เรียนรับใช้ไปเมื่อวันก่อน ว่าขณะนี้ในหนังสือเดินทางแบบใหม่ของจีนตีพิมพ์ภาพแผนที่ของจีนที่รวมไต้หวันและทะเลจีนใต้เข้าไปด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังรวมเอาเขตอัคสัยจินและรัฐอรุณาจัลของอินเดียเข้า ไปอีก เรื่องนี้นำความขัดแย้งระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย เวียดนาม และอินเดีย รอบใหม่
หลายท่านคงพอจะเข้าใจเรื่องจีนกับไต้หวันและทะเลจีนใต้ แต่ยังงุนงงสงสัยว่าทำไมดินแดนของจีนไปเกี่ยวดองหนองยุ่งกับรัฐอรุณาจัลประเทศของอินเดียได้ เปิดฟ้าส่องโลกของเราก็อย่างนี้นี่แหละครับ มีหน้าที่นำเรื่องที่กำลังวุ่นวายขายปลาช่อนของโลกมาเรียนรับใช้
อรุณาจัลประเทศ เป็นรัฐหนึ่งของสาธารณรัฐอินเดีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศและอยู่ทางทิศใต้ของเทือกเขาหิมาลัยตะวันออก แต่เดิมพื้นที่ของรัฐอรุณาจัลอยู่ในรัฐอัสสัมนะครับ เพิ่งแยกออกมาตั้งเป็นรัฐใหม่เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 นี่เอง มีเมืองหลวงชื่ออิฎานคร อีกชื่อหนึ่งของรัฐอรุณาจัลประเทศคือ ‘เพชรแห่งยอดเขาหิมาลัย’ เพราะเต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติแห่งขุนเขาหิมาลัย ที่ได้ชื่อว่าอรุณาจัลประเทศ เพราะผู้คนในรัฐนี้มองเห็นพระอาทิตย์ได้ก่อนประชาชนคนอินเดียในรัฐอื่น
อรุณาจัลประเทศไม่ใช่รัฐใหญ่ มีพื้นที่เล็กกว่าภาคอีสานของไทยทั้งภาค คือประมาณ 8.4 หมื่นตารางกิโลเมตร มีพรมแดนประชิดติดกับสหภาพพม่าทางทิศตะวันออก ทางใต้จดรัฐอัสสัม ตะวันตกติดราชอาณาจักรภูฏาน ทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือติดสาธารณรัฐประชาชนจีนและทิเบต บริเวณนี้ตรงที่ติดจีนกับทิเบตนี่แหละครับ ที่มีปัญหามาจนถึงปัจจุบันทุกวันนี้ และอรุณาจัลประเทศมีพลเมืองเบาบางนะครับ ไม่ถึงล้านคน
ตรงที่เป็นเมืองสาทิยาของรัฐอรุณาจัลประเทศในปัจจุบันทุกวันนี้นั้น เดิมรวมอยู่ในอาณาจักรโบราณชื่อวิทรรภะ เมืองนี้น่าจะ มีอยู่จริงนะครับ เพราะปรากฏชื่อลือนามพร้อมเรื่องราวอยู่ในคัมภีร์ปุราณะรุ่นแรกๆ อยู่หลายเล่ม เดี๋ยวนี้ก็มีการค้นคว้าหาหลักฐานทางโบราณคดีมาประกอบ นักประวัติศาสตร์และพวกโบราณคดีก็ยืนยันตรงกันแล้วครับว่า ที่ตั้งของเมืองสาทิยาอยู่ห่างจากเมืองกัลกัตตาของรัฐเบงกอลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 575 กิโลเมตร
สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 พวกอาหม ซึ่งก็คือคนไทยจากรัฐฉาน ในพม่าเข้าไปตั้งรกรากบริเวณลุ่มแม่น้ำพรหมบุตรตอนเหนือ สมัยก่อน ตอนนั้น แถวลุ่มแม่น้ำพรหมบุตรมีอาณาจักรต่างๆ หลายแห่ง เช่น อาณาจักรจุติยะ (ของชาวเขาผสมไทยใหญ่) อาณาจักรกจารี อาณาจักรภุยยา และอาณาจักรกามรูปะ จากนั้นมาอีก 300 ปี พวกอาหมก็สามารถยึดครองดินแดนบริเวณลุ่มน้ำพรหมบุตรตอนเหนือได้ทั้งหมด จากนั้นก็ตั้งอาณาจักรขึ้นมาใหม่ชื่อว่า อาณาจักรอัสสัม
ต่อมาพวกอัสสัมแพ้พม่า จึงไปตามอังกฤษมาช่วย อังกฤษช่วยแล้วยึดอัสสัมตามสนธิสัญญายันตาโบ
ต่อมา จีนกับอินเดียทะเลาะกันเรื่องพรมแดนระหว่างอินเดียกับ ทิเบต ผู้แทนของทั้ง 3 ประเทศ คือ จีน อินเดีย ทิเบต ประชุมกันที่เมือง สิมลาเมื่อ พ.ศ.2457 ที่ประชุมตกลงให้มีเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือกับทิเบต เรียกว่า เส้นแมกมาฮอน ยาว 880 กิโลเมตรไปตามยอดเขาหิมาลัย
ส่วนใหญ่ของเส้นแบ่งเขตแดนแมกมาฮอนอยู่ในเขตของ อรุณาจัลประเทศ แต่หลังจากตกลงได้เพียง 2 วัน จีนก็ละเมิดข้อตกลง จีนยกกำลังเข้าบุกอินเดีย อินเดียกะจีนก็เลยรบกัน รบกันยืดเยื้อมาจนกระทั่งอินเดียได้รับเอกราชเมื่อ พ.ศ.2490
อินเดียต่อสู้กะจีนเพื่อรักษาดินแดนอรุณาจัลประเทศมาตลอด แถมยังตั้งหน่วยปกครองเขตแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น เรียกว่า North East Frontier Agency หรือเรียกกันอย่างย่อๆ ว่า NEFA โดยแยกดินแดนที่เป็นรัฐอรุณาจัลประเทศจากรัฐอัสสัมมาเป็นส่วนหนึ่งของ NEFA
เดือนมกราคม พ.ศ.2515 รัฐบาลอินเดียประกาศยกฐานะดินแดนที่เป็นอรุณาจัลประเทศขึ้นเป็นดินแดนในสหภาพของสาธารณรัฐอินเดีย ผมหมายถึง ให้ขึ้นกับรัฐบาลกลาง และเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 ก็ยกฐานะขึ้นเป็นรัฐหนึ่งของอินเดีย มีรัฐบาลของตนเองได้
เมื่อจีนเอาอรุณาจัลประเทศเข้าไปอยู่ในแผนที่ของประเทศตัวเองและเอาไปพิมพ์ไว้ในหน้าหนังสือเดินทาง ก็ถูกอินเดียโต้ตอบด้วยการ เมื่อนักท่องเที่ยวจีนคนไหนไปขอวีซ่าเข้าอินเดีย กระทรวงการต่างประเทศอินเดียก็จะประทับภาพแผนที่อินเดียลงไปบนวีซ่าที่ให้จีนคนนั้น เพื่อเป็นการยืนยันว่า เขตอัคสัยจินและรัฐอรุณาจัลประเทศเป็นของอินเดีย ไม่ใช่ของจีนครับ.
