ (คิดว่าเมา) เฮ้ย สรุปว่าข้ามไปซะง้าน -_-
แล้วเนื้อเรื่องปุณณ์กับโน่ในตอนนี้เนี่ย ล่องลอยอะไรไม่รู้ หาจับต้องสาระไม่ได้เลย ขณะที่เรื่องของจี๊ดดูจะมีจุดหักเห มีดราม่าที่ชัดเจนกว่า (แต่ก็มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย)
เราขอสรุปว่า สิ่งที่คนเขียนบท ผู้กำกับ พลาดอย่างแรงในการเสนอเนื้อเรื่อง SS2 นี้ คือขาด "การเท้าความ" หรือ การ Refer ความทรงจำผู้ชมขึ้นมาอีกครั้ง
การกำกับ
คุณหยวน (ใช่มั้ยคับ ?) ผู้กำกับพยายามสร้างฟิลลิ่งผู้ชมจากวิธีให้นักแสดงมองตา ใช้เสียงเพลงตื่นเต้น หรือบิ้วด้วยเพลงซึ้งๆ เสียงซาวด์เอฟเฟค และการตัดภาพโคลสอัพเน้นย้ำ เช่นซีนกุมมือ
คือจะพูดตรงๆยังไงดีล่ะ มันเหมือนงานละครทั่วๆไป หรือไม่ก็งานพรีเซ้นเทชั่นอะไรสักอย่าง คือทั้งเรื่องเนี่ย เรา (ส่วนตัว) แทบจะไม่สัมผัสถึงความเป็นซีรี่ย์ได้เลย มันไม่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณอนุชิต ผกก. ss1 ทำไว้ แม้ว่าคุณอนุชิตจะขาดๆเกินๆในแง่การถ่ายทอด หรืองานสร้าง
แต่สิ่งที่คุณอนุชิตทำได้ดีกว่าคือการถ่ายทอดเรื่องราวอย่างเป็นธรรมชาติ และที่เด่นกว่าคุณหยวนก็คือ การบิ้วให้นักแสดงเข้าถึงบทบาทตัวละคร โดยเฉพาะตัวละครอย่างโน่ ซึ่งน้องกัปตันหลุดจากการเป็นตัวละครจากในภาคแรกไปไกลเลยล่ะ (เดี๋ยวคุยต่อในเรื่องนักแสดง)
คือจุดนี้ หวังว่าคุณหยวนจะเคี่ยวออกมาให้ดีกว่านี้ คงรอดูตอนต่อไปละกันฮะ ...
นักแสดง
นี่ไม่ใช่ กัปตัน ในบท โน่ ที่เราเคยรู้จักจากซีซั่นแรก กัปตันที่มึนงง กัปตันที่ out of focus ทางการแสดง ส่วนหนึ่งมาจากบทที่น้อยนิด ส่วนหนึ่งมาจากผู้กำกับดังที่กล่าวมาด้านบน
เราเคยวิเคราะห์ไปแล้วใน ss1 ว่า กัปตัน เป็นนักแสดงแบบ method acting หรือ วิธีการแสดงที่นักแสดงกลายเป็นตัวละครตัวนั้น ซึ่งวิธีการแสดงแบบนี้
นักแสดงจำเป็นต้องใช้สมาธิสูง ต้องสร้างโลกส่วนตัวให้นักแสดงมากๆ และที่สำคัญ กัปตันเป็นนักแสดงที่ improvise ได้เก่งมาก (การแสดงแบบด้นสด)
จากแววตาน้องกัปตันที่เราสังเกตุได้จาก SS-2 EP-1 วันนี้คือ น้องขาดความเชื่อมั่นในการแสดงอย่างมาก สาเหตุน่าจะมาจากหลายประการ
ทั้งความเข้าใจบท การสื่อสารระหว่างผู้กำกับ vs นักแสดง การที่ต้องแสดงในกรอบ (ผกก.สั่งห้าม improvise) รวมไปถึงการรับงานอีเว้นที่ผ่านมามากเกินไป ทำให้ขาดสมาธิในการแสดง inner ไม่ถึง ... etc.
- ไวซ์ บทปุณณ์ คือไม่ค่อยอยากวิจารณ์น่ะ เนื่องจากไวซ์ต้องอาศัยออร่าทางการแสดงจากกัปตัน ตอนนี้ กัปตันโคม่า ไวซ์ก็ตามยถากรรมไปก่อนนะ - -"
- ยูริ เป็นตัวละครที่สดใสคงเส้นคงวามากที่สุดจากซีซั่นก่อน ไม่รู้ว่าไปกินยาดีอะไรมา active ตลอด ยูริผ่านสบายๆ ... ส่วนเอม ไม่เข้าใจว่าผู้กำกับสั่งให้เย็นชาหรือร้ายลึกมากไปหรือปล่าว ไปกินชาเย็นเสียหน่อย จะได้หวานขึ้น คือ ซีดขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนก็คงเลิก จริงๆ วิธีเขียนบทคาแรกเตอร์เอมเนี่ยไม่ยาก เอมต้องดูน่าคบหามากกว่าในบทประพันธ์เสียด้วยซ้ำ ปุณณ์ถึงจะยังตกลงคบอยู่ คือให้มันน่าเชื่อถือสักหน่อยเหอะ ถึงเธอจะ ...
- จี๊ด ก็เล่นตามมาตรฐานนะ ส่วน โอม รู้สึกประหลาดๆ พยายามเล่นมากแต่ได้น้อย ถ้าพยายามฝึกให้เป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเองก็คงจะดีขึ้น อย่าลืมว่า บทโอมนี่สำคัญเอาเรื่องอยู่ เป็นตัวสะท้อนความรู้สึกของโน่ตลอดเวลา
งานภาพ
overexposure หรือ แสงเกิน เกินครึ่งเรื่อง ถ่ายภาพออกมากันแบบนี้ มันเกินไปนะ ควรไปศึกษาเรื่องกล้อง กับเคี่ยวตากล้องให้ดีๆเลย อีกอย่าง งานเกรดแสงสีนี่ โดยรวมไม่ผ่านอย่างแรงเลยนะ ทั้งแสง over , contrast (ความคมชัด) ต่ำ, สีซีดจาง เป็นฟิลเตอร์ใน ig เลย
มุมกล้องบางมุมก็โอเคนะ แต่บางมุมก็ไม่สวย แต่ไปแก้เรื่องแสงสีก่อนเหอะ มันหนัก ไม่ต่างอะไรกับงานภาพ ss1 เลย -*-
เสียง
ดีกว่า SS1 แต่เสียงส่วนที่ใช้ไมค์ไวส์เลส clip on เสียงรบกวนจากการโดนเสื้อผ้ามีเยอะอยู่
เพลงประกอบ
ธีมเพลงเดียวกับ opening น่ะ ส่วนตัวคิดว่าหวานเลี่ยนไป ไม่ค่อยเข้ากับความเฮี้ยวแสบของ ปุณณ์ โน่ ตามบทประพันธ์เลย แล้วก็มีให้เลือกน้อย
อีกทั้งการใส่เพลงบรรเลงก็ใส่แทบจะทั้งเรื่อง เข้าใจว่าต้องการสร้าง feeling แต่ feeling จริงๆ มันต้องสร้างสถานการณ์ครับ อะไรๆก็ใส่เพลงบิ้ว งานเด็กมัธยมเห็นกันเยอะแยะ ฝากที
SUM!
