* กลับมาอีกครั้งสำหรับการรวมตัวของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ใน Avengers : Age of Ultron ที่กำกับโดย Joss Whedon เจ้าเดิมทำให้ได้ฉากบู๊แบบ Long-Take ที่มีความมันส์และสนุกสนานอารมณ์แบบเดียวกับภาคแรกมาเลย
* เรื่องเกิดขึ้นเมื่อมี AI หุ่นยนตร์ปัญญาประดิษฐ์ได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้วคิดจะทำลายโลกทำให้เหล่า Avengers ต้องไปสู้กับมัน นับว่าเป็นพล็อตที่ง่ายมากๆแต่สามารถสื่อออกมาได้ซับซ้อนมากด้วยเช่นกัน
* ทีแรกผู้กำกับ Joss Whedon นั้นบอกว่ากะจะให้หนังยาวประมาณสามชั่วโมงครึ่งนับได้ว่ายาวโคตรๆเลยทีเดียวแต่ว่าเนื่องจากทางค่ายไม่อนุมัติเขาจึงต้องตัดต่อหนังให้สั้นเหลือสองชั่วโมงครึ่งซึ่งยังถือว่ายาวมากอยู่ดี ซึ่งนับได้ว่ายังแจ่มมากจากปริมาณที่เราได้รับ
ข้อดี / ข้อเสีย
+ Hulk Vs Hulk Buster หยั่งกับตอนที่ Superman Vs Zod ใน Man of Steel แต่ว่าด้วยโมเม้นต์ที่ช้ากว่าทำให้เห็นฉากแอคชั่นได้อย่างชัดเจน
+ Avengers Vs Ultron ให้อารมณ์ลุ้นเหมือนกับว่าคนทีมสามารถตายได้ทุกเมื่อจริงๆ
- หนังถูกตัดไปตั้งชั่วโมงนึงบางช่วงมันก็แถบจะดูไม่ต่อกันเลย (โดยเฉพาะตัวละครบางตัวที่ไปทำแต่เรื่องของตัวเองลูกเดียวเลย)
- บางตัวเปิดมาแสนจะ OP แต่ถูก Nerf ลงตอนขึ้นช่วงหลัง
- เนื้อเรื่องนั้นรวบยอดของหนังถูกเรื่องจาก Phrase 2 หมดเลยดังนั้นถ้าไม่ได้ดูไปแม้แต่เรื่องเดียวก็อาจจะทำให้งงได้เล็กน้อยถึงปานกลาง
(ยกตัวอย่างคนข้างๆผมไม่ได้ดูกัปตัน 2 นี้แหละเปิดเรื่องมาเห็นเบลอๆกับเนื้อเรื่องเล็กน้อย)
คะแนนรวม : 3/5 คะแนน
ข้อสรุป : ตัวหนังก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแต่ว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบผมว่ามันพยายามเล่นโทนแบบเรื่องกัปตันอเมริกา 2 ซึ่งไม่ค่อยเวิร์คเท่าที่ควรในบางฉากบางมุขก็เลยเหมือนกับว่ามุขไม่ฮาพาเพื่อนเครียดครึ่งนึงและอีกครึ่งนึงก็เกี่ยวกับคนอื่นไม่สามารถยกค้อนทอร์ได้
[CR] [Non-Spoiler Review] Avengers: Age of Ultron -
* กลับมาอีกครั้งสำหรับการรวมตัวของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ใน Avengers : Age of Ultron ที่กำกับโดย Joss Whedon เจ้าเดิมทำให้ได้ฉากบู๊แบบ Long-Take ที่มีความมันส์และสนุกสนานอารมณ์แบบเดียวกับภาคแรกมาเลย
* เรื่องเกิดขึ้นเมื่อมี AI หุ่นยนตร์ปัญญาประดิษฐ์ได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้วคิดจะทำลายโลกทำให้เหล่า Avengers ต้องไปสู้กับมัน นับว่าเป็นพล็อตที่ง่ายมากๆแต่สามารถสื่อออกมาได้ซับซ้อนมากด้วยเช่นกัน
* ทีแรกผู้กำกับ Joss Whedon นั้นบอกว่ากะจะให้หนังยาวประมาณสามชั่วโมงครึ่งนับได้ว่ายาวโคตรๆเลยทีเดียวแต่ว่าเนื่องจากทางค่ายไม่อนุมัติเขาจึงต้องตัดต่อหนังให้สั้นเหลือสองชั่วโมงครึ่งซึ่งยังถือว่ายาวมากอยู่ดี ซึ่งนับได้ว่ายังแจ่มมากจากปริมาณที่เราได้รับ
ข้อดี / ข้อเสีย
+ Hulk Vs Hulk Buster หยั่งกับตอนที่ Superman Vs Zod ใน Man of Steel แต่ว่าด้วยโมเม้นต์ที่ช้ากว่าทำให้เห็นฉากแอคชั่นได้อย่างชัดเจน
+ Avengers Vs Ultron ให้อารมณ์ลุ้นเหมือนกับว่าคนทีมสามารถตายได้ทุกเมื่อจริงๆ
- หนังถูกตัดไปตั้งชั่วโมงนึงบางช่วงมันก็แถบจะดูไม่ต่อกันเลย (โดยเฉพาะตัวละครบางตัวที่ไปทำแต่เรื่องของตัวเองลูกเดียวเลย)
- บางตัวเปิดมาแสนจะ OP แต่ถูก Nerf ลงตอนขึ้นช่วงหลัง
- เนื้อเรื่องนั้นรวบยอดของหนังถูกเรื่องจาก Phrase 2 หมดเลยดังนั้นถ้าไม่ได้ดูไปแม้แต่เรื่องเดียวก็อาจจะทำให้งงได้เล็กน้อยถึงปานกลาง
(ยกตัวอย่างคนข้างๆผมไม่ได้ดูกัปตัน 2 นี้แหละเปิดเรื่องมาเห็นเบลอๆกับเนื้อเรื่องเล็กน้อย)
คะแนนรวม : 3/5 คะแนน
ข้อสรุป : ตัวหนังก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแต่ว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบผมว่ามันพยายามเล่นโทนแบบเรื่องกัปตันอเมริกา 2 ซึ่งไม่ค่อยเวิร์คเท่าที่ควรในบางฉากบางมุขก็เลยเหมือนกับว่ามุขไม่ฮาพาเพื่อนเครียดครึ่งนึงและอีกครึ่งนึงก็เกี่ยวกับคนอื่นไม่สามารถยกค้อนทอร์ได้