คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ปัญหาทั่วไปสำหรับมือใหม่เลยครับ
อย่างแรกก็คือ ทำความเข้าใจที่มาของแสงที่ทำให้เกิดภาพ และความหมายของโหมดต่างๆก่อนครับ
ค่าแรกเลยก็คือ Speed Shutter ถ้าให้เปรียบก็ประมาณว่า เวลาเราเปิดก๊อกน้ำ ถ้าเปิดแปปเดียว เราก็ได้น้ำน้อย ถ้าเปิดนานเราก็ได้น้ำเยอะ เช่นเดียวกับ Speed Shutter ถ้านาน แสงก็เข้าเยอะ ถ้าเร็ว แสงก็เข้าน้อย (ปกติค่าที่แสดงในกล้อง มากก็คือเร็ว น้อยก็คือช้า)
ต่อมาก็คือค่ารูรับแสง หรือค่า F ถ้าจะให้เปรียบก็ประมาณว่า ก๊อกน้ำที่เราเปิดนั้น หัวเล็กหรือหัวใหญ่ ถ้าหัวเล็กก็น้ำก็ได้น้อย หัวใหญ่ก็ได้มาก เช่นเดียวกับรูรับแสง ถ้ารูแคบแสงก็เข้าน้อย ถ้ารูกว้างแสงก็เข้ามาก (ปกติค่าที่แสดงในกล้อง น้อยก็คือกว้าง มากก็คือแคบ)
อีกค่านึงก็คือ ISO หรือความไวแสง.. อันนี้จะเปรียบก็เปรียบประมาณสิ่งที่ใช้รองน้ำ ถ้าเป็นพลาสติกก็น้ำแทบไม่ซึม แต่ถ้าเป็นทิชชู่มันก็ซึมสุดๆ (จนอาจจะเละได้) เช่นเดียวกับ ISO ถ้าน้อยหรือไวแสงน้อย ภาพก็จะออกมามืด แต่ถ้า ISO มากๆ ก็จะไวแสง ภาพก็จะออกมาสว่าง (แต่ก็มีโอกาสเละเช่นเดียวกับทิชชู่)
ทั้งนี้ การปรับค่าต่างๆ ไม่มีตายตัว เราต้องเลือกตามความเหมาะสมว่าจะเพิ่ม-ลดค่า ขึ้นกับสไตล์การถ่ายรูป และสภาพแสงของเรา ซึ่งการปรับค่าต่างๆผลลัพท์สรุปคร่าวๆเป็นไปตามนี้ครับ

ตามตัวอย่างของจขกท. ใน ความเห็นที่ 2 หรือก็คือโหมด S (ไว้จะกล่าวทีหลังว่าโหมดนี้คืออะไร)
Speed Shutter - 50 (หมายถึง 1/50s)
F - 3.5
ISO - 1600 (Auto ISO ของกล้อง Olympus จะตั้งค่าเริ่มต้นเอาไว้ที่ไม่เกิน 1600 เราสามารถไปปรับแก้ได้)
ผลลัพท์ที่ได้ คือ ภาพมืดไป แปลว่าแสงไม่พอนั่นเอง เราก็มาพิจารณาการปรับค่า อย่างแรกเลยก็คือ F มันน้อยสุดเท่าที่เลนส์จะให้ได้แล้ว (น้อยสุดคือกว้าง) ทำอะไรไม่ได้ ข้ามไป ต่อมาก็ Speed Shutter เราสามารถลดสปีดลงให้สว่างกว่านี้ได้ และ ISO เราก็สามารถเพิ่มให้สว่างกว่านี้ได้ครับ
ทีนี้มาที่ แต่ละโหมด (ISO สามารถ Auto หรือตั้งเองก็ได้)
P - กล้องจะเลือกค่า F และ Speed Shutter ที่เหมาะสมให้เอง
A - เราจะตั้งค่า F เอง แต่ Speed Shutter กล้องจะเป็นคนตั้งให้เพื่อให้แสงมันพอ
S - เราจะตั้งค่า Speed Shutter เอง แต่ F กล้องจะเป็นคนตั้งให้เพื่อให้แสงมันพอ *คห2 จขกทใช้โหมดนี้อยู่
M - เราจะตั้งค่า Speed Shutter, F (กล้องบางตัว ต้องตั้ง ISO เองด้วย แต่ Olympus สามารถเลือก Auto ได้)
นอกจากนี้จะมีอีกค่านึงก็คือ ev หรือการชดเชยแสง เพราะที่ว่า "แสงมันพอ" เนี่ย พอของกล้องกับพอของสิ่งที่เราต้องการมันไม่ตรงกัน ก็เลยมีการชดเชยแสง โดยถ้า + ภาพจะสว่างขึ้น และ - ภาพก็จะมืดลง โดยกล้องจะปรับค่าต่างๆตามความต้องของเราให้ (ซึ่งโหมด M จะปรับ ev ไม่ได้ เพราะกล้องไม่สามารถปรับค่าเองได้ แต่ยังสามารถแสดงค่า ev ที่กล้องวัดได้ออกมาได้)
มือใหม่ส่วนใหญ่มักมีปัญหากับโหมด S เพราะกล้องไม่สามารถลดค่า F ได้มากพอให้แสงมันพอดีกับ Speed Shutter ที่เราตั้งไว้ และ ISO สูงไม่มากพอ (เป็นที่มาของปัญหาในคห.2 ครับ ถ้าจขกท.สังเกตดีๆจะเห็นว่าเลข F มันจะกระพริบอยู่ครับ)
ส่วนโหมด M ก็มีปัญหาไม่แพ้กัน เพราะมือใหม่ที่ยังไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของ 3 ค่านี้ อาจทำให้ภาพมืด / สว่างไปได้ครับ
ในเรื่องการแสดงผลนั้น....
