ขอระบายความอัดอั้นตันใจหน่อยนะคะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย.58 เราได้เข้าไปร้านวีรสิทธิ์ผ้าม่าน (สาขาบางบัวทอง) ร้านนี้มี 2 สาขา อีกสาขาอยู่ที่บ้านกล้วย เพื่อประเมินราคาม่านคอนโด จำนวน 2 ชุด (ผ้า UV + ผ้าโปร่ง)
ในร้านมีคุณลุงและคุณป้า (เป็นพ่อและแม่ของเจ้าของร้าน และเป็นช่างติดม่านด้วย) เราได้ให้ขนาดผ้าม่านที่ต้องการกับคุณลุงไป และคุณลุงได้ตีราคามาซึ่งเป็นราคาที่เราโอเค จึงตกลงจะจ้างร้านนี้และนัดให้ลุงเข้าไปวัดหน้างานจริงในวันพุธที่ 29 เม.ย.58 เวลา 10.00 น. เราจึงเดินทางไปที่คอนโดย่านสีลม (บ้านเราอยู่บางบัวทอง) จนเวลา 10.30 น. ก็ยังไม่มีช่างมาแต่อย่างใด เราจึงโทรไปที่เบอร์ตามนามบัตร ปรากฏเป็นลูกสาวลุง (เจ้าของร้าน) รับสาย ใจความดังนี้
เจ้าของร้าน : หนูไม่รู้เรื่องเลย สงสัยพ่อลืม ทำไมนัดกับพ่อ ทำไมไม่นัดตรงกับหนู
เรา : อ้าว...พี่จะไปทราบได้อย่างไรว่าต้องนัดกับใคร ในเมื่อพี่เข้าไปถึงร้านและก็มีคนตีราคาและรับนัด พี่นัดกับคุณพ่อคุณแล้วทำไมคุณไม่ประสานงานกัน
ให้ดีล่ะ
เจ้าของร้าน : เราประสานงานกันดีอยู่แล้วค่ะ
เรา : ถ้าคุณประสานงานกันดีแล้ว คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้หรอก
เจ้าของร้าน : ขอโทษละกันค่ะ ตอนนี้ไม่ว่างค่ะ ติดงาน 2 ที่ เย็น ๆ ค่ำ ๆ พี่รอได้มั๊ย จะได้ให้คนเข้าไปวัดพื้นที่
เรา : โห...พี่อยู่ได้ถึงแค่เที่ยงอ่ะค่ะ (นึกในใจ...คนมีงานต้องทำจะให้มานั่งรอถึงเย็น)
เจ้าของร้าน : งั้นคงไม่ทันค่ะ
เรา : (อึ้งกับคำพูดที่ไม่แยแสลูกค้า และน้ำเสียงที่ไม่มีความรู้สึกผิด) จึงวางสายไป
พอเราขับรถกลับบ้าน จึงแวะที่ร้านซึ่งเป็นทางผ่าน พบคุณป้า (แม่เจ้าของร้าน) แฟนเราจึงถามว่าตกลงจะยังไงครับจะเข้าไปวัดใหม่ได้เมื่อไหร่ คุณป้าจึงให้คุยสายกับเจ้าของร้าน ใจความดังนี้
แฟนเรา : เนี่ยคุณนัดแล้วก็ไม่เป็นนัด ตกลงยังไงครับ
เจ้าของร้าน : หนูขอโทษไปแล้วนี่คะ (กับการขอโทษแบบขอไปที)
แฟนเรา : เรื่องนั้นให้มันจบๆไป แล้วจะไปวัดใหม่ได้เมื่อไหร่ล่ะ
เจ้าของร้าน : พี่จะให้หนูไปวัดแล้วไม่จ้างหนู มันต้องมีค่าใช้จ่ายนะคะ
