เจ้าของกระทู้ต้องบอกก่อนเลยว่านี่เป็นกระทู้เเรกที่ตั้ง คิดมากจริง ๆ นอนไม่หลับเลย อยากมาปรึกษาปัญหาที่มีเรื่องกฎหมายมาเกี่ยวด้วยเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายมากนัก เเต่ก็พอรู้บ้างเกี่ยวกับกฎหมายในการดำเนินชีวิตประจำวันโดยไม่ไปก่อความเดือดร้อนให้บุคคลอื่น
ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ เราอายุ 21 ปี เราเป็นภูมิแพ้ได้กลิ่นอะไรเเรง ๆ ไม่ได้ จะหายใจไม่ค่อยออกจะเกิดอาการหอบทันที เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนบ้านเราเผาอะไรไม่รู้เผาบ่อยมากเหลือเกิน จนเราทนไม่ไหวเราบอกคนที่บ้านที่เป็นผู้ใหญ่ไปคุยให้หน่อยเราไม่ไหวจริง ๆ สุขภาพเราเเย่มาก ยังไม่รวมถึงสุขภาพจิตที่ตามมา ซึมเศร้าโดยไม่รู้สาเหตุ หงุดหงิดง่าย ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลย ที่บ้านเราเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยอดเอาไม่ได้เหรอไม่อยากให้มีเรื่องกับเพื่อนบ้าน เค้าอยู่ก่อนมาหลายปี คือเราพึ่งย้ายจากในเมืองมาอยู่ได้สามปี บ้านข้างซ้ายเป็นบ้านเลี้ยงไก่ เเต่เราไม่ได้กลิ่นขี้ไก่หรืออะไรนะ ข้างขวาติดทุ่งนาประมาณหนึ่งไร่ ด้านหน้าเราก็มีบ้านคนอยู่หลายหลัง เอาเป็นว่าบ้านเราอยู่ท้ายซอยเเต่ก็มีบ้านคนอยู่เต็มเเละเป็นเขตชุมชน จึงไม่เหมาะที่จะเผาอะไรส่งเดช เราเข้าใจว่าคนพวกนั้นเค้าอยู่กันมานานอาจจะเหม็นหรือไม่เหม็นเราไม่รู้ได้ เเต่ที่แน่ ๆ ไม่มีใครกล้าไปบอกแกเรื่องเผานู่นนี่นั่นคงจะเกรงใจกันเพราะอยู่กันมานาน ตอนเรามาอยู่สามปีก่อนเราไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลยนะคะ พึ่งมาได้กลิ่นเมื่อต้นปี เดือนมกราคม ซึ่งเราก็ไปสืบหากลิ่นด้านซ้ายบ้านเราเลยไปประมาณ 300 เมตร มีเตาเผาถ่านอยู่ 2 เตา ใส่แกลบด้วนนะคะกลิ่นไม่ธรรมดาจริง ๆ ซึ่งเราก็ได้เเจ้งเทศบาลให้ไประงับการเผาเป็นที่เรียบร้อยเเล้วจบเคสนี้ไป ไม่มีปัญหาอะไร ชาวบ้านก็ลือกันว่าบ้านเรานี่แหละเป็นคนไปแจ้ง เพราะเราก็ออกไปถาม ๆ คนแถวนั้นอยู่ว่าใครเผาอะไรทำไมเหม็นจัง แต่ก็ไม่มีใครรู้เราก็ไปสืบหาเอาเอง
