ลัทธิ ไซเอนโทโลจี

“ไซเอนโทโลจี” (Scientology) ลัทธิสุดอื้อฉาวในสหรัฐที่มีดาราคนดังจำนวนมากเลื่อมใส ไม่ว่าจะเป็น จอห์น ทราโวลตา วิล สมิธ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทอม ครูส  ลัทธิ “ไซเอนโทโลจี” ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2495 โดย แอล. รอน ฮับบาร์ท นักเขียนชาวอเมริกัน โดยปัจจุบันนั้นมีผู้เลื่อมใสกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก

ไซเอนโทโลจี เชื่อว่าร่างกายมนุษย์ทุกคนแท้จริงแล้วมีวิญญาณของ “มนุษย์ต่างดาว” ติดแหง็กอยู่ภายใน ดังนั้นผู้ที่ได้รับการศึกษาแบบไซเอนโทโลจีเท่านั้น จึงสามารถ “ปลดแอก” ร่างวิญญาณนี้ได้ ซึ่งจะทำให้มนุษย์สามารถดึงศักยภาพที่แท้จริงออกมาใช้ได้เม่าปัดรังควาน


หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ เป็นการสอนให้คนฝึกฝนจิตใจ หรือที่สาวกไซเอนโทโลจีเรียกว่าการ “ออดิต” โดยจะมุ่งเน้นให้สมาชิกรื้อฟื้นความรู้สึก “เจ็บปวด” และ “โศกเศร้า” จากเหตุการณ์ในอดีต ผ่านการบำบัดจิตผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เช่น การห้ามร้องระหว่างการคลอดบุตร ทั้งที่เรื่องนี้ถือเป็นความเจ็บปวดแสนสาหัสในชีวิตลูกผู้หญิง


แม้ในช่วงแรกโซเอนโทโลจีพยายามดำเนินการอย่างลับๆ ด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้ตกเป็นข่าว ทว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลักคิดและแนวทางปฏิบัติของลัทธิดังกล่าวก็ได้นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง

ไล่เรียงตั้งแต่กฎสุดโหดอย่างการสั่งห้ามสมาชิกคบหาสมาคมกับพวก “นอกรีต” หรือคนที่ไม่ได้นับถือไซเอนโทโลจี โดยแม้กระทั่ง “ครอบครัว” ก็ยังไม่เว้น รวมทั้งข้อกล่าวหาที่ว่าทางลัทธิต้องการขูดรีดเงินประชาชน เนื่องจากเรียกเก็บค่าสมาชิกแพงหูฉี่ ซึ่งจะปรับเพิ่มขึ้นตามความแอดวานซ์ของ “ขั้น” ที่แต่ละคนอยู่


จากความเห็นของรูเพิร์ต เมอร์ด็อก เจ้าพ่อสื่อแห่งอาณาจักรนิวส์ คอร์ป ซึ่งทวิตจนเป็นข่าวไปทั่วโลกนั้น ได้อ้างว่า ทอม ถือเป็นสาวกลำดับต้นๆ เบอร์ 2 หรือ 3 ของลัทธินี้เสียด้วยเพี้ยนชนะเลิศ

กรณีที่เพิ่งกลายเป็นข่าวล่าสุดก็คือ ประเด็นของสมาคม “ซี ออร์แกไนเซชัน” (Sea Organization) ศูนย์ปฏิบัติการลับของไซเอนโทโลจี ที่แทบลอยด์แฉว่า ทอม ครูซ เตรียมพาหนูน้อย ซูริไปเรียนรู้หลักคำสอนของไซเอนโทโลจีที่นั่นเม่าตกใจ

ทั้งนี้ หากมองผิวเผิน ซี ออร์แกไนเซชัน นั้นดูไม่ต่างอะไรจากรีสอร์ตหรูเลย โดยมีทั้งคฤหาสน์หรู สนามบาสเกตบอลและเทนนิส พื้นที่กว้างไพศาล และอยู่ติดภูเขาและแม่น้ำ

ทว่า บรรดาอดีตสมาชิกและผู้ที่เคยอาศัยอยู่ที่ ซี ออร์แกไนเซชัน เปิดโปงว่า สถานที่แห่งนี้คือ “ค่ายนรก” ที่มีไว้เพื่อทรมานและใช้แรงงานเยาวชนเยี่ยงทาสนั่นเอง!

เพราะมีทั้ง “บังเกอร์” สำหรับนักแม่นปืน รั้วลวดหนาม และระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ราวกับว่าป้องกันไม่ให้ใครแอบเข้ามา และที่สำคัญคือ “หนี” ออกนอกบริเวณ!เม่านอนไม่หลับ

“พวกเขาจะทุบตีและลงโทษคุณด้วยวิธีต่างๆ นานา หากคุณละเมิดกฎ เช่น ให้สารภาพบาปทั้งคืน หรือปิดแอร์ขณะที่อุณหภูมิภายนอกพุ่งสูงถึง 40 องศา” อดีตสมาชิกของไซเอนโทโลจี กล่าว โดยย้ำว่าหากใครหนี ทางผู้ใหญ่ก็จะตามล่าจนเจอ และใช้วิธีขู่โน้มน้าวให้กลับจนได้ หรือบางทีก็จะยื่นบิลหลายพันเหรียญสหรัฐให้ พร้อมสั่งว่า “หากคิดจะออกก็ต้องจ่ายหนี้ให้ครบ”เพี้ยนไฟลุก Credit .goosiam
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่