แฟนเรา : ก็ผมจะจ้างคุณนี่ไง ถึงได้ให้คุณไปวัดพื้นที่ให้ชัวร์ ที่ผมไม่ชัวร์คือจะเอากล่องบังรางม่านด้วยหรือเปล่า แต่ผ้าม่านเนี่ยจะจ้างคุณแน่นอน
เจ้าของร้าน : เรื่องราคาต้องตีราคากันใหม่นะคะ
แฟนเรา : อ้าว เรื่องราคาคุยกันจบแล้วนี่ พ่อคุณตีราคาให้แล้วอ่ะ ไปวัดพื้นที่ใหม่ก็คงคลาดเคลื่อนกันไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง
เจ้าของร้าน : นั่นเป็นราคาที่พ่อหนูตี นี่ร้านหนูค่ะ หนูต้องเป็นคนตีเอง วัดเอง พ่อไม่รู้ราคา
แฟนเรา : อ้าว แล้วคุณจะมีหน้าร้านไว้ทำไม แล้วคุณก็ไม่อยู่ร้านตีราคาเอง ผมไปที่ร้านให้คนตีราคา แต่คุณกลับบอกว่าราคานั้นไม่ใช่
วันหลังคุณก็บอกพ่อคุณสิว่าไม่ให้ตีราคา ให้คุณตีได้คนเดียว
เจ้าของร้าน : บลา บลา บลา (ประมาณว่าไม่สน ยังไงก็ต้องให้เค้าตีราคา)
แฟนเรา : พอเหอะ ๆ มีปัญหามากนักก็ไม่ต้องทำ ทำธุรกิจอย่างกับเล่นขายของ ไม่มีความรับผิดชอบ แถไปเรื่อย (จึงวางสายไป)
เราจึงพากันออกจากร้าน และไม่คิดไปเหยียบร้านที่ไม่มีความรับผิดชอบและแถไถไปได้เรื่อยร้านนี้อีกเลย "ร้านวีรสิทธิ์ ผ้าม่าน" บางบัวทอง
คุณจะใช้บริการร้านผ้าม่านที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบร้าน "วีรสิทธิ์ผ้าม่าน บางบัวทอง" ไหมคะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย.58 เราได้เข้าไปร้านวีรสิทธิ์ผ้าม่าน (สาขาบางบัวทอง) ร้านนี้มี 2 สาขา อีกสาขาอยู่ที่บ้านกล้วย เพื่อประเมินราคาม่านคอนโด จำนวน 2 ชุด (ผ้า UV + ผ้าโปร่ง)
ในร้านมีคุณลุงและคุณป้า (เป็นพ่อและแม่ของเจ้าของร้าน และเป็นช่างติดม่านด้วย) เราได้ให้ขนาดผ้าม่านที่ต้องการกับคุณลุงไป และคุณลุงได้ตีราคามาซึ่งเป็นราคาที่เราโอเค จึงตกลงจะจ้างร้านนี้และนัดให้ลุงเข้าไปวัดหน้างานจริงในวันพุธที่ 29 เม.ย.58 เวลา 10.00 น. เราจึงเดินทางไปที่คอนโดย่านสีลม (บ้านเราอยู่บางบัวทอง) จนเวลา 10.30 น. ก็ยังไม่มีช่างมาแต่อย่างใด เราจึงโทรไปที่เบอร์ตามนามบัตร ปรากฏเป็นลูกสาวลุง (เจ้าของร้าน) รับสาย ใจความดังนี้
เจ้าของร้าน : หนูไม่รู้เรื่องเลย สงสัยพ่อลืม ทำไมนัดกับพ่อ ทำไมไม่นัดตรงกับหนู
เรา : อ้าว...พี่จะไปทราบได้อย่างไรว่าต้องนัดกับใคร ในเมื่อพี่เข้าไปถึงร้านและก็มีคนตีราคาและรับนัด พี่นัดกับคุณพ่อคุณแล้วทำไมคุณไม่ประสานงานกัน