- โหมด M จริงอยู่ว่าตั้งค่ายาก แต่มันแสดงผลตาม F / Speed Shutter ที่เราตั้งค่าไว้ (หรือก็คือ ev นั่นเอง) จึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
- โหมด S นั้น มันจะแสดงผลตามค่า ev หรือก็คือแสงที่เรา "อยากให้เป็น" ครับ แต่อย่างที่บอกว่ากล้องมันไม่สามารถทำได้ (ค่า F กระพริบอยู่) ทำให้ออกมามืดแบบนี้แหละครับ
- โหมด A, P ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา ถึงแม้จะแสดงผลตาม ev เหมือนกัน แต่มันสามารถลด Speed Shutter เพื่อให้ได้แสงที่เพียงพอได้ ถ้าจะมีก็เป็นเพราะมือ/ภาพสั่นเพราะมันลด Speed Shutter ให้ต่ำเพื่อให้แสงพอดีมากกว่า
ทั้งนี้.. จริงอยู่ว่าจอจะแสงภาพที่เรา "อยากให้เป็น" ออกมา แต่ก็มีข้อยกเว้นในกรณีที่การตั้งค่าของเรานั้น ภาพที่ได้ออกมาสว่าง/มืดมากๆ บางครั้งกล้องอาจจะเร่ง/ลดแสงเพื่อให้เราถ่ายง่ายขึ้น เป็นเหตุที่ทำให้แม้กระทั่ง Auto, A, P ก็ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาไม่เหมือนที่เห็นครับ
อย่างแรกก็คือ ทำความเข้าใจที่มาของแสงที่ทำให้เกิดภาพ และความหมายของโหมดต่างๆก่อนครับ
ค่าแรกเลยก็คือ Speed Shutter ถ้าให้เปรียบก็ประมาณว่า เวลาเราเปิดก๊อกน้ำ ถ้าเปิดแปปเดียว เราก็ได้น้ำน้อย ถ้าเปิดนานเราก็ได้น้ำเยอะ เช่นเดียวกับ Speed Shutter ถ้านาน แสงก็เข้าเยอะ ถ้าเร็ว แสงก็เข้าน้อย (ปกติค่าที่แสดงในกล้อง มากก็คือเร็ว น้อยก็คือช้า)
ต่อมาก็คือค่ารูรับแสง หรือค่า F ถ้าจะให้เปรียบก็ประมาณว่า ก๊อกน้ำที่เราเปิดนั้น หัวเล็กหรือหัวใหญ่ ถ้าหัวเล็กก็น้ำก็ได้น้อย หัวใหญ่ก็ได้มาก เช่นเดียวกับรูรับแสง ถ้ารูแคบแสงก็เข้าน้อย ถ้ารูกว้างแสงก็เข้ามาก (ปกติค่าที่แสดงในกล้อง น้อยก็คือกว้าง มากก็คือแคบ)
อีกค่านึงก็คือ ISO หรือความไวแสง.. อันนี้จะเปรียบก็เปรียบประมาณสิ่งที่ใช้รองน้ำ ถ้าเป็นพลาสติกก็น้ำแทบไม่ซึม แต่ถ้าเป็นทิชชู่มันก็ซึมสุดๆ (จนอาจจะเละได้) เช่นเดียวกับ ISO ถ้าน้อยหรือไวแสงน้อย ภาพก็จะออกมามืด แต่ถ้า ISO มากๆ ก็จะไวแสง ภาพก็จะออกมาสว่าง (แต่ก็มีโอกาสเละเช่นเดียวกับทิชชู่)
ทั้งนี้ การปรับค่าต่างๆ ไม่มีตายตัว เราต้องเลือกตามความเหมาะสมว่าจะเพิ่ม-ลดค่า ขึ้นกับสไตล์การถ่ายรูป และสภาพแสงของเรา ซึ่งการปรับค่าต่างๆผลลัพท์สรุปคร่าวๆเป็นไปตามนี้ครับ

ตามตัวอย่างของจขกท. ใน ความเห็นที่ 2 หรือก็คือโหมด S (ไว้จะกล่าวทีหลังว่าโหมดนี้คืออะไร)
Speed Shutter - 50 (หมายถึง 1/50s)
F - 3.5
ISO - 1600 (Auto ISO ของกล้อง Olympus จะตั้งค่าเริ่มต้นเอาไว้ที่ไม่เกิน 1600 เราสามารถไปปรับแก้ได้)
ผลลัพท์ที่ได้ คือ ภาพมืดไป แปลว่าแสงไม่พอนั่นเอง เราก็มาพิจารณาการปรับค่า อย่างแรกเลยก็คือ F มันน้อยสุดเท่าที่เลนส์จะให้ได้แล้ว (น้อยสุดคือกว้าง) ทำอะไรไม่ได้ ข้ามไป ต่อมาก็ Speed Shutter เราสามารถลดสปีดลงให้สว่างกว่านี้ได้ และ ISO เราก็สามารถเพิ่มให้สว่างกว่านี้ได้ครับ
