ผมเกิดมาในครอบครัวข้าราชการ แม่เป็นข้าราชการครู และสิ่งทีผมรับรู้มาตั้งแต่เด็กคือ หนี้
พอผมมีงานทำ แม่เริ่มขายสมบัติเก่ากิน ที่บางแปลงเขาจ่ายเงินมาไม่ครบ ผมผ่อนจ่ายคืนให้ แต่ในที่สุดก็ขายไปอยู่ดี
ผมพยายามคุยกับแกหลายครั้งว่าเดือดร้อนอะไร ใช้เงินทำไมไม่พอ
แกบอกว่าเป็นหนี้ ชพค 1.5 ล้านไม่นับหนี้สหกรณ์อีก 1.x ล้าน รวมเกือบสามล้านบาท
ซึ่งเงินตรงนี้แกบอกว่าใช้เลี้ยงผมมา แต่ผมจำได้ว่า เมื่อก่อนมันแค่ ล้านกว่าบาท
บ้านที่กู้มาสร้างพ่อผมก็ผ่อนหมดแล้ว แกยังบังคับให้ re-finance เอาเงินมาใช้ แต่ล่าสุดพ่อผมผ่อนหมดแล้ว
ทั้งพ่อและแม่เป็นข้าราชการเกษียณ ผมส่งเงินให้เดือนละ 5000 บาท พ่อให้เงินแม่อีกเดือนละ 10000 บาท และมีหอพักเล็กๆ ที่แกเก็บกินอีกได้เดือนละ 1.x -- 3 หมื่นบาท แล้วแต่สภาพเศรษฐกิจ แม่ผมมีค่าใช้จ่ายคือ ค่าไฟ ค่าน้ำ ที่บ้านและหอพัก รวมไม่เกิน ุ6000 ค่าคนงานที่จ้างเป็นครั้งๆ ไม่เกิน 3000
ปัญหาคือแกติดหุ้น day-trade ซื้อหุ้นเล็กๆ ราคาสตางค์ ซื้อเช้าขายเย็น ขาดทุนไม่สนใจ เหมือนหมดเป็นรอบๆไป
พอผมแต่งงาน แกขายที่ไป 2 แปลงได้เงินมา 2.4 ล้านบาท แกได้เงินมา แค่ 3 ปีกว่าหมดแล้ว แถมหนี้ไม่ลดอีก
ผมพยายามชี้แจงว่า แม่จะอยู่อย่างไร อยากให้มีความสุขในวัยเกษียณ ถามเรื่องการใช้จ่ายแกโกรธตลอด
ล่าสุดเมื่อสงกรานต์ แกมายื่นข้อเสนอ ให้ผมรับหนี้ จำนวน 3 ล้านบาทโดยจะโอนที่ให้ และให้ผมรับภาระจำนอง
ผมก็ชี้แจงว่า ผมสามารถผ่อนให้แกได้เดือนละไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งคำนวณแล้วไม่น่าจะเกิน ล้านห้า
แค่นั้นเอง แกแช่งผม ว่าให้เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ในกทม. ต่อไป
แกก็เริ่มขายสมบัติกินต่อไป อีกแปลง
ผมคิดอะไรไม่ออก ได้แต่สวดมนต์ เมื่อไหร่แกจะคิดได้ อยู่อย่างสบายๆ สมบัติ ผมไม่อยากได้ แค่อย่าเอามาเป็นภาระให้ผม ผมมีลูก
ใครเป็นเหมือนผมบ้าง หรือใครพอจะแนะนำอะไรได้บ้างไหมครับ
แม่ บุญคุณที่ชดใช้ไม่หมด
พอผมมีงานทำ แม่เริ่มขายสมบัติเก่ากิน ที่บางแปลงเขาจ่ายเงินมาไม่ครบ ผมผ่อนจ่ายคืนให้ แต่ในที่สุดก็ขายไปอยู่ดี
ผมพยายามคุยกับแกหลายครั้งว่าเดือดร้อนอะไร ใช้เงินทำไมไม่พอ
แกบอกว่าเป็นหนี้ ชพค 1.5 ล้านไม่นับหนี้สหกรณ์อีก 1.x ล้าน รวมเกือบสามล้านบาท
ซึ่งเงินตรงนี้แกบอกว่าใช้เลี้ยงผมมา แต่ผมจำได้ว่า เมื่อก่อนมันแค่ ล้านกว่าบาท
บ้านที่กู้มาสร้างพ่อผมก็ผ่อนหมดแล้ว แกยังบังคับให้ re-finance เอาเงินมาใช้ แต่ล่าสุดพ่อผมผ่อนหมดแล้ว
ทั้งพ่อและแม่เป็นข้าราชการเกษียณ ผมส่งเงินให้เดือนละ 5000 บาท พ่อให้เงินแม่อีกเดือนละ 10000 บาท และมีหอพักเล็กๆ ที่แกเก็บกินอีกได้เดือนละ 1.x -- 3 หมื่นบาท แล้วแต่สภาพเศรษฐกิจ แม่ผมมีค่าใช้จ่ายคือ ค่าไฟ ค่าน้ำ ที่บ้านและหอพัก รวมไม่เกิน ุ6000 ค่าคนงานที่จ้างเป็นครั้งๆ ไม่เกิน 3000
ปัญหาคือแกติดหุ้น day-trade ซื้อหุ้นเล็กๆ ราคาสตางค์ ซื้อเช้าขายเย็น ขาดทุนไม่สนใจ เหมือนหมดเป็นรอบๆไป
พอผมแต่งงาน แกขายที่ไป 2 แปลงได้เงินมา 2.4 ล้านบาท แกได้เงินมา แค่ 3 ปีกว่าหมดแล้ว แถมหนี้ไม่ลดอีก
ผมพยายามชี้แจงว่า แม่จะอยู่อย่างไร อยากให้มีความสุขในวัยเกษียณ ถามเรื่องการใช้จ่ายแกโกรธตลอด
ล่าสุดเมื่อสงกรานต์ แกมายื่นข้อเสนอ ให้ผมรับหนี้ จำนวน 3 ล้านบาทโดยจะโอนที่ให้ และให้ผมรับภาระจำนอง
ผมก็ชี้แจงว่า ผมสามารถผ่อนให้แกได้เดือนละไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งคำนวณแล้วไม่น่าจะเกิน ล้านห้า
แค่นั้นเอง แกแช่งผม ว่าให้เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ในกทม. ต่อไป
แกก็เริ่มขายสมบัติกินต่อไป อีกแปลง
ผมคิดอะไรไม่ออก ได้แต่สวดมนต์ เมื่อไหร่แกจะคิดได้ อยู่อย่างสบายๆ สมบัติ ผมไม่อยากได้ แค่อย่าเอามาเป็นภาระให้ผม ผมมีลูก
ใครเป็นเหมือนผมบ้าง หรือใครพอจะแนะนำอะไรได้บ้างไหมครับ