เครดิต
http://www.thairath.co.th/content/309397 คุณนิติ นวรัตน์
----------------------------------------------------------------------------------
แล้วเหตุการในสงครามครั้งนี้เป็นไงบ้างครับใครชนะใครเสียหายกว่ากัน
แล้วทำไมจีนพอประเทศเริ่มแข็งแกร่งถึงชอบรุกรานประเทศอื่นแบบด้านได้ อายอด แบบนี้ครับ
เคยมีภาษิตจีนบอกไว้ว่า
จีนแตกแยกเพื่อรวมเป็นหนึ่ง และรวมเป็นหนึ่งเพื่อแตกแยก
หากเป็นงั้นให้จีนแตกแยกและประเทศเพื่อนบ้านก็จะปลอดภัยใช่ไหม
บทความที่น่าจะเป็นความรู้ที่มีประโยชน์ อรุณาจัลประเทศเป็นของจีนหรืออินเดีย
หลายท่านคงพอจะเข้าใจเรื่องจีนกับไต้หวันและทะเลจีนใต้ แต่ยังงุนงงสงสัยว่าทำไมดินแดนของจีนไปเกี่ยวดองหนองยุ่งกับรัฐอรุณาจัลประเทศของอินเดียได้ เปิดฟ้าส่องโลกของเราก็อย่างนี้นี่แหละครับ มีหน้าที่นำเรื่องที่กำลังวุ่นวายขายปลาช่อนของโลกมาเรียนรับใช้
อรุณาจัลประเทศ เป็นรัฐหนึ่งของสาธารณรัฐอินเดีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศและอยู่ทางทิศใต้ของเทือกเขาหิมาลัยตะวันออก แต่เดิมพื้นที่ของรัฐอรุณาจัลอยู่ในรัฐอัสสัมนะครับ เพิ่งแยกออกมาตั้งเป็นรัฐใหม่เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 นี่เอง มีเมืองหลวงชื่ออิฎานคร อีกชื่อหนึ่งของรัฐอรุณาจัลประเทศคือ ‘เพชรแห่งยอดเขาหิมาลัย’ เพราะเต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติแห่งขุนเขาหิมาลัย ที่ได้ชื่อว่าอรุณาจัลประเทศ เพราะผู้คนในรัฐนี้มองเห็นพระอาทิตย์ได้ก่อนประชาชนคนอินเดียในรัฐอื่น
อรุณาจัลประเทศไม่ใช่รัฐใหญ่ มีพื้นที่เล็กกว่าภาคอีสานของไทยทั้งภาค คือประมาณ 8.4 หมื่นตารางกิโลเมตร มีพรมแดนประชิดติดกับสหภาพพม่าทางทิศตะวันออก ทางใต้จดรัฐอัสสัม ตะวันตกติดราชอาณาจักรภูฏาน ทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือติดสาธารณรัฐประชาชนจีนและทิเบต บริเวณนี้ตรงที่ติดจีนกับทิเบตนี่แหละครับ ที่มีปัญหามาจนถึงปัจจุบันทุกวันนี้ และอรุณาจัลประเทศมีพลเมืองเบาบางนะครับ ไม่ถึงล้านคน
ตรงที่เป็นเมืองสาทิยาของรัฐอรุณาจัลประเทศในปัจจุบันทุกวันนี้นั้น เดิมรวมอยู่ในอาณาจักรโบราณชื่อวิทรรภะ เมืองนี้น่าจะ มีอยู่จริงนะครับ เพราะปรากฏชื่อลือนามพร้อมเรื่องราวอยู่ในคัมภีร์ปุราณะรุ่นแรกๆ อยู่หลายเล่ม เดี๋ยวนี้ก็มีการค้นคว้าหาหลักฐานทางโบราณคดีมาประกอบ นักประวัติศาสตร์และพวกโบราณคดีก็ยืนยันตรงกันแล้วครับว่า ที่ตั้งของเมืองสาทิยาอยู่ห่างจากเมืองกัลกัตตาของรัฐเบงกอลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 575 กิโลเมตร
สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 พวกอาหม ซึ่งก็คือคนไทยจากรัฐฉาน ในพม่าเข้าไปตั้งรกรากบริเวณลุ่มแม่น้ำพรหมบุตรตอนเหนือ สมัยก่อน ตอนนั้น แถวลุ่มแม่น้ำพรหมบุตรมีอาณาจักรต่างๆ หลายแห่ง เช่น อาณาจักรจุติยะ (ของชาวเขาผสมไทยใหญ่) อาณาจักรกจารี อาณาจักรภุยยา และอาณาจักรกามรูปะ จากนั้นมาอีก 300 ปี พวกอาหมก็สามารถยึดครองดินแดนบริเวณลุ่มน้ำพรหมบุตรตอนเหนือได้ทั้งหมด จากนั้นก็ตั้งอาณาจักรขึ้นมาใหม่ชื่อว่า อาณาจักรอัสสัม
ต่อมาพวกอัสสัมแพ้พม่า จึงไปตามอังกฤษมาช่วย อังกฤษช่วยแล้วยึดอัสสัมตามสนธิสัญญายันตาโบ
ต่อมา จีนกับอินเดียทะเลาะกันเรื่องพรมแดนระหว่างอินเดียกับ ทิเบต ผู้แทนของทั้ง 3 ประเทศ คือ จีน อินเดีย ทิเบต ประชุมกันที่เมือง สิมลาเมื่อ พ.ศ.2457 ที่ประชุมตกลงให้มีเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือกับทิเบต เรียกว่า เส้นแมกมาฮอน ยาว 880 กิโลเมตรไปตามยอดเขาหิมาลัย
ส่วนใหญ่ของเส้นแบ่งเขตแดนแมกมาฮอนอยู่ในเขตของ อรุณาจัลประเทศ แต่หลังจากตกลงได้เพียง 2 วัน จีนก็ละเมิดข้อตกลง จีนยกกำลังเข้าบุกอินเดีย อินเดียกะจีนก็เลยรบกัน รบกันยืดเยื้อมาจนกระทั่งอินเดียได้รับเอกราชเมื่อ พ.ศ.2490
อินเดียต่อสู้กะจีนเพื่อรักษาดินแดนอรุณาจัลประเทศมาตลอด แถมยังตั้งหน่วยปกครองเขตแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น เรียกว่า North East Frontier Agency หรือเรียกกันอย่างย่อๆ ว่า NEFA โดยแยกดินแดนที่เป็นรัฐอรุณาจัลประเทศจากรัฐอัสสัมมาเป็นส่วนหนึ่งของ NEFA
เดือนมกราคม พ.ศ.2515 รัฐบาลอินเดียประกาศยกฐานะดินแดนที่เป็นอรุณาจัลประเทศขึ้นเป็นดินแดนในสหภาพของสาธารณรัฐอินเดีย ผมหมายถึง ให้ขึ้นกับรัฐบาลกลาง และเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 ก็ยกฐานะขึ้นเป็นรัฐหนึ่งของอินเดีย มีรัฐบาลของตนเองได้
เมื่อจีนเอาอรุณาจัลประเทศเข้าไปอยู่ในแผนที่ของประเทศตัวเองและเอาไปพิมพ์ไว้ในหน้าหนังสือเดินทาง ก็ถูกอินเดียโต้ตอบด้วยการ เมื่อนักท่องเที่ยวจีนคนไหนไปขอวีซ่าเข้าอินเดีย กระทรวงการต่างประเทศอินเดียก็จะประทับภาพแผนที่อินเดียลงไปบนวีซ่าที่ให้จีนคนนั้น เพื่อเป็นการยืนยันว่า เขตอัคสัยจินและรัฐอรุณาจัลประเทศเป็นของอินเดีย ไม่ใช่ของจีนครับ.
เครดิต http://www.thairath.co.th/content/309397 คุณนิติ นวรัตน์
----------------------------------------------------------------------------------
แล้วเหตุการในสงครามครั้งนี้เป็นไงบ้างครับใครชนะใครเสียหายกว่ากัน
แล้วทำไมจีนพอประเทศเริ่มแข็งแกร่งถึงชอบรุกรานประเทศอื่นแบบด้านได้ อายอด แบบนี้ครับ
เคยมีภาษิตจีนบอกไว้ว่า
จีนแตกแยกเพื่อรวมเป็นหนึ่ง และรวมเป็นหนึ่งเพื่อแตกแยก
หากเป็นงั้นให้จีนแตกแยกและประเทศเพื่อนบ้านก็จะปลอดภัยใช่ไหม