overall เราไม่ค่อยประทับใจธีมงานสร้างที่ผู้กำกับคนใหม่สร้างขึ้นมานะ อย่างที่บอก มันหวานและบางเบาเกินไป ขาดความหนักแน่นไปซะทุกๆส่วน
ผิดกับธีมใน SS1 ที่สามารถ capture หัวใจหลักจากบทประพันธ์ได้ใกล้เคียงกว่า ทั้งความแสบ ความเฮี้ยว ความนุ่มนวล และความเป็นธรรมชาติ ดูน่าเชื่อถือกว่า แม้ว่าจะทำได้ไม่สมบูรณ์มากนัก
แม้ว่านี่จะเป็นตอนแรกของซีซั่นใหม่ มีคนบอกให้รอชมตอนต่อไป อย่าเพิ่งด่วนสรุป ... แต่ส่วนตัวมองว่า กลิ่นไอมันมาแล้ว เรารู้แนวทางในการสร้างธีมของผู้สร้างทีมใหม่แล้ว ก็คงไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากน้อยไปกว่านี้แล้ว
ก็คงมีสิ่งเดียวที่อยากจะบอกคือ "เอาชลธรคนเดิมคืนมา" 555
อาจจะมีคนไม่เห็นด้วยกับเราก็ไม่เป็นไรนะ ถือว่าแลกเปลี่ยนมุมมองอีกมุมหนึ่ง แต่ที่เศร้ากว่าก็คือ บรรดาสมาชิกกระทู้รีวิวเก่าๆเราหายไปแล้วค่อนข้างเยอะจากเหตุการณ์ดราม่าตอนนั้น T_T ยังไงก็ถือว่ากระทู้นี้ถ้าศิษย์เก่าจาก SS1 ผ่านมาเห็นก็ฝากลงชื่อทักทายกันหน่อยนะ ไม่ดูก็ไม่เป็นไร คุยเรื่องอื่นก็ได้ 555
ขอบคุณที่อ่านจนจบ ยาวอีกแล้วนะเรา -*-
Review : Love Sick SS2 - Ep.1 ; ลำดับเรื่องแบบนี้ ต้องการอะไรจากสังคมฮะ
จขกท. ไม่ได้ดูตอนฉายโทรทัศน์นะคับ ติดงาน กลับมาเลยเปิดดูย้อนหลังเอา
ขอรีวิวแบบที่เคยทำในซีซั่น 1 นะฮะ ไม่พูดแรง แต่ขอพูดตรงๆ - -"
เนื้อเรื่อง - การตัดต่อ
เปิดฉากมา จั๊กจี้มาก มอนิ่งคับ ต่อมาก็รู้ว่าเปนฉากในความฝัน ตามมาด้วย Opening title อันใหม่ หวานแววมีประกายสีชมพู ยอมรับว่าไม่ชอบ สู้แบบ SS1 ไม่ได้ ที่ดูเข้ากับเนื้อเรื่องแบบนี้มากกว่า
ตามมาด้วยฉากเลือกกินน้ำสองแก้วจากเอิ้น เข้าใจนะว่าอยากสื่ออะไร แต่มันดูจงใจไป แต่ฟิลลิ่งมันดูไม่ประติดประต่อกับการสลับเล่าเรื่องจี๊ดซื้อเสื้อ อารมณ์เหมือนจังหวะตัดใน SS1 เลย คือ อยากตัดอะไรก็ตัดใส่สลับไปๆมาๆ ทำให้คนดูขาดสมาธิที่จะจดจ่ออยู่กับเนื้อเรื่อง คือสรุปคนตัดคนเดิมหรือเปล่า หรือเข้าสิงคนตัดต่อคนใหม่ไปด้วย -*-
แต่ที่เซอร์ไพรซ์เลยก็คือ ยูโทรหาโน่ไปกินข้าว โน่ไปหายูและไปเจอปุณณ์กับเอม โน่ชะงักเมื่อเห็นปุณณ์ คือ ฉากสั่งกับข้าวตามด้วย เอม-ยู ชวนไปเที่ยวหัวหิน ?? มันคืออัลไล จริงๆแล้วมันต้องฉากแข่งกีฬาไม่ใช่หรอ อย่าเล่นวอ น่ะ แถมตัวอย่างตอนหน้า เป็นปุณณ์พาโน่ขึ้นแท็กซี่ (คิดว่าเมา) เฮ้ย สรุปว่าข้ามไปซะง้าน -_-
แล้วเนื้อเรื่องปุณณ์กับโน่ในตอนนี้เนี่ย ล่องลอยอะไรไม่รู้ หาจับต้องสาระไม่ได้เลย ขณะที่เรื่องของจี๊ดดูจะมีจุดหักเห มีดราม่าที่ชัดเจนกว่า (แต่ก็มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย)
