
บางกอกกล๊าส เอฟซี : กระต่ายแก้ว
(credit : th.wikipedia.org)
นับย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2553 ผมเป็นหนึ่งในสักขีพยาน ณ สนามศูนย์เยาวชนเฉลิมพระเกียรติ นนทบุรี ที่บางกอกกล๊าส เอฟซี ยกพล "
กระต่ายแก้ว" บุกถล่ม "
อีกานนท์" นนทบุรี เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 0-2 รวมถึงแสดงให้เห็นถึงฐานแฟนบอลที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของยอดทีมเมืองปทุมทีมนี้ด้วย
"ดิส อิส ปทุมวี .. อาร์บางกอกกล๊าสวี .. คัมทูเชียร์ บีจี บีจีเอฟซี"
เสียงเชียร์เพลงนี้ดังสนั่นทั่วสนามสร้างความน่าเกรงขามให้กับเหล่ากระต่ายแก้วที่หิวกระหายชัยชนะซะเหลือเกิน มันดูมีมนต์ขลัง มันดูมีพลัง จนต้องขนลุกขนชันไปตาม ๆ กัน อีกทั้งการเล่นในสนาม ณ วันนั้น บางกอกกล๊าซ เอฟซี ยังมีตัวผู้เล่นชั้นยอดอยู่ในทีม ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล เบิร์น, ซิลล่า มูลซ่า, อำนาจ แก้วเขียว, ชาตรี ฉิมทะเล และอื่น ๆ อีกมากมาย

ไมเคิล เบิร์น
(credit : siamsport.co.th)
นั้นคือครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสฟุตบอลของพวกเขา "
บางกอกกล๊าส เอฟซี" .. เรามาดูประวัติคร่าว ๆ ของสโมสรแห่งนี้กันดีกว่าครับ
ทีมสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส เอฟซี เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของพนักงานที่ทำการแข่งกีฬาภายใน ในปี พ.ศ. 2522 ก่อนที่จะส่งแข่งขันกีฬาในกลุ่มอุตสหากรรม จ.ปทุมธานี ในปี พ.ศ. 2523 ต่อมาในปี 2542 พนักงานและกลุ่มผู้บริหารได้รวมตัวจัดตั้งชมรมฟุตบอลขึ้นมา จนท้ายที่สุดในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการก่อตั้ง "
สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส" และเข้าเป็นสมาชิกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในปีดังกล่าวเช่นกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดบนเส้นทางฟุตบอลระดับอาชีพของทีมกระต่ายแก้ว
พวกเขาได้เติบโตเป็นลำดับ โดยการได้ตำแหน่งรองแชมป์
ถ้วยพระราชทาน ง (รายการฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ง 2550/51) โดยแพ้สโมสรฟุตบอลเทศบาลเมืองคูคตไป 1-0 แต่ก็ยังได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นในฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ค
ต่อมาปี พ.ศ. 2551 ในรายการ
ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ค 2551/2552 พลพรรคกระต่ายแก้ว ได้อยู่ในสายที่ 3 ร่วมสายเดียวกับ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และ สมาคมฮากกาแห่งประเทศไทย ซึ่งพวกเขาก็เริ่มแผลงฤทธิ์ โดยการถล่ม จุฬาลงกรณ์ ไป 7-1 และ ถลุง ฮากกาไป 8-0 รั้งจ่าฝูงของสาย 3 เข้าสู่รอบ 16 ทีม ซึ่งไปพบกับ ทีมหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่ง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่อพวกเขา ถลุงทีมดังกล่าวไป 6-1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
ความห้าวของกระต่ายรายนี้ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น โดยในรอบก่อนรองชนะเลิศ ต้องเจอกับทีมโรงเรียนสมุทรพิทยาคม และสามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปด้วยการถล่มประตูสมุทรพิทยาคมไปถึง 8-0 ก่อนที่จะไปเจอกับคู่ปรับเก่าในปีก่อนอย่าง สโมสรฟุตบอลเทศบาลเมืองคูคต และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จโดยการเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศและแก้แค้นได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่รอบชิงชนะเลิศ พวกเขากลับพ่ายแพ้ต่อ ทีมเจ ดับบลิว กรุ๊ป ไปด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้พวกเขาได้แค่รองแชมป์ในฟุตบอลรายการนี้ แต่ก็ยังได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นใน
ถ้วยพระราชทาน ข ต่อไป

สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทย
(credit : manager.co.th)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 นับเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของทางบางกอกกล๊าส เมื่อ สโมรสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทย จากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ได้ประกาศยุบทีม เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ AFC กำหนดในเรื่องของการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ ทำให้สโมสรบางกอกกล๊าสเข้าเทคโอเวอร์ และส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2552 นับเป็นการเริ่มต้นสำหรับยอดทีมจากปทุมธานีทีมนี้ ซึ่ง ณ ตอนนั้น ผู้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของพวกเขาก็คือ "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ อดีตจอมทัพทีมชาติไทย และสามารถพาทีมจบอันดับ 3 ในฤดูกาลนั้นอีกด้วย

สุรชัย จตุรภัทรพงษ์
(credit : smmsport.com)
โดย ณ ขณะนั้น ทางบางกอกกล๊าส ก็ยังส่งทีมเข้าร่วมในฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ข เช่นกัน ในนามของ "
สมาคมกีฬาบางกอกกล๊าส" จนการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข ฤดูกาล 2554 พวกเขาสามารถที่จะ คว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยเอาชนะ ทีมสโมสรธนบุรี เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 1-0 และได้สิทธิ์เข้าเล่นในศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเปลี่ยนชื่อมาเป็น "
สโมสรรังสิต เอฟซี" ในฤดูกาล 2555

สโมสรธนบุรี บีจี ยูไนเต็ด
(credit : siamsport.co.th)
จากนั้นในศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2556 สโมสรบางกอกกล๊าส ได้ตกลงกับมหาวิทยาลัยธนบุรี ร่วมมือกันบริหารทีมฟุตบอลรังสิต เอฟซี (นับเป็นสโมสรลูกของสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส เอฟซี) โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "
สโมสรฟุตบอล ธนบุรี บีจี ยูไนเต็ด" โดยมีการสนับสนุนเรื่องนักเตะ, สต๊าฟโค้ช โดยที่ย้ายจากโซนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไปอยู่โซนภาคกลางและตะวันตก
ต่อมาในศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2557 ทางสโมสรรังสิต เอฟซี ได้แยกทางกับมหาวิทยาลัยธนบุรี และขอสิทธิ์กลับมาทำทีมลงเล่นอีกครั้ง ในชื่อ "
รังสิต เอฟซี" โดยย้ายกลับมาอยู่โซนกรุงเทพฯ และภาคกลาง ซึ่งในฤดูกาลนั้นพวกเขาทำผลงานจบอันดับที่ 9 ของตาราง โดยผู้บริหารบางกอกกล๊าส มีวิศัยทัศน์ ที่จะให้ทีม ๆ นี้ เป็นที่ลับแข้งของเหล่ากระต่ายน้อยที่รอวันขึ้นเป็นกำลังหลักของทีมกระต่ายแก้วในอนาคตอีกด้วย

สโมสรรังสิต เอฟซี
(credit : smmonline.net)
กลับมาที่สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ที่ได้โลดแล่นในเวทีไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ก็สามารถทำผลงานได้ค่อนข้างดี โดยส่วนใหญ่จะจบฤดูกาลด้วยอันดับ Top 10 และในปี พ.ศ. 2557 พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรโดยการคว้าถ้วยมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ เป็นโทรฟี่แรกอย่างเป็นทางการ ด้วยการเอาชนะ ยอดทีมภาคตะวันออกอย่าง ชลบุรี เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 1-0 ที่สนามศุภชลาศัย และได้สิทธิ์ไปเล่นในศึก AFC Champion League 2015 รอบคัดเลือกอีกด้วย

บางกอกกล๊าส เอฟซี กับแชมป์แรกที่รอคอย
(credit : m.goal.com)
จากนั้นพวกเขาก็นำเข้านักเตะเพื่อที่จะลุยศึกรอบคัดเลือก AFC Champion League 2015 และไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2558 ไม่ว่าจะเป็น เลอันโดร โอลิเวียร่า, แมตต์ สมิธ, ณรงค์ จันเสวก, สราวุธ กองลาภ รวมถึงการแจ้งเกิดของ "
เต๋าดิญโญ่" ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ที่ทำผลงานได้โดดเด่น ภายใต้การดูแลของเฮดโค้ชอย่าง
ริคาร์โด โรดริเกส

ริคาร์โด้ โรดิเกวช
(credit : smmonline.net)
แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อรอบคัดเลือก AFC Champion League 2015 ทางกระต่ายแก้วบุกไปแพ้ "
พญาเต่า" ปักกิ่ง กั๋วอัน ยอดทีมจากไชน่า ซุปเปอร์ลีก แบบหมดรูป 0-3 เป็นรองทั้งรูปเกมส์ และ ศักยภาพนักเตะ

พาโพล บาตาล่า บรรจงยิงลูกโทษให้ทีมปักกิ่ง กั๋วอัน
(credit : sport.sanook.com)
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือการเดินทางของ "
กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่นับเป็นสโมสรมืออาชีพอีกแห่งหนึ่งในระดับไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก พรั่งพร้อมด้วยกลุ่มแฟนบอลที่เหนียวแน่น, เงินทุน, สนามฟุตบอล และองค์ประกอบต่าง ๆ มากมายที่ทำให้พวกเขาสามารถที่จะไปยืนในระดับเอเซียได้อย่างสง่างาม
แต่ทางไหนละ? ที่จะสามารถพาพวกเขาไปยืนในระดับนั้นได้เหมือนที่ บุรีรัมย์, เมืองทอง และ ชลบุรี ได้ทำไว้ จากประสบการณ์ที่ได้รับในระดับเอเซียอย่างบอบช้ำ จะทำให้พวกเขาสามารถที่จะกรุยทางกลับไปยืนในระดับนั้นได้อีกครั้งหรือไม่ .. คงต้องติดตาม "
กระต่ายแก้ว" ตัวนี้ต่อไปครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
**
คุยกันนิดนึง : ไม่มีอะไรมากกก .. แค่จะบอกว่า .. ผมเชียร์ทีมนี้ครับ 5555+ **
**
ขออีกนิดนึงครับ : บทความของผมที่เขียนทุกบทความ ผมไม่เคยหวงเลยว่าใครจะเอาไปลงที่ไหนอย่างไร แต่รบกวนช่วย "
อย่าตัดข้อความ " และ "
ให้เครดิต Pantip" ด้วยครับ เพราะมีที่นี่ ถึงมีบทความผม และผม ปอปฏิเวธ "
ไม่เคยเขียนบทความที่ไหนนอกจาก Pantip" ครับ (ตะกี้เพื่อนไปเจอลงอยู่ในบอร์ดกีฬา Manager ลงชื่อผมเป็นคนตั้งกระทู้ด้วย โทรมาถามซะงั้น - -")
บางกอกกล๊าส เอฟซี : กับเส้นทางสู่ระดับเอเซีย
บางกอกกล๊าส เอฟซี : กระต่ายแก้ว
(credit : th.wikipedia.org)
นับย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2553 ผมเป็นหนึ่งในสักขีพยาน ณ สนามศูนย์เยาวชนเฉลิมพระเกียรติ นนทบุรี ที่บางกอกกล๊าส เอฟซี ยกพล "กระต่ายแก้ว" บุกถล่ม "อีกานนท์" นนทบุรี เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 0-2 รวมถึงแสดงให้เห็นถึงฐานแฟนบอลที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของยอดทีมเมืองปทุมทีมนี้ด้วย
เสียงเชียร์เพลงนี้ดังสนั่นทั่วสนามสร้างความน่าเกรงขามให้กับเหล่ากระต่ายแก้วที่หิวกระหายชัยชนะซะเหลือเกิน มันดูมีมนต์ขลัง มันดูมีพลัง จนต้องขนลุกขนชันไปตาม ๆ กัน อีกทั้งการเล่นในสนาม ณ วันนั้น บางกอกกล๊าซ เอฟซี ยังมีตัวผู้เล่นชั้นยอดอยู่ในทีม ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล เบิร์น, ซิลล่า มูลซ่า, อำนาจ แก้วเขียว, ชาตรี ฉิมทะเล และอื่น ๆ อีกมากมาย
ไมเคิล เบิร์น
(credit : siamsport.co.th)
นั้นคือครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสฟุตบอลของพวกเขา "บางกอกกล๊าส เอฟซี" .. เรามาดูประวัติคร่าว ๆ ของสโมสรแห่งนี้กันดีกว่าครับ
ทีมสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส เอฟซี เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของพนักงานที่ทำการแข่งกีฬาภายใน ในปี พ.ศ. 2522 ก่อนที่จะส่งแข่งขันกีฬาในกลุ่มอุตสหากรรม จ.ปทุมธานี ในปี พ.ศ. 2523 ต่อมาในปี 2542 พนักงานและกลุ่มผู้บริหารได้รวมตัวจัดตั้งชมรมฟุตบอลขึ้นมา จนท้ายที่สุดในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการก่อตั้ง "สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส" และเข้าเป็นสมาชิกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในปีดังกล่าวเช่นกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดบนเส้นทางฟุตบอลระดับอาชีพของทีมกระต่ายแก้ว
พวกเขาได้เติบโตเป็นลำดับ โดยการได้ตำแหน่งรองแชมป์ ถ้วยพระราชทาน ง (รายการฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ง 2550/51) โดยแพ้สโมสรฟุตบอลเทศบาลเมืองคูคตไป 1-0 แต่ก็ยังได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นในฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ค
ต่อมาปี พ.ศ. 2551 ในรายการ ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ค 2551/2552 พลพรรคกระต่ายแก้ว ได้อยู่ในสายที่ 3 ร่วมสายเดียวกับ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และ สมาคมฮากกาแห่งประเทศไทย ซึ่งพวกเขาก็เริ่มแผลงฤทธิ์ โดยการถล่ม จุฬาลงกรณ์ ไป 7-1 และ ถลุง ฮากกาไป 8-0 รั้งจ่าฝูงของสาย 3 เข้าสู่รอบ 16 ทีม ซึ่งไปพบกับ ทีมหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่ง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่อพวกเขา ถลุงทีมดังกล่าวไป 6-1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
ความห้าวของกระต่ายรายนี้ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น โดยในรอบก่อนรองชนะเลิศ ต้องเจอกับทีมโรงเรียนสมุทรพิทยาคม และสามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปด้วยการถล่มประตูสมุทรพิทยาคมไปถึง 8-0 ก่อนที่จะไปเจอกับคู่ปรับเก่าในปีก่อนอย่าง สโมสรฟุตบอลเทศบาลเมืองคูคต และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จโดยการเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศและแก้แค้นได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่รอบชิงชนะเลิศ พวกเขากลับพ่ายแพ้ต่อ ทีมเจ ดับบลิว กรุ๊ป ไปด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้พวกเขาได้แค่รองแชมป์ในฟุตบอลรายการนี้ แต่ก็ยังได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นในถ้วยพระราชทาน ข ต่อไป
สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทย
(credit : manager.co.th)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 นับเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของทางบางกอกกล๊าส เมื่อ สโมรสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทย จากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ได้ประกาศยุบทีม เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ AFC กำหนดในเรื่องของการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ ทำให้สโมสรบางกอกกล๊าสเข้าเทคโอเวอร์ และส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2552 นับเป็นการเริ่มต้นสำหรับยอดทีมจากปทุมธานีทีมนี้ ซึ่ง ณ ตอนนั้น ผู้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของพวกเขาก็คือ "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ อดีตจอมทัพทีมชาติไทย และสามารถพาทีมจบอันดับ 3 ในฤดูกาลนั้นอีกด้วย
สุรชัย จตุรภัทรพงษ์
(credit : smmsport.com)
โดย ณ ขณะนั้น ทางบางกอกกล๊าส ก็ยังส่งทีมเข้าร่วมในฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ข เช่นกัน ในนามของ "สมาคมกีฬาบางกอกกล๊าส" จนการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข ฤดูกาล 2554 พวกเขาสามารถที่จะ คว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยเอาชนะ ทีมสโมสรธนบุรี เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 1-0 และได้สิทธิ์เข้าเล่นในศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเปลี่ยนชื่อมาเป็น "สโมสรรังสิต เอฟซี" ในฤดูกาล 2555
สโมสรธนบุรี บีจี ยูไนเต็ด
(credit : siamsport.co.th)
จากนั้นในศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2556 สโมสรบางกอกกล๊าส ได้ตกลงกับมหาวิทยาลัยธนบุรี ร่วมมือกันบริหารทีมฟุตบอลรังสิต เอฟซี (นับเป็นสโมสรลูกของสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส เอฟซี) โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "สโมสรฟุตบอล ธนบุรี บีจี ยูไนเต็ด" โดยมีการสนับสนุนเรื่องนักเตะ, สต๊าฟโค้ช โดยที่ย้ายจากโซนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไปอยู่โซนภาคกลางและตะวันตก
ต่อมาในศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2557 ทางสโมสรรังสิต เอฟซี ได้แยกทางกับมหาวิทยาลัยธนบุรี และขอสิทธิ์กลับมาทำทีมลงเล่นอีกครั้ง ในชื่อ "รังสิต เอฟซี" โดยย้ายกลับมาอยู่โซนกรุงเทพฯ และภาคกลาง ซึ่งในฤดูกาลนั้นพวกเขาทำผลงานจบอันดับที่ 9 ของตาราง โดยผู้บริหารบางกอกกล๊าส มีวิศัยทัศน์ ที่จะให้ทีม ๆ นี้ เป็นที่ลับแข้งของเหล่ากระต่ายน้อยที่รอวันขึ้นเป็นกำลังหลักของทีมกระต่ายแก้วในอนาคตอีกด้วย
สโมสรรังสิต เอฟซี
(credit : smmonline.net)
กลับมาที่สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ที่ได้โลดแล่นในเวทีไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ก็สามารถทำผลงานได้ค่อนข้างดี โดยส่วนใหญ่จะจบฤดูกาลด้วยอันดับ Top 10 และในปี พ.ศ. 2557 พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรโดยการคว้าถ้วยมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ เป็นโทรฟี่แรกอย่างเป็นทางการ ด้วยการเอาชนะ ยอดทีมภาคตะวันออกอย่าง ชลบุรี เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 1-0 ที่สนามศุภชลาศัย และได้สิทธิ์ไปเล่นในศึก AFC Champion League 2015 รอบคัดเลือกอีกด้วย
บางกอกกล๊าส เอฟซี กับแชมป์แรกที่รอคอย
(credit : m.goal.com)
จากนั้นพวกเขาก็นำเข้านักเตะเพื่อที่จะลุยศึกรอบคัดเลือก AFC Champion League 2015 และไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2558 ไม่ว่าจะเป็น เลอันโดร โอลิเวียร่า, แมตต์ สมิธ, ณรงค์ จันเสวก, สราวุธ กองลาภ รวมถึงการแจ้งเกิดของ "เต๋าดิญโญ่" ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ที่ทำผลงานได้โดดเด่น ภายใต้การดูแลของเฮดโค้ชอย่าง ริคาร์โด โรดริเกส
ริคาร์โด้ โรดิเกวช
(credit : smmonline.net)
แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อรอบคัดเลือก AFC Champion League 2015 ทางกระต่ายแก้วบุกไปแพ้ "พญาเต่า" ปักกิ่ง กั๋วอัน ยอดทีมจากไชน่า ซุปเปอร์ลีก แบบหมดรูป 0-3 เป็นรองทั้งรูปเกมส์ และ ศักยภาพนักเตะ
พาโพล บาตาล่า บรรจงยิงลูกโทษให้ทีมปักกิ่ง กั๋วอัน
(credit : sport.sanook.com)
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือการเดินทางของ "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่นับเป็นสโมสรมืออาชีพอีกแห่งหนึ่งในระดับไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก พรั่งพร้อมด้วยกลุ่มแฟนบอลที่เหนียวแน่น, เงินทุน, สนามฟุตบอล และองค์ประกอบต่าง ๆ มากมายที่ทำให้พวกเขาสามารถที่จะไปยืนในระดับเอเซียได้อย่างสง่างาม
แต่ทางไหนละ? ที่จะสามารถพาพวกเขาไปยืนในระดับนั้นได้เหมือนที่ บุรีรัมย์, เมืองทอง และ ชลบุรี ได้ทำไว้ จากประสบการณ์ที่ได้รับในระดับเอเซียอย่างบอบช้ำ จะทำให้พวกเขาสามารถที่จะกรุยทางกลับไปยืนในระดับนั้นได้อีกครั้งหรือไม่ .. คงต้องติดตาม "กระต่ายแก้ว" ตัวนี้ต่อไปครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
** คุยกันนิดนึง : ไม่มีอะไรมากกก .. แค่จะบอกว่า .. ผมเชียร์ทีมนี้ครับ 5555+ **
** ขออีกนิดนึงครับ : บทความของผมที่เขียนทุกบทความ ผมไม่เคยหวงเลยว่าใครจะเอาไปลงที่ไหนอย่างไร แต่รบกวนช่วย "อย่าตัดข้อความ " และ "ให้เครดิต Pantip" ด้วยครับ เพราะมีที่นี่ ถึงมีบทความผม และผม ปอปฏิเวธ "ไม่เคยเขียนบทความที่ไหนนอกจาก Pantip" ครับ (ตะกี้เพื่อนไปเจอลงอยู่ในบอร์ดกีฬา Manager ลงชื่อผมเป็นคนตั้งกระทู้ด้วย โทรมาถามซะงั้น - -")