ทีนี้มาที่ แต่ละโหมด (ISO สามารถ Auto หรือตั้งเองก็ได้)
P - กล้องจะเลือกค่า F และ Speed Shutter ที่เหมาะสมให้เอง
A - เราจะตั้งค่า F เอง แต่ Speed Shutter กล้องจะเป็นคนตั้งให้เพื่อให้แสงมันพอ
S - เราจะตั้งค่า Speed Shutter เอง แต่ F กล้องจะเป็นคนตั้งให้เพื่อให้แสงมันพอ *คห2 จขกทใช้โหมดนี้อยู่
M - เราจะตั้งค่า Speed Shutter, F (กล้องบางตัว ต้องตั้ง ISO เองด้วย แต่ Olympus สามารถเลือก Auto ได้)
นอกจากนี้จะมีอีกค่านึงก็คือ ev หรือการชดเชยแสง เพราะที่ว่า "แสงมันพอ" เนี่ย พอของกล้องกับพอของสิ่งที่เราต้องการมันไม่ตรงกัน ก็เลยมีการชดเชยแสง โดยถ้า + ภาพจะสว่างขึ้น และ - ภาพก็จะมืดลง โดยกล้องจะปรับค่าต่างๆตามความต้องของเราให้ (ซึ่งโหมด M จะปรับ ev ไม่ได้ เพราะกล้องไม่สามารถปรับค่าเองได้ แต่ยังสามารถแสดงค่า ev ที่กล้องวัดได้ออกมาได้)
มือใหม่ส่วนใหญ่มักมีปัญหากับโหมด S เพราะกล้องไม่สามารถลดค่า F ได้มากพอให้แสงมันพอดีกับ Speed Shutter ที่เราตั้งไว้ และ ISO สูงไม่มากพอ (เป็นที่มาของปัญหาในคห.2 ครับ ถ้าจขกท.สังเกตดีๆจะเห็นว่าเลข F มันจะกระพริบอยู่ครับ)
ส่วนโหมด M ก็มีปัญหาไม่แพ้กัน เพราะมือใหม่ที่ยังไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของ 3 ค่านี้ อาจทำให้ภาพมืด / สว่างไปได้ครับ
ในเรื่องการแสดงผลนั้น....
- โหมด M จริงอยู่ว่าตั้งค่ายาก แต่มันแสดงผลตาม F / Speed Shutter ที่เราตั้งค่าไว้ (หรือก็คือ ev นั่นเอง) จึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
- โหมด S นั้น มันจะแสดงผลตามค่า ev หรือก็คือแสงที่เรา "อยากให้เป็น" ครับ แต่อย่างที่บอกว่ากล้องมันไม่สามารถทำได้ (ค่า F กระพริบอยู่) ทำให้ออกมามืดแบบนี้แหละครับ
- โหมด A, P ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา ถึงแม้จะแสดงผลตาม ev เหมือนกัน แต่มันสามารถลด Speed Shutter เพื่อให้ได้แสงที่เพียงพอได้ ถ้าจะมีก็เป็นเพราะมือ/ภาพสั่นเพราะมันลด Speed Shutter ให้ต่ำเพื่อให้แสงพอดีมากกว่า
ทั้งนี้.. จริงอยู่ว่าจอจะแสงภาพที่เรา "อยากให้เป็น" ออกมา แต่ก็มีข้อยกเว้นในกรณีที่การตั้งค่าของเรานั้น ภาพที่ได้ออกมาสว่าง/มืดมากๆ บางครั้งกล้องอาจจะเร่ง/ลดแสงเพื่อให้เราถ่ายง่ายขึ้น เป็นเหตุที่ทำให้แม้กระทั่ง Auto, A, P ก็ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาไม่เหมือนที่เห็นครับ
แสดงความคิดเห็น
รบกวนสอบถามค่ะ olympus omd em10
ภาพที่ได้ไม่เหมือนกับที่เห็นในช่องมองภาพ และจอ lcd
ยกตัวอย่างเช่น เห็นใน evf สว่าง แต่เมื่อถ่ายออกแล้วแล้วภาพมืดค่ะ
ปล.เมื่อปรับวงแหวนเป็นโหมด M ภาพที่ได้จะเห็นเหมือน evf ค่ะ แต่เมื่ออยู่ในโหมด S,A,P ภาพที่ถ่ายออกมาจะมืดกว่าที่แสดงผลค่ะ
ไม่ทราบว่าต้องปรับตั้งค่า ตรงไหน หรือกล้องมีปัญหาอะไรหรือเปล่า รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