เรื่องที่มีปัญหาก็คือบ้านถัดจากบ้านตรงข้ามกับบ้านเรา บ้านแกปลูกกล้วยมั้งคะแต่ไม่ค่อยมาก มีที่นาด้วยนิดหน่อยเอะอะแกก็จะเผา ๆๆ ไม่รู้เผาอะไรนักหนาควันงี้ลอยเข้าบ้านเราเสื้อผ้าตากไว้ก็เหม็นไปหมด เราบอกคนที่บ้านไปคุยก็ไม่มีใครไป คือเราอยากให้ไปคุยดี ๆ ก่อนเพราะเห็นเป็นบ้านใกล้เรือนเคียง สรุปพูดไปก็ไม่มีใครไป เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ที่ผ่านมานี้ แกก็เผาอีกแต่ว่าวันนั้นควันเยอะมากเราสำลักเหมือนไฟไหมป่าเลย เราเลยตัดสินใจไปคุยเอง เราก็ไปพูดกับแก่ดีมากเลยนะคะ เสียงนุ่มนวลกว่าปกติ บอกถึงปัญหาความเดือดร้อนที่เราได้รับ เราก็ถามแกว่ามีทางเป็นไปได้ไหมที่จะไม่เผา เก็บใส่ถุงดำให้รถขยะเขามาเก็บไปได้ไหม คือเขาก็มาเก็บทุกเช้าอยู่นะคะตา ตาแกก็อ้างว่า เผาในที่ตัวเองฉันไม่ผิด เผาตั้งไกล (จริง ๆ เเล้วใกล้มากค่ะ เดินจากบ้านเราไปยี่สิบก้าวถึงหน้าบ้านตาแก) เราก็บอกว่าควันมันลอยไปทั่วนะคะตา ลอยไปเป็นกิโล ๆ เราจะมีทางร่วมมือกันแก้ปัญหาได้ไหม ตาแกก็บอกว่า งั้นก็ไปบอกรถขยะให้มาเก็บสิ เขาไม่เก็บไปหนิ เราเลยบอกว่าได้ค่ะเดี๋ยวหนูบอกให้เค้ามาเก็บให้นะคะ ทีนี้ตาแกก็ของขึ้นเลยเรางงมาก ขึ้นเสียงใส่เราว่า ไปบอกสิบอกให้เค้ามาเก็บ เเล้วเสียเงินร้อยหนึ่งให้เขาด้วยนะ ! (เรานี่อึ้งเลย นี่ตาแกเห็นเเต่เงินร้อยนึงแต่เลือกมาทำลายสุขภาพคนอื่น เราได้ยินมาว่าบ้านตาแกน่ะรวยมากขายที่ได้เงินเป็นร้อย ๆ ล้าน เราลืมบอกไปยังไม่รวมถึงแก่ใช้ฟืนหุงต้มอาหารด้วยนะคะ เหม็นอยู่เหมือนกันแต่ไม่แรง ทนเอาเห็นว่าทำมาหากิน งงอยู่เหมือนกันว่ามีเงินเยอะขนาดนั้นทำไมไม่ใช้เตาแก๊ส) แล้วก็ว่าไปเรื่อยว่าเราน่ะมาอยู่ทีหลัง จากนั้นเมียแกก็มาสบทบเราก็นึกว่าเมียแกจะพูดเข้าใจ แต่ที่ไหนได้มาช่วยกันรุมด่าเรา ว่าเผานิด ๆ หน่อย ๆ ก็เหม็นไม่ได้เผาแกลบเผาถ่านทั้งคืนสักหน่อย ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ก็ไปอยู่ย้ายบ้านไปอยู่คนเดียวสิ !! เราอึ้งอย่างเเรงคนแบบนี้ก็มีด้วย ต่อว่าเราว่าอย่ามาเก่งเเถวนี้ !! เราก็บอกเขาไปด้วยแล้วนะว่าเราน่ะแพ้ควันเป็นหอบหืด แกสองผัวเมียไม่รับฟังปัญหาของคนอื่นเลย ไล่เราบอกไปเอายายมาคุย ท้าเราไปแจ้งมาเลยเทศบาลน่ะ ไม่กลัวหรอก เราหมดความอดทนจริง ๆ เลยบอกแกไปว่า ได้ งั้นตาก็รอคุยกับเทศบาลเอาเเล้วกันนะคะ จากนั้นเราก็หันหลังเดินกลับบ้านเรา แล้วเเจ้งเทศบาลทันที วันรุ่งขึ้นเทศบาลมาบ้านแกตอนนั้นเรานอนเพลียมากไม่ได้ตื่นออกไปดู แต่ยายเราไปคุย พร้อมกับเทศบาล ตากับยายแกก็อ้างว่าเผาในที่ตัวเองอีกตามเคย ว่าตนนั้นไม่ผิด เทศบาลก็ไม่เห็นจะทำอะไรเลยนะเท่าที่ยายเล่ามาเห็นพูด