วันนี้ผมมาหาหลวงพ่ออีกครั้ง
มาทำไมอีกล่ะโยม อย่างโยมไม่ต้องมาวัดก็ได้ อะไร ๆ ก็รู้หมดแล้ว
ผมตั้งใจมาสนทนาธรรมกับหลวงพ่อครับ
หลวงพ่อ ไม่มีธรรมะจะพูด โยม
งง งง ต่างคนต่างเงียบ
หลวงพ่อครับ ตกลงหลวงพ่อจะไม่พูดธรรมะอะไร ? ให้โยมฟังจริง ๆ หรือครับ
ก็หลวงพ่อบอกโยมแล้ว ว่าไม่มีอะไรจะพูด ?
งงหนักขึ้นไปอีก เงียบ ต่างคนต่างเงียบไปพักใหญ่ เริ่มคิดในใจว่า มันต้องมีอะไร ? ที่เราไม่เข้าใจในคำพูดของหลวงพ่อหรือเปล่า ? พอคิดได้ จึงถามหลวงพ่อว่า
หลวงพ่อครับ ไหน ๆ หลวงพ่อก็ไม่มีอะไร ? จะพูดแล้ว ช่วยอธิบายให้โยมเข้าใจหน่อยได้ไหมครับ ? ทำไมหลวงพ่อจึงไม่มีอะไรจะพูด ?
หลวงพ่อตอบว่า โยม ไอ้ที่พูดๆ อยู่นี่ มันคิดเอาทั้งนั้นแหละโยม ถ้าโยมไม่คิดแล้วจะมีอะไรมาพูดไหม ? โยมลองพิจารณาดูดีดีซิ พิจารณาโยม พิจารณา อย่าคิดแต่จะตอบจะโต้ โยม
อึ้งทึ่งไปชั่วครู่ (ทำไมหลวงพ่อรู้ใจ กำลังคิดหาเหตุผลที่จะตอบจะโต้ตามสันดานเดิมอยู่จริง ๆ ) คิดไปคิดมา เออ มันก็จริงอย่างหลวงพ่อว่า ถ้าไม่คิดแล้วจะมีอะไร ๆ มาพูด เลยพยักหน้ายอมรับ แล้วตอบว่า จริงของหลวงพ่อ
หลวงพ่อพูดต่อว่า พอไปรู้อะไร ? ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ มันก็หลงสิ่งนั้น แล้วก็คิดเรื่องราวต่าง ๆ ของสิ่งนั้นขึ้นมา ทำให้ถูกหลอกให้สุขบ้าง ทุกข์บ้าง กับความคิดนั้นแหละ ความคิดเก่าดับ ความคิดใหม่ก็เกิด มันเลยถูกหลอกให้สุข ให้ทุกข์ วนเวียนอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา โยมว่าจริงไหม ? โยม
ผมพยักหน้าตอบว่า จริงครับหลวงพ่อ
ทำไมพระพุทธองค์จึงตรัสบอกไว้ว่า ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้ว ไม่มีอะไรเกิด ไม่มีอะไรดับ ก็เพราะมันหลงตลอดเวลาไง โยม
จริงครับหลวงพ่อ
จิตเกิดเป็นทุกข์ ต้องรู้ทันมันทุกเวลานาทีว่า จิตมันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา จะได้ไม่หลงทุกข์ไปกับมัน พอแค่นี้นะโยม ยิ่งคิดยิ่งพูด ก็ยิ่งหลง ไป ไป ไปนั่งภาวนาหน้าพระประธานนั่น ไป
ด้วยคำพูดของหลวงพ่อ ทำให้ความโอหัง อวดเก่ง อวดดี ของผมถูกทำให้หดหัวลง (ตอน 2)
มาทำไมอีกล่ะโยม อย่างโยมไม่ต้องมาวัดก็ได้ อะไร ๆ ก็รู้หมดแล้ว
ผมตั้งใจมาสนทนาธรรมกับหลวงพ่อครับ
หลวงพ่อ ไม่มีธรรมะจะพูด โยม
งง งง ต่างคนต่างเงียบ
หลวงพ่อครับ ตกลงหลวงพ่อจะไม่พูดธรรมะอะไร ? ให้โยมฟังจริง ๆ หรือครับ
ก็หลวงพ่อบอกโยมแล้ว ว่าไม่มีอะไรจะพูด ?
งงหนักขึ้นไปอีก เงียบ ต่างคนต่างเงียบไปพักใหญ่ เริ่มคิดในใจว่า มันต้องมีอะไร ? ที่เราไม่เข้าใจในคำพูดของหลวงพ่อหรือเปล่า ? พอคิดได้ จึงถามหลวงพ่อว่า
หลวงพ่อครับ ไหน ๆ หลวงพ่อก็ไม่มีอะไร ? จะพูดแล้ว ช่วยอธิบายให้โยมเข้าใจหน่อยได้ไหมครับ ? ทำไมหลวงพ่อจึงไม่มีอะไรจะพูด ?
หลวงพ่อตอบว่า โยม ไอ้ที่พูดๆ อยู่นี่ มันคิดเอาทั้งนั้นแหละโยม ถ้าโยมไม่คิดแล้วจะมีอะไรมาพูดไหม ? โยมลองพิจารณาดูดีดีซิ พิจารณาโยม พิจารณา อย่าคิดแต่จะตอบจะโต้ โยม
อึ้งทึ่งไปชั่วครู่ (ทำไมหลวงพ่อรู้ใจ กำลังคิดหาเหตุผลที่จะตอบจะโต้ตามสันดานเดิมอยู่จริง ๆ ) คิดไปคิดมา เออ มันก็จริงอย่างหลวงพ่อว่า ถ้าไม่คิดแล้วจะมีอะไร ๆ มาพูด เลยพยักหน้ายอมรับ แล้วตอบว่า จริงของหลวงพ่อ
หลวงพ่อพูดต่อว่า พอไปรู้อะไร ? ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ มันก็หลงสิ่งนั้น แล้วก็คิดเรื่องราวต่าง ๆ ของสิ่งนั้นขึ้นมา ทำให้ถูกหลอกให้สุขบ้าง ทุกข์บ้าง กับความคิดนั้นแหละ ความคิดเก่าดับ ความคิดใหม่ก็เกิด มันเลยถูกหลอกให้สุข ให้ทุกข์ วนเวียนอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา โยมว่าจริงไหม ? โยม
ผมพยักหน้าตอบว่า จริงครับหลวงพ่อ
ทำไมพระพุทธองค์จึงตรัสบอกไว้ว่า ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้ว ไม่มีอะไรเกิด ไม่มีอะไรดับ ก็เพราะมันหลงตลอดเวลาไง โยม
จริงครับหลวงพ่อ
จิตเกิดเป็นทุกข์ ต้องรู้ทันมันทุกเวลานาทีว่า จิตมันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา จะได้ไม่หลงทุกข์ไปกับมัน พอแค่นี้นะโยม ยิ่งคิดยิ่งพูด ก็ยิ่งหลง ไป ไป ไปนั่งภาวนาหน้าพระประธานนั่น ไป