เราขอสรุปว่า สิ่งที่คนเขียนบท ผู้กำกับ พลาดอย่างแรงในการเสนอเนื้อเรื่อง SS2 นี้ คือขาด "การเท้าความ" หรือ การ Refer ความทรงจำผู้ชมขึ้นมาอีกครั้ง
การกำกับ
คุณหยวน (ใช่มั้ยคับ ?) ผู้กำกับพยายามสร้างฟิลลิ่งผู้ชมจากวิธีให้นักแสดงมองตา ใช้เสียงเพลงตื่นเต้น หรือบิ้วด้วยเพลงซึ้งๆ เสียงซาวด์เอฟเฟค และการตัดภาพโคลสอัพเน้นย้ำ เช่นซีนกุมมือ
คือจะพูดตรงๆยังไงดีล่ะ มันเหมือนงานละครทั่วๆไป หรือไม่ก็งานพรีเซ้นเทชั่นอะไรสักอย่าง คือทั้งเรื่องเนี่ย เรา (ส่วนตัว) แทบจะไม่สัมผัสถึงความเป็นซีรี่ย์ได้เลย มันไม่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณอนุชิต ผกก. ss1 ทำไว้ แม้ว่าคุณอนุชิตจะขาดๆเกินๆในแง่การถ่ายทอด หรืองานสร้าง
แต่สิ่งที่คุณอนุชิตทำได้ดีกว่าคือการถ่ายทอดเรื่องราวอย่างเป็นธรรมชาติ และที่เด่นกว่าคุณหยวนก็คือ การบิ้วให้นักแสดงเข้าถึงบทบาทตัวละคร โดยเฉพาะตัวละครอย่างโน่ ซึ่งน้องกัปตันหลุดจากการเป็นตัวละครจากในภาคแรกไปไกลเลยล่ะ (เดี๋ยวคุยต่อในเรื่องนักแสดง)
คือจุดนี้ หวังว่าคุณหยวนจะเคี่ยวออกมาให้ดีกว่านี้ คงรอดูตอนต่อไปละกันฮะ ...
นักแสดง
นี่ไม่ใช่ กัปตัน ในบท โน่ ที่เราเคยรู้จักจากซีซั่นแรก กัปตันที่มึนงง กัปตันที่ out of focus ทางการแสดง ส่วนหนึ่งมาจากบทที่น้อยนิด ส่วนหนึ่งมาจากผู้กำกับดังที่กล่าวมาด้านบน
เราเคยวิเคราะห์ไปแล้วใน ss1 ว่า กัปตัน เป็นนักแสดงแบบ method acting หรือ วิธีการแสดงที่นักแสดงกลายเป็นตัวละครตัวนั้น ซึ่งวิธีการแสดงแบบนี้
นักแสดงจำเป็นต้องใช้สมาธิสูง ต้องสร้างโลกส่วนตัวให้นักแสดงมากๆ และที่สำคัญ กัปตันเป็นนักแสดงที่ improvise ได้เก่งมาก (การแสดงแบบด้นสด)
จากแววตาน้องกัปตันที่เราสังเกตุได้จาก SS-2 EP-1 วันนี้คือ น้องขาดความเชื่อมั่นในการแสดงอย่างมาก สาเหตุน่าจะมาจากหลายประการ
ทั้งความเข้าใจบท การสื่อสารระหว่างผู้กำกับ vs นักแสดง การที่ต้องแสดงในกรอบ (ผกก.สั่งห้าม improvise) รวมไปถึงการรับงานอีเว้นที่ผ่านมามากเกินไป ทำให้ขาดสมาธิในการแสดง inner ไม่ถึง ... etc.
- ไวซ์ บทปุณณ์ คือไม่ค่อยอยากวิจารณ์น่ะ เนื่องจากไวซ์ต้องอาศัยออร่าทางการแสดงจากกัปตัน ตอนนี้ กัปตันโคม่า ไวซ์ก็ตามยถากรรมไปก่อนนะ - -"
- ยูริ เป็นตัวละครที่สดใสคงเส้นคงวามากที่สุดจากซีซั่นก่อน ไม่รู้ว่าไปกินยาดีอะไรมา active ตลอด ยูริผ่านสบายๆ ... ส่วนเอม ไม่เข้าใจว่าผู้กำกับสั่งให้เย็นชาหรือร้ายลึกมากไปหรือปล่าว ไปกินชาเย็นเสียหน่อย จะได้หวานขึ้น คือ ซีดขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนก็คงเลิก จริงๆ วิธีเขียนบทคาแรกเตอร์เอมเนี่ยไม่ยาก เอมต้องดูน่าคบหามากกว่าในบทประพันธ์เสียด้วยซ้ำ ปุณณ์ถึงจะยังตกลงคบอยู่ คือให้มันน่าเชื่อถือสักหน่อยเหอะ ถึงเธอจะ ...