ๆ นิดหน่อยก้กลับ เเล้วตาแกก็ว่าเราน่ะผิดที่ไปต่อว่าแกถึงบ้านไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ (เท่าที่เราจำได้ เราไม่ได้ต่อว่าตากับยายแกเลย เราก็รู้กาลเทศะอยู่พอสมควร ) ยายเราก็ไปขอโทษขอโพยแทนเราทั้งที่เราไม่ผิดอะไรเลย หนำซ้ำยังฝากยายเรามาบอกเราด้วยว่าให้ไปขอโทษแก ไม่งั้นไม่ยอม แกจะไปแจ้งความข้อหาว่าเราหมิ่นประมาทแก ว่าเราบุกรุกบ้านแก ใส่รองเท้าเข้าไปเดินในบ้านแก ไปตั้งสองครั้ง ( เรางงไปสองครั้งตอนไหน พึ่งไปคุยวันนั้นวันแรก แล้วเรื่องใส่รองเท้าเข้าบ้าน เรายืนอยู่หน้าบ้านแท้ ๆ เราก็ยืนเรียกว่ามีคนอยู่ไหมคะ อยู่หน้าบ้าน เเต่บ้านแกเป็นแบบ ไม่ปิดประตูหน้าบ้าน เรายืนอยู่หน้าบ้านนิดเดียวเองเป็นที่จอดรถด้วยเราไม่รู้ว่าต้องถอดรองเท้าด้วย เเต่ไม่ได้เข้าไปในตัวบ้าน ก็ยืนคุยกับตายายแกปกติตอนเเรก ๆ เพราะแกก็ไม่ได้ไล่เราไปตั้งเเต่ตอนเเรก เราก็คุยกับแกเหมือนที่เราเล่าไปนั่นแหละ ที่ว่าเราไปบ้านแกสองครั้ง อาจจะไม่เชิงเราแค่เดินผ่านหน้าบ้านแก่ ตรงที่ถนนหน้าบ้านที่รถวิ่งนั่นแหละค่ะ เราไม่ได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคล เเต่เรานอนไม่หลับออกไปเดินสืบกลิ่นว่ามาจากทางไหนแต่ก็นานมามากแล้วนะคะแกคงเห็นเราเดินผ่านไปมั้งจำเอามาพูด )
สรุปเราไม่ไปขอโทษ เราไม่ผิด ตากับยายแกต่างหากที่ผิดเผาควันรบกวนบ้านเราเราเดือดร้อนเราไปขอความเห็นใจแต่กลับโดนโบ้ยกลับซะงั้น เราก็บอกยายเราไปถ้าเค้าอยากไปเเจ้งก็ไปแจ้ง เราไม่กลัวขึ้นศาลก็ขึ้น แต่เราไม่รวยแบบแกเราไม่รู้ว่าแกทำอะไรได้บ้าง แกก็ถ่ายรูปที่เผาอะไรต่าง ๆ นา ๆ ไปเป็นหลักฐานให้ตำรวจว่านี่นะเผาในที่ตัวเองไม่ได้ไปเผาในที่คนอื่น แล้วแกก็ไปใส่ไฟเรากับเพื่อนบ้านและญาติ ๆ ของแกว่าเราน่ะไปต่อว่าแกอย่างนู้นอย่างนี้เกิดมาลูกหลานก็ไม่เคยว่าให้ขนาดนี้ เเล้วลูกหลานแกก็เสริมขึ้นว่าทำไมวันนั้นชั้นไม่อยู่ด้วยนะ (เราเดาเอาว่าเค้าคงหมายความว่าอินี่เจอดีแน่ถ้ากูอยู่ด้วยตอนนั้น) ทั้งหมดที่เล่ามาทำเราปวดหัวมาก ๆ ไม่หน้าไปมีปัญหากับพวกชาวบ้านเลย แต่เราก็เป็นอย่างนี้ทนกับสิ่งที่มาเบียดเบียนเราไม่ได้ มาเอาเปรียบมาสร้างความเดือดร้อน ทำลายคุณภาพชีวิตเรา เราทนไม่ได้ เราจึงทำไปอย่างที่เล่ามา
สิ่งที่อยากจะถามต่อไปนี้คือ
1.) แกจะไปฟ้องเราข้อหาหมิ่นประมาท หรือบุกรุกบ้านแกได้หรือไม่ ?
2.) ถ้าเกิดศาลพิสูจน์ว่าเราไม่ผิด เราฟ้องกลับได้หรือไม่ ?
3.) เราจะไปขอความคุ้มครองได้หรือไม่ ? เพราเรากลัวจะโดนทำร้ายภายหลัง
4.) หลักฐานเรื่องรูปที่แกถ่ายไป รูปตรงที่เผาขยะในบ้านแก ใช้ได้ดหรอคะ ? เราว่าถึงจะเผาในพื้นที่บ้านตัวเองแต่ส่งกลิ่นรบกวนผู้อื่นมันผิดนะ ตำรวจเค้า จะรับเเจ้งความไหม ?
รบกวนช่วยเราด้วยบ้านเราก็ไม่ได้รวยฐานะปานกลาง ที่บ้านก็ไม่มีใครเป็นข้าราชการ ไม่รู้จักคนใหญ่คนโตที่ไหนเลย ณ จุดนี้เราไม่กลัวเรื่องที่เค้าจะฟ้องเราหรอก เรากลัวเเต่ถ้าพวกนั้นมันคิดจะทำร้ายเราจริง ๆ เเล้ว เราเป็นอะไรขึ้นมากลัวจะไม่มีคนดูเเลพ่อกับแม่ เราเสียน้องชายไปคนนึง ตอนนี้พ่อกับแม่ก็มีเราคนเดียวที่หวังพึงได้ เรานึกไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าจะทำยังไง กลุ้มมากเครียดมาก เราก็ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อยให้ใครเลยอยู่เงียบ ๆ มาตลอด เราก็ตั้งใจเรียนสุด ๆ หวังอยากเลี้ยงดูพ่อแม่ให้สุขสบาย อยากมีอาชีพเป็นหมอ อยากทำประโยชน์ให้คนอื่นที่เค้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็หวังจะรักษา ถึงตอนนี้จะยังไม่ถึงฝัน ถึงจะซิ่วมาหลายปีก็ตาม แต่ยังไงก็จะสู้ตั้งใจเเละทำให้ได้
แต่เรื่องนี้มาบั่นทอนกำลังใจเราเหลือเกิน ช่วยเราด้วย T T
ปล. เราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ พ่อเเม่เราทำงานอยู่กรุงเทพค่ะ อยู่กับยายกับป้าที่บ้านมีแต่ผู้หญิง
เราผิดมากเหรอที่ต่อสู้เพื่อสิทธิที่จะอยู่อย่างปกติสุข ?
ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ เราอายุ 21 ปี เราเป็นภูมิแพ้ได้กลิ่นอะไรเเรง ๆ ไม่ได้ จะหายใจไม่ค่อยออกจะเกิดอาการหอบทันที เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนบ้านเราเผาอะไรไม่รู้เผาบ่อยมากเหลือเกิน จนเราทนไม่ไหวเราบอกคนที่บ้านที่เป็นผู้ใหญ่ไปคุยให้หน่อยเราไม่ไหวจริง ๆ สุขภาพเราเเย่มาก ยังไม่รวมถึงสุขภาพจิตที่ตามมา ซึมเศร้าโดยไม่รู้สาเหตุ หงุดหงิดง่าย ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลย ที่บ้านเราเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยอดเอาไม่ได้เหรอไม่อยากให้มีเรื่องกับเพื่อนบ้าน เค้าอยู่ก่อนมาหลายปี คือเราพึ่งย้ายจากในเมืองมาอยู่ได้สามปี บ้านข้างซ้ายเป็นบ้านเลี้ยงไก่ เเต่เราไม่ได้กลิ่นขี้ไก่หรืออะไรนะ ข้างขวาติดทุ่งนาประมาณหนึ่งไร่ ด้านหน้าเราก็มีบ้านคนอยู่หลายหลัง