ให้ดีล่ะ
เจ้าของร้าน : เราประสานงานกันดีอยู่แล้วค่ะ
เรา : ถ้าคุณประสานงานกันดีแล้ว คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้หรอก
เจ้าของร้าน : ขอโทษละกันค่ะ ตอนนี้ไม่ว่างค่ะ ติดงาน 2 ที่ เย็น ๆ ค่ำ ๆ พี่รอได้มั๊ย จะได้ให้คนเข้าไปวัดพื้นที่
เรา : โห...พี่อยู่ได้ถึงแค่เที่ยงอ่ะค่ะ (นึกในใจ...คนมีงานต้องทำจะให้มานั่งรอถึงเย็น)
เจ้าของร้าน : งั้นคงไม่ทันค่ะ
เรา : (อึ้งกับคำพูดที่ไม่แยแสลูกค้า และน้ำเสียงที่ไม่มีความรู้สึกผิด) จึงวางสายไป
พอเราขับรถกลับบ้าน จึงแวะที่ร้านซึ่งเป็นทางผ่าน พบคุณป้า (แม่เจ้าของร้าน) แฟนเราจึงถามว่าตกลงจะยังไงครับจะเข้าไปวัดใหม่ได้เมื่อไหร่ คุณป้าจึงให้คุยสายกับเจ้าของร้าน ใจความดังนี้
แฟนเรา : เนี่ยคุณนัดแล้วก็ไม่เป็นนัด ตกลงยังไงครับ
เจ้าของร้าน : หนูขอโทษไปแล้วนี่คะ (กับการขอโทษแบบขอไปที)
แฟนเรา : เรื่องนั้นให้มันจบๆไป แล้วจะไปวัดใหม่ได้เมื่อไหร่ล่ะ
เจ้าของร้าน : พี่จะให้หนูไปวัดแล้วไม่จ้างหนู มันต้องมีค่าใช้จ่ายนะคะ
แฟนเรา : ก็ผมจะจ้างคุณนี่ไง ถึงได้ให้คุณไปวัดพื้นที่ให้ชัวร์ ที่ผมไม่ชัวร์คือจะเอากล่องบังรางม่านด้วยหรือเปล่า แต่ผ้าม่านเนี่ยจะจ้างคุณแน่นอน
เจ้าของร้าน : เรื่องราคาต้องตีราคากันใหม่นะคะ
แฟนเรา : อ้าว เรื่องราคาคุยกันจบแล้วนี่ พ่อคุณตีราคาให้แล้วอ่ะ ไปวัดพื้นที่ใหม่ก็คงคลาดเคลื่อนกันไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง
เจ้าของร้าน : นั่นเป็นราคาที่พ่อหนูตี นี่ร้านหนูค่ะ หนูต้องเป็นคนตีเอง วัดเอง พ่อไม่รู้ราคา
แฟนเรา : อ้าว แล้วคุณจะมีหน้าร้านไว้ทำไม แล้วคุณก็ไม่อยู่ร้านตีราคาเอง ผมไปที่ร้านให้คนตีราคา แต่คุณกลับบอกว่าราคานั้นไม่ใช่
วันหลังคุณก็บอกพ่อคุณสิว่าไม่ให้ตีราคา ให้คุณตีได้คนเดียว
เจ้าของร้าน : บลา บลา บลา (ประมาณว่าไม่สน ยังไงก็ต้องให้เค้าตีราคา)
แฟนเรา : พอเหอะ ๆ มีปัญหามากนักก็ไม่ต้องทำ ทำธุรกิจอย่างกับเล่นขายของ ไม่มีความรับผิดชอบ แถไปเรื่อย (จึงวางสายไป)
เราจึงพากันออกจากร้าน และไม่คิดไปเหยียบร้านที่ไม่มีความรับผิดชอบและแถไถไปได้เรื่อยร้านนี้อีกเลย "ร้านวีรสิทธิ์ ผ้าม่าน" บางบัวทอง