- จี๊ด ก็เล่นตามมาตรฐานนะ ส่วน โอม รู้สึกประหลาดๆ พยายามเล่นมากแต่ได้น้อย ถ้าพยายามฝึกให้เป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเองก็คงจะดีขึ้น อย่าลืมว่า บทโอมนี่สำคัญเอาเรื่องอยู่ เป็นตัวสะท้อนความรู้สึกของโน่ตลอดเวลา
งานภาพ
overexposure หรือ แสงเกิน เกินครึ่งเรื่อง ถ่ายภาพออกมากันแบบนี้ มันเกินไปนะ ควรไปศึกษาเรื่องกล้อง กับเคี่ยวตากล้องให้ดีๆเลย อีกอย่าง งานเกรดแสงสีนี่ โดยรวมไม่ผ่านอย่างแรงเลยนะ ทั้งแสง over , contrast (ความคมชัด) ต่ำ, สีซีดจาง เป็นฟิลเตอร์ใน ig เลย
มุมกล้องบางมุมก็โอเคนะ แต่บางมุมก็ไม่สวย แต่ไปแก้เรื่องแสงสีก่อนเหอะ มันหนัก ไม่ต่างอะไรกับงานภาพ ss1 เลย -*-
เสียง
ดีกว่า SS1 แต่เสียงส่วนที่ใช้ไมค์ไวส์เลส clip on เสียงรบกวนจากการโดนเสื้อผ้ามีเยอะอยู่
เพลงประกอบ
ธีมเพลงเดียวกับ opening น่ะ ส่วนตัวคิดว่าหวานเลี่ยนไป ไม่ค่อยเข้ากับความเฮี้ยวแสบของ ปุณณ์ โน่ ตามบทประพันธ์เลย แล้วก็มีให้เลือกน้อย
อีกทั้งการใส่เพลงบรรเลงก็ใส่แทบจะทั้งเรื่อง เข้าใจว่าต้องการสร้าง feeling แต่ feeling จริงๆ มันต้องสร้างสถานการณ์ครับ อะไรๆก็ใส่เพลงบิ้ว งานเด็กมัธยมเห็นกันเยอะแยะ ฝากที
SUM!
overall เราไม่ค่อยประทับใจธีมงานสร้างที่ผู้กำกับคนใหม่สร้างขึ้นมานะ อย่างที่บอก มันหวานและบางเบาเกินไป ขาดความหนักแน่นไปซะทุกๆส่วน
ผิดกับธีมใน SS1 ที่สามารถ capture หัวใจหลักจากบทประพันธ์ได้ใกล้เคียงกว่า ทั้งความแสบ ความเฮี้ยว ความนุ่มนวล และความเป็นธรรมชาติ ดูน่าเชื่อถือกว่า แม้ว่าจะทำได้ไม่สมบูรณ์มากนัก
แม้ว่านี่จะเป็นตอนแรกของซีซั่นใหม่ มีคนบอกให้รอชมตอนต่อไป อย่าเพิ่งด่วนสรุป ... แต่ส่วนตัวมองว่า กลิ่นไอมันมาแล้ว เรารู้แนวทางในการสร้างธีมของผู้สร้างทีมใหม่แล้ว ก็คงไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากน้อยไปกว่านี้แล้ว
ก็คงมีสิ่งเดียวที่อยากจะบอกคือ "เอาชลธรคนเดิมคืนมา" 555
อาจจะมีคนไม่เห็นด้วยกับเราก็ไม่เป็นไรนะ ถือว่าแลกเปลี่ยนมุมมองอีกมุมหนึ่ง แต่ที่เศร้ากว่าก็คือ บรรดาสมาชิกกระทู้รีวิวเก่าๆเราหายไปแล้วค่อนข้างเยอะจากเหตุการณ์ดราม่าตอนนั้น T_T ยังไงก็ถือว่ากระทู้นี้ถ้าศิษย์เก่าจาก SS1 ผ่านมาเห็นก็ฝากลงชื่อทักทายกันหน่อยนะ ไม่ดูก็ไม่เป็นไร คุยเรื่องอื่นก็ได้ 555
ขอบคุณที่อ่านจนจบ ยาวอีกแล้วนะเรา -*-