เอาเป็นว่าบ้านเราอยู่ท้ายซอยเเต่ก็มีบ้านคนอยู่เต็มเเละเป็นเขตชุมชน จึงไม่เหมาะที่จะเผาอะไรส่งเดช เราเข้าใจว่าคนพวกนั้นเค้าอยู่กันมานานอาจจะเหม็นหรือไม่เหม็นเราไม่รู้ได้ เเต่ที่แน่ ๆ ไม่มีใครกล้าไปบอกแกเรื่องเผานู่นนี่นั่นคงจะเกรงใจกันเพราะอยู่กันมานาน ตอนเรามาอยู่สามปีก่อนเราไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลยนะคะ พึ่งมาได้กลิ่นเมื่อต้นปี เดือนมกราคม ซึ่งเราก็ไปสืบหากลิ่นด้านซ้ายบ้านเราเลยไปประมาณ 300 เมตร มีเตาเผาถ่านอยู่ 2 เตา ใส่แกลบด้วนนะคะกลิ่นไม่ธรรมดาจริง ๆ ซึ่งเราก็ได้เเจ้งเทศบาลให้ไประงับการเผาเป็นที่เรียบร้อยเเล้วจบเคสนี้ไป ไม่มีปัญหาอะไร ชาวบ้านก็ลือกันว่าบ้านเรานี่แหละเป็นคนไปแจ้ง เพราะเราก็ออกไปถาม ๆ คนแถวนั้นอยู่ว่าใครเผาอะไรทำไมเหม็นจัง แต่ก็ไม่มีใครรู้เราก็ไปสืบหาเอาเอง
เรื่องที่มีปัญหาก็คือบ้านถัดจากบ้านตรงข้ามกับบ้านเรา บ้านแกปลูกกล้วยมั้งคะแต่ไม่ค่อยมาก มีที่นาด้วยนิดหน่อยเอะอะแกก็จะเผา ๆๆ ไม่รู้เผาอะไรนักหนาควันงี้ลอยเข้าบ้านเราเสื้อผ้าตากไว้ก็เหม็นไปหมด เราบอกคนที่บ้านไปคุยก็ไม่มีใครไป คือเราอยากให้ไปคุยดี ๆ ก่อนเพราะเห็นเป็นบ้านใกล้เรือนเคียง สรุปพูดไปก็ไม่มีใครไป เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ที่ผ่านมานี้ แกก็เผาอีกแต่ว่าวันนั้นควันเยอะมากเราสำลักเหมือนไฟไหมป่าเลย เราเลยตัดสินใจไปคุยเอง เราก็ไปพูดกับแก่ดีมากเลยนะคะ เสียงนุ่มนวลกว่าปกติ บอกถึงปัญหาความเดือดร้อนที่เราได้รับ เราก็ถามแกว่ามีทางเป็นไปได้ไหมที่จะไม่เผา เก็บใส่ถุงดำให้รถขยะเขามาเก็บไปได้ไหม คือเขาก็มาเก็บทุกเช้าอยู่นะคะตา ตาแกก็อ้างว่า เผาในที่ตัวเองฉันไม่ผิด เผาตั้งไกล (จริง ๆ เเล้วใกล้มากค่ะ เดินจากบ้านเราไปยี่สิบก้าวถึงหน้าบ้านตาแก) เราก็บอกว่าควันมันลอยไปทั่วนะคะตา ลอยไปเป็นกิโล ๆ เราจะมีทางร่วมมือกันแก้ปัญหาได้ไหม ตาแกก็บอกว่า งั้นก็ไปบอกรถขยะให้มาเก็บสิ เขาไม่เก็บไปหนิ เราเลยบอกว่าได้ค่ะเดี๋ยวหนูบอกให้เค้ามาเก็บให้นะคะ ทีนี้ตาแกก็ของขึ้นเลยเรางงมาก ขึ้นเสียงใส่เราว่า ไปบอกสิบอกให้เค้ามาเก็บ เเล้วเสียเงินร้อยหนึ่งให้เขาด้วยนะ ! (เรานี่อึ้งเลย นี่ตาแกเห็นเเต่เงินร้อยนึงแต่เลือกมาทำลายสุขภาพคนอื่น เราได้ยินมาว่าบ้านตาแกน่ะรวยมากขายที่ได้เงินเป็นร้อย ๆ ล้าน เราลืมบอกไปยังไม่รวมถึงแก่ใช้ฟืนหุงต้มอาหารด้วยนะคะ เหม็นอยู่เหมือนกันแต่ไม่แรง ทนเอาเห็นว่าทำมาหากิน งงอยู่เหมือนกันว่ามีเงินเยอะขนาดนั้นทำไมไม่ใช้เตาแก๊ส) แล้วก็ว่าไปเรื่อยว่าเราน่ะมาอยู่ทีหลัง จากนั้นเมียแกก็มาสบทบเราก็นึกว่าเมียแกจะพูดเข้าใจ แต่ที่ไหนได้มาช่วยกันรุมด่าเรา ว่าเผานิด ๆ หน่อย ๆ ก็เหม็นไม่ได้เผาแกลบเผาถ่านทั้งคืนสักหน่อย ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ก็ไปอยู่ย้ายบ้านไปอยู่คนเดียวสิ !! เราอึ้งอย่างเเรงคนแบบนี้ก็มีด้วย ต่อว่าเราว่าอย่ามาเก่งเเถวนี้ !! เราก็บอกเขาไปด้วยแล้วนะว่าเราน่ะแพ้ควันเป็นหอบหืด แกสองผัวเมียไม่รับฟังปัญหาของคนอื่นเลย ไล่เราบอกไปเอายายมาคุย ท้าเราไปแจ้งมาเลยเทศบาลน่ะ ไม่กลัวหรอก เราหมดความอดทนจริง ๆ เลยบอกแกไปว่า ได้ งั้นตาก็รอคุยกับเทศบาลเอาเเล้วกันนะคะ จากนั้นเราก็หันหลังเดินกลับบ้านเรา แล้วเเจ้งเทศบาลทันที วันรุ่งขึ้นเทศบาลมาบ้านแกตอนนั้นเรานอนเพลียมากไม่ได้ตื่นออกไปดู แต่ยายเราไปคุย พร้อมกับเทศบาล ตากับยายแกก็อ้างว่าเผาในที่ตัวเองอีกตามเคย ว่าตนนั้นไม่ผิด เทศบาลก็ไม่เห็นจะทำอะไรเลยนะเท่าที่ยายเล่ามาเห็นพูด ๆ นิดหน่อยก้กลับ เเล้วตาแกก็ว่าเราน่ะผิดที่ไปต่อว่าแกถึงบ้านไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ (เท่าที่เราจำได้ เราไม่ได้ต่อว่าตากับยายแกเลย เราก็รู้กาลเทศะอยู่พอสมควร ) ยายเราก็ไปขอโทษขอโพยแทนเราทั้งที่เราไม่ผิดอะไรเลย หนำซ้ำยังฝากยายเรามาบอกเราด้วยว่าให้ไปขอโทษแก ไม่งั้นไม่ยอม แกจะไปแจ้งความข้อหาว่าเราหมิ่นประมาทแก ว่าเราบุกรุกบ้านแก ใส่รองเท้าเข้าไปเดินในบ้านแก ไปตั้งสองครั้ง ( เรางงไปสองครั้งตอนไหน พึ่งไปคุยวันนั้นวันแรก แล้วเรื่องใส่รองเท้าเข้าบ้าน เรายืนอยู่หน้าบ้านแท้ ๆ เราก็ยืนเรียกว่ามีคนอยู่ไหมคะ อยู่หน้าบ้าน เเต่บ้านแกเป็นแบบ ไม่ปิดประตูหน้าบ้าน เรายืนอยู่หน้าบ้านนิดเดียวเองเป็นที่จอดรถด้วยเราไม่รู้ว่าต้องถอดรองเท้าด้วย เเต่ไม่ได้เข้าไปในตัวบ้าน ก็ยืนคุยกับตายายแกปกติตอนเเรก ๆ เพราะแกก็ไม่ได้ไล่เราไปตั้งเเต่ตอนเเรก เราก็คุยกับแกเหมือนที่เราเล่าไปนั่นแหละ ที่ว่าเราไปบ้านแกสองครั้ง อาจจะไม่เชิงเราแค่เดินผ่านหน้าบ้านแก่ ตรงที่ถนนหน้าบ้านที่รถวิ่งนั่นแหละค่ะ เราไม่ได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคล เเต่เรานอนไม่หลับออกไปเดินสืบกลิ่นว่ามาจากทางไหนแต่ก็นานมามากแล้วนะคะแกคงเห็นเราเดินผ่านไปมั้งจำเอามาพูด )
สรุปเราไม่ไปขอโทษ เราไม่ผิด ตากับยายแกต่างหากที่ผิดเผาควันรบกวนบ้านเราเราเดือดร้อนเราไปขอความเห็นใจแต่กลับโดนโบ้ยกลับซะงั้น เราก็บอกยายเราไปถ้าเค้าอยากไปเเจ้งก็ไปแจ้ง เราไม่กลัวขึ้นศาลก็ขึ้น แต่เราไม่รวยแบบแกเราไม่รู้ว่าแกทำอะไรได้บ้าง แกก็ถ่ายรูปที่เผาอะไรต่าง ๆ นา ๆ ไปเป็นหลักฐานให้ตำรวจว่านี่นะเผาในที่ตัวเองไม่ได้ไปเผาในที่คนอื่น แล้วแกก็ไปใส่ไฟเรากับเพื่อนบ้านและญาติ ๆ ของแกว่าเราน่ะไปต่อว่าแกอย่างนู้นอย่างนี้เกิดมาลูกหลานก็ไม่เคยว่าให้ขนาดนี้ เเล้วลูกหลานแกก็เสริมขึ้นว่าทำไมวันนั้นชั้นไม่อยู่ด้วยนะ (เราเดาเอาว่าเค้าคงหมายความว่าอินี่เจอดีแน่ถ้ากูอยู่ด้วยตอนนั้น) ทั้งหมดที่เล่ามาทำเราปวดหัวมาก ๆ ไม่หน้าไปมีปัญหากับพวกชาวบ้านเลย แต่เราก็เป็นอย่างนี้ทนกับสิ่งที่มาเบียดเบียนเราไม่ได้ มาเอาเปรียบมาสร้างความเดือดร้อน ทำลายคุณภาพชีวิตเรา เราทนไม่ได้ เราจึงทำไปอย่างที่เล่ามา
สิ่งที่อยากจะถามต่อไปนี้คือ
1.) แกจะไปฟ้องเราข้อหาหมิ่นประมาท หรือบุกรุกบ้านแกได้หรือไม่ ?
2.) ถ้าเกิดศาลพิสูจน์ว่าเราไม่ผิด เราฟ้องกลับได้หรือไม่ ?
3.) เราจะไปขอความคุ้มครองได้หรือไม่ ? เพราเรากลัวจะโดนทำร้ายภายหลัง
4.) หลักฐานเรื่องรูปที่แกถ่ายไป รูปตรงที่เผาขยะในบ้านแก ใช้ได้ดหรอคะ ? เราว่าถึงจะเผาในพื้นที่บ้านตัวเองแต่ส่งกลิ่นรบกวนผู้อื่นมันผิดนะ ตำรวจเค้า จะรับเเจ้งความไหม ?
รบกวนช่วยเราด้วยบ้านเราก็ไม่ได้รวยฐานะปานกลาง ที่บ้านก็ไม่มีใครเป็นข้าราชการ ไม่รู้จักคนใหญ่คนโตที่ไหนเลย ณ จุดนี้เราไม่กลัวเรื่องที่เค้าจะฟ้องเราหรอก เรากลัวเเต่ถ้าพวกนั้นมันคิดจะทำร้ายเราจริง ๆ เเล้ว เราเป็นอะไรขึ้นมากลัวจะไม่มีคนดูเเลพ่อกับแม่ เราเสียน้องชายไปคนนึง ตอนนี้พ่อกับแม่ก็มีเราคนเดียวที่หวังพึงได้ เรานึกไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าจะทำยังไง กลุ้มมากเครียดมาก เราก็ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อยให้ใครเลยอยู่เงียบ ๆ มาตลอด เราก็ตั้งใจเรียนสุด ๆ หวังอยากเลี้ยงดูพ่อแม่ให้สุขสบาย อยากมีอาชีพเป็นหมอ อยากทำประโยชน์ให้คนอื่นที่เค้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็หวังจะรักษา ถึงตอนนี้จะยังไม่ถึงฝัน ถึงจะซิ่วมาหลายปีก็ตาม แต่ยังไงก็จะสู้ตั้งใจเเละทำให้ได้
แต่เรื่องนี้มาบั่นทอนกำลังใจเราเหลือเกิน ช่วยเราด้วย T T
ปล. เราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ พ่อเเม่เราทำงานอยู่กรุงเทพค่ะ อยู่กับยายกับป้าที่บ้านมีแต่ผู้หญิง