เพื่อนๆมีวิธีก้าวผ่านความผิดพลาดของตัวเองยังไงบ้างคะ มาแชร์กันค่ะ

กระทู้คำถาม
เราเป็นสาเหตุทำให้สุนัขตัวนึงได้รับบาดเจ็บและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตค่ะ (ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดนะคะ) ช่วง 3 วันนี้เครียดมากเลยค่ะ สงสารสุนัขมาก มันเจ็บปวดร้องครวญครางตลอด เรารู้สึกแย่มาก หาทางออกไม่เจอ เราโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมาแต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย เราอยากก้าวต่อไป แต่มันทำไม่ได้ซักที T T
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
              กลางปีก่อนไปพบลูกค้า จอดรถในซอยแล้วมีหมามานอนใต้รถ ตอนออกรถไม่ได้มองเลยถอยไปทับสะโพกมัน ลงรถมาดูเห็นมีเลือดออกไม่มาก แต่ลุกไม่ได้และไม่ร้อง พาใส่รถไปหาหมอ รพ.สัตวแพทย์ที่แรกไม่มีเครื่องเอ็กซ์เรย์  คุณหมอให้พาหมาไปรพ.สัตว์อีกทีเพื่อเอ็กซ์เรย์ก่อนแล้วนำฟิลม์กลับมาวิเคราะห์ ก็ตามนั้นละครับ ได้ฟิลม์มาให้คุณหมอที่รพ.สัตว์ที่แรกดูพบว่ารอยใหม่กระดูกเชิงกรานร้าวและมีร่องรอยเก่าขาซ้ายเคยหัก  อาการอื่นๆที่คุณหมอตรวจพบคือตาบอดทั้ง 2 ข้าง มีไข้สูง เป็นไข้เห็บ เห็บเต็มตัว ขี้ตาเกรอะกรังมาก... โดยสภาพหมาจรจัดตัวนั้นหากไม่โดนรถทับก็แก่ ตาบอด และป่วยรอมร่อมากอยู่แล้ว ไม่สามารถวางยาผ่าตัดได้เพราะเกรงว่ามันจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก คุณหมอให้นอนรพ.ดูอาการ ให้ยากับน้ำเกลืออยู่เกือบอาทิตย์ก็ให้รับกลับได้ โดยบอกบอกว่าถ้าโชคดี กล้ามเนื้อจะดึงกระดูกเชิงกรานให้ยึดติดกันไว้ แล้วมันจะลุกเดินได้สามขา (เพราะมีร่อยรอยขาหลังซ้ายหักมาก่อนนานแล้ว)
    พาหมากลับมาบ้าน หามุมให้มันอยู่และผูกไว้ ทำใจแล้วว่าคงต้องอุ้มไปอึฉี่ มันคงเดินไม่ได้ แต่ได้อุ้มไปอึอยู่ไม่กี่วันมันก็เริ่มลุก และอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ถึงเดือนก็ไม่ต้องอุ้ม แค่จูงพาไปก็ได้
    ให้อาหาร+ยา วันละ 2 รอบ  ล้างขี้ตาเยอะมากด้วยน้ำเกลือสำหรับล้างแผลทุกวัน พาเดินอึฉี่ เป็นเวลาอย่างน้อยวันละ 2 รอบ อาบน้ำอย่างน้อยเดือนละครั้ง และพาไปหาหมอตามหมอนัด
    หลังจากนั้น 4 เดือน พาไปให้หมอตรวจอีกครั้งเพราะขนร่วงตรงกลางหลัง หมอบอกเป็นเชื้อรา คงเพราะความชื้นจากละอองฝน ได้กินกับยามาทา และหมอบอกว่าหมาดูดีขึ้นอ้วนขึ้น แต่อย่าให้น้ำหนักเพิ่มมากเพราะจะไปมีผลกับกระดูกที่ร้าว
    เมื่อต้นปีย้ายบ้านใหม่ หลังนี้รั้วรอบขอบชิด เลยเลิกผูก ปล่อยให้เดินได้อิสระ แต่มีทำที่นอนไว้ให้ หมาก็นอนที่จัดไว้ให้บ้าง ย้ายไปนอนมุมอื่นๆรอบบ้าน
    ประมาณต้นเดือนมีนาคม เริ่มผิดสังเกตุ เห็นมันเดินตัวแข็งๆเอียงๆไปทางซ้าย และเดินน้อยลง จากปกติที่เดินน้อยอยู่แล้วยกเว้นย้ายหาที่นอนใหม่ เปลี่ยนเป็นมันแทบไม่เดินไปไหนเลย อยู่มุมไหนมุมนั้น ยกเว้นไปอึ แต่ยังกินอาหาร+น้ำได้ปกติ  ผ่านไปซักอาทิตย์มันกินน้อยลงมากเรื่อยๆ พอมันไม่ยอมกินหลายวันติดก็ต้องพามาหาหมออีกครั้ง
    ผลตรวจมีไข้ แต่ค่าเลือดอื่นๆปกติ ฉีดยากับให้น้ำเกลืออยู่ รพ. สามวันมันก็เริ่มกินอาหารได้อีก แต่ไม่ลุกเดินอีกแล้ว สภาพเหมือนตุ๊กตาหมา หัวไม่ขยับ ตา(บอด) 2 ข้างมองเลื่อนลอย  ขาหน้า 2 ข้างยึดเกร็งขยับไม่ได้  ขาหลังดันถีบได้นิดหน่อยซึ่งมันถีบแถที่พื้นตลอดเวลา ภาพที่ออกมาก็เลยเป็น หมานอนตะแคงและขาหลังถีบพื้นยันตัวให้ขยับถูพื้นไปเรื่อยๆเป็นวงกลม หมอบอกว่าอาจจะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ถ้าจะตรวจต้องไป รพ.ที่มีเครื่องมือมากกว่านี้ แต่จากสภาพและอายุของมัน หมอแนะนำว่าให้ดูแลไปเรื่อยๆก่อน บางทีมันอาจจะโชคดีเหมือนคราวที่แล้ว ผมถามหมอแบบเลี่ยงๆว่ามันจะอยู่ต่อไหวมั้ย (ไม่กล้าถามตรงๆว่า put to sleep ดีมั้ย )  หมอบอกว่า พบว่ามันเห่าเพื่อร้องขอให้เอาอาหารไปป้อนปาก ( ไม่สามารถก้มไปกินอาหารในชามเองได้ ใช้อาหารบดใส่ช้อน ป้อนที่ปากทีละคำ ) มันยังกินได้ แสดงว่ามันต้องการที่จะมีชีวิตอยู่...
    ต้นเดือนเมษายน ลาพักร้อน+วันหยุดสงกรานต์ รวมแล้วหลายวัน พอดีกับที่รับหมากลับจาก รพ.มาอยู่บ้าน คราวนี้ให้นอนกรงยกพื้น มันจะได้ไม่นอนแช่ฉี่กับอึ แต่มันก็ยังจะเห่าอยู่ดี มันจะเห่าเสียงดังมากเวลาต้องการสิ่งต่างๆ  เห่าเมื่อหิว เห่าเมื่อฉี่ เห่าเมื่ออึ เห่าเมื่อต้องการให้พลิกตัวกลับด้าน  รวมๆแล้ววันนึงก็เห่าหลายรอบต่อวัน
    ประมาณตีสี่จะเห่ารอบแรกป้อนอาหารไปสี่ห้าคำก็จะเงียบ
    เห่ารอบสองประมาณเจ็ดโมงเช้าห่าเพราะฉี่ ยกถาดรองฉี่ใต้กรงไปล้าง กลิ่นฉี่หายไปมันก็จะหยุดเห่า
    เห่าประมาณแปดโมงเพราะอึ ยกถาดไปล้างก็หยุดเห่าเหมือนกัน
    ก่อนเที่ยงเห่าอีกรอบสองรอบถ้าไม่เรื่องฉี่ก็ต้องการให้พลิกตัวให้
    หัวค่ำไม่เกินสามทุ่มเห่าอีกรอบป้อนอาหาร
    สองสามวันแรกเครียดเลยครับ ต้องตื่นดึกๆมาเพราะเสียงเห่า ง่วงก็ง่วงต้องมานั่งป้อนอาหารให้หมาทีละคำ มันมองไม่เห็นเอาช้อนไปแตะที่ปากมันจะงับทันที งับโดนอาหารมั่งพลาดมั่งงับช้อนไม่ยอมปล่อยมั่ง แรกๆไม่รู้เอามือไปแกะโดนมันงับมือห้อเลือดไปหลายหน อาหารเนื้อละเอียดแบบกระป๋องที่ซื้อมาจาก รพ. 2 กระป๋อง ป้อน 2 วันหมด ผมเปลี่ยนเป็นเนื้อไก่บด โดยเอาไปใส่บล๊อคทำน้ำแข็งแช่ฟรีส ได้ออกมาเป็นเนื้อไก่บดก้อนๆเหมือน้ำแข็ง ป้อนง่ายขึ้นและนับได้ด้วยว่ามันก็กินมื้อละ 4 ก้อนไม่ขาดไม่เกิน วันละ 2 มื้อ รวมเป็น 8 ก้อน
    หยุดพักร้อน 7 วันไม่ได้ไปเที่ยวสงกรานต์ที่ไหนเลยครับ ไปไกลสุดขับรถไปซื้อเสบียงของคนกับหมาจากซูปเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้าน ทิ้งบ้านไม่เกิน 3 ชั่วโมงตอนบ่าย เพราะกลัวมันจะเห่า เรื่องไปเที่ยวค้างคืนที่อื่นนี่ไม่คิดเลยเพราะไม่รู้จะฝากใครป้อนอาหารