พาเที่ยวเทศกาลเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าบางปะกงกันคะ

ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมและรับความรู้ใหม่ๆจากโรงไฟฟ้าบางปะกงคะ อันที่จริงต้องบอกว่า แฟนดิฉันเขาค่อนข้างชอบอะไรแบบนี้ เห็นร้องว่าอยากไปๆ แต่กลัวจะไปลำบากเพราะไม่มีรถส่วนตัวไปอะ มาถามๆในพันทิป ก็ปรากฎว่ามีคนมาตอบว่าไปไม่ยากเลย เลยลองไปดูคะ
มาดูรายละเอียดงานกันก่อนนะ

เครดิสรูป : GG News
โรงไฟฟ้าบางปะกง จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 14 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2558 (เฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์) ภายใต้แนวคิด “มาวันเดียว เที่ยวได้ทั้งครอบครัว” เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนจากทุกภาคของประเทศไทย ได้นำครอบครัวที่มีแผนการเดินทางท่องเที่ยวในภาคตะวันออกในช่วงปิดเทอม ได้แวะมาท่องเที่ยวและชมแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ภายในโรงไฟฟ้า อาทิ เช่น แวะกราบนมัสการหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์บริเวณริมเขื่อนโรงไฟฟ้าบางปะกง นำชมกระบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้าพลังความร้อน นำชมสวนพฤกษศาสตร์ พรรณไม้ประจำจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย และจุดถ่ายภาพที่ระลึกต่างๆมีมัคคุเทศก์น้อยและอาสาสมัครนำเยี่ยมชมห้องควบคุมการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าบางปะกง เพื่อได้เรียนรู้กระบวนการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด โดยทางโรงไฟฟ้าบางปะกงจะจัดบริการรถนำเที่ยว โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย วันละ 5 รอบ คือ เวลา 09.00 น., 10.30 น., 12.00 น., 13.30 น. และ 15.00 น. และถ้าสนใจที่จะเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 038-573429 คะ
ช่างน่าสนใจใช่ไหมคะ ไหนๆก็โปรยมาแบบนี้แล้ว มาเที่ยวชมไปพร้อมๆกับครอบครัวเรากันเลยดีกว่าคะ

การเดินทาง: บ้านเราอยู่สมุทรปราการคะ อันเนื่องมาจากเราไม่มีรถไปเองเนอะ เราเลยต้องหารถไปกันเอง เริ่มต้นจากนั่งรถมาลงแยกบางนาคะ แล้วจะหารถตู้ (ถามเขาก่อนว่าไปผ่านหน้าโรงไฟฟ้ารึเปล่า เพราะบางคันจะขึ้นบูรพาวิถี) หรือ รถเขียว365(ที่ด้านหน้าเขียนว่าไปบางปะกงนะ) รอบนี้ขอทนทรหดกับรถเขียววิ่งล่าง รถกระโดด กระเดกไปมา วิ่งแซงรถคอนเทรนเนอร์ นั่งหัวปลิวกันมาสองคน ในใจก็คิดว่าจะทันรอบบ่ายโมงไหมน้อ
และแล้วนั่งเสียวพอสมควรก็มาถึงหน้าปากทางโรงไฟฟ้าจร้า

ท่อที่เหลือตอนก่อสร้างโรงไฟฟ้านำมาทำเป็นเสาป้ายใหญ่เบ้อเร้อ...
เสร็จก็เดินมาหารถสองแถวสีขาวกันเลยจร้า ที่เขียนด้านข้างว่า ปากทางโรงไฟฟ้า - วัดเขาดิน -คลองอ้อม

จะจอดอยู่ตรงหน้าปากทางพอดีคะ หรือใครสะดวกนั่งวินก็ไม่ว่ากันเนอะ แล้วเราก็นั่งรอจนคนเต็ม รถก็ออกจร้า ปุเลงๆไปตอนแรกก็ไม่มีบ้านคนเลยนะ พอซักครู่ก็ถึงเขตชุมชน  รถสองแถวก็เจ้ากรรมบอกว่าไม่วิ่งเข้าเนอะคนน้อยหมดระยะแระ (ไหงงั้น) จอดแค่ตลาด เราสองคนก็เลยต้องเดินข้ามคลอง เดินเข้าไปในโรงไฟฟ้ากันเอง


เดินมาถึงเสร็จก็ติดต่อ คุณรปภ.ด้านหน้าจร้า คุยกันไปกันมาก็ชี้ๆให้ไปลงทะเบียนที่ตึกกันก่อน



มีน้องๆมัคคุเทศก์น้อยและอาสาสมัครรอเราลงทะเบียนอยู่จร้า  เขียนชื่อลงทะเบียนกันได้เลย
แล้วก็มานั่งตากแอร์เย็นๆ ดูวีดีโอแนะนำโรงไฟฟ้าและประวัติความเป็นมา รวมถึงนโยบายกันคร้า

แอบมองไปรอบๆ มีป้ายที่น่าสนใจเยอะเลยคะ

ซึ่งระหว่างที่ดูกันอยู่นั้น น้องๆอาสาก็ใจดี เอาน้ำเย็นๆมาต้อนรับเราด้วยนะ น่ารักบริการดีจุง
ดูวีดีโอจบ น้องๆก็ออกมากล่าวต้อนรับเราคะ แล้วก็บอกว่าขณะนี้รถกลอฟ์มารอแล้ว พร้อมนำท่านเข้าชมโรงไฟฟ้าแล้วคร้า
Let's Go!!!

โดยทริปนี้มีน้องมัคคุเทศก์ 2คน วิทยากร 1คน และ คนขับรถอีก1 คะที่จะไปด้วย
ซึ่งพอรถแล่นออกมา เราก็ได้เห็นสถานที่สำคัญในโรงไฟ้าแห่งนี้ ซึ่งได้ผลิตไฟฟ้าให้เราสะดวกสบายกันคะ เริ่มจากผ่าน

ซึ่งเป็นโรงหล่อเย็นคะ ที่ใช้ระบายความร้อนก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำในบริเวณใกล้เคียงคะ
ในขณะที่รถแล่นผ่านเราก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลาคะ ซึ่งเราจะไปสถานที่แรกกันคะ ซึ่งมีความสำคัญกับชาวโรงไฟฟ้ามากคะ เนื่องจากเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ที่นี่ก็คือ พระพุทธสิริสัตตราชหรือหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์คะ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เป็นที่เคารพบูชาของคนโรงไฟฟ้าก็ว่าได้คะ เราจะมานมัสการท่านกันคะ


คุณลุงวิทยากร ก็อธิบายถึงเรื่องราวความเป็นมาต่างๆคะ ว่าแล้วน้องๆก็จัดแจงจุดธูปมาให้เรา กราบนมัสการท่านคะ
ส่วนความอภินิหารของท่านนั้น เรื่องมันยาวมากเลยคะ ใครสนใจต้องลองไปเองนะคะ

เพราะเรื่องมันยาวมากเบย
กราบนมัสการท่านเสร็จแล้ว ก็กลับมาหาพี่โซเฟอร์ที่นั่งรออยู่จร้า

ระหว่างนั้นเราก็อดไม่ได้ที่จะซึมซับบรรยากาศสวยๆของริมแม่น้ำกันคะ(ถึงแม้จะชมน้อยไปหน่อยเพราะแดดค่อนข้างร้อน)

ไปเลยคะพี่โซเฟอร์!!!

อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเก็บระหว่างทางเนอะ



และเราก็มาถึงอาคารโรงไฟฟ้ากันคะ

ตามน้องๆเข้าไปกันเลยคร้า

เดินขึ้นลิฟท์ไปปั๊บ เราก็มาถึงห้องซึ่งมีความสำคัญมากอีกที่หนึ่งคะ เรียกว่าเป็นห้องที่ยากที่จะได้เข้ามาชมนะคะ  ซึ่งที่นี่เสียงจะค่อนข้างจะดังมากคะ  


ขออภัยคะ แสงน้อย...เพราะต้องถ่ายไปด้วย เดินไปด้วยเลยโฟกัสไม่ทัน ร้องไห้
และแล้วก็เดินชมถึงห้องควบคุมซึ่งขอบอกไว้ก่อนนะคะ น้องๆหนูๆอย่าไปเผลอกดปุ่มไหนเข้าหล่ะ ผู้ปกครองดูแลน้องๆด้วยนะคะ เพราะห้องนี้เป็นห้องควบคุมคะ



เราจะเห็นควันที่ออกมาจากปล่องจากการเผาไหม้ ผ่านจอมอนิเตอร์นี้คะ ซึ่งรอบที่ที่มาเห็นคุณวิทยากรบอกว่าเปิดถึงสองเครื่องพร้อมกันเลย


หลังจากที่คุณแฟนได้ซักถามปัญหาจากเจ้าหน้าที่เกือบชั่วโมง จนหนำใจเธอแล้ว เราก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อคะ โดยน้องๆให้แวะเข้าห้องน้ำได้แป่บนึง
แต่คุณแฟนยังติดลม อยากคุยกับคุณลุงวิทยากรไม่หาย

ระหว่างนั่งรถเลยได้ถ่ายวีด๊โอมาให้ชมกันคะ อาจจะตัดต่อไม่เก่ง อาจจะถ่ายไม่นิ่ง เพราะเป็นแค่มือสมัครเล่นแต่ก็น้อมรับคำติชมคะ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอที่ต่อไปคือที่สุดท้ายของทริปนี้คะ นั้นคือสวนพฤกษศาสตร์ ซึ่งแบ่งเป็นหลายโซนคะ
โซนแรกจะเป็นโซนดอกไม้ตามเนื้อเพลง "อุทยานดอกไม้"

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ก็จะมีดอกไม้ตามชื่อเพลงมาปลูกให้ความร่มรื่นอย่างมากคะ
พาชมดอกไม้ และต้นไม้ป่าชายเลน รวมถึงต้นไม้อีกหลากหลายชนิดที่นี่กันคะ








นอกจากจะได้ชมดอกไม้แล้ว ก็ยังมีโซนไม้พุทธประวัติ ไม้วรรณคดี ไม้ประจำจังหวัด
ให้ชมอีกด้วยคะ





ต้นอะไรแปลกดี...

ส่วนถ้าหันไปอีกด้านเราจะเจอกับโซนพลังงานแสงอาทิตย์คะ

แผงโซล่าที่นี่คะ ด้านหลังจะเห็นใบพัดด้วยคะ

ใครอยากทราบว่าต้นไม้ต่างชนิดนี้มีประโยชน์อย่างไร สามารถสอบถามน้องมัคคุเทศก์และวิทยากรได้นะคะ
และใครที่อยากจะให้จัดไปเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือ ไหว้พระ ภายในท้องที่สามารถติดต่อได้คะ
หลังจากนั้น เราก็นั่งรถกลับมากันที่อาคารที่เรามาในตอนแรกคะ
ก่อนกลับพามาดูแบบจำลองสวยๆคะ




หรือสอบถามของที่ระลึกที่ผลิตจากชุมชนในท้องที่ได้นะคะ สวยมากๆคะ


ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจที่โต๊ะ เราก็ได้ของที่ระลึกมาเป็น หมวก ปากกา สติ๊กเกอร์ และนิตยสารข่าวที่น่าสนใจคะ แถมต้องขอบคุณน้องที่โรงไฟฟ้าจริงๆที่อุตส่าห์เป็นห่งมาสอบถามว่าเรากลับกันยังไง เลยอาสาที่จะขับรถมาส่งเราที่ตลาดตรงเซเว่นเพราะกลัวเราไม่มีรถสองแถวกลับคะ ขอบคุณคุณลุงวิทยากร และ น้องๆมัคคุเทศก์น้อยทั้งสองคนรวมถึงที่ไม่ได้เอ่ยด้วยคะ ที่ต้อนรับเราได้ดีมากแบบสุดประทับใจ มีเวลาว่างวันเสาร์-อาทิตย์ก็ไปเที่ยวกันได้นะคะ ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้เท่านั้นคะ หากไปแบบหมู่คณะก็สอบถามรายละเอียดที่เบอร์038-573429ได้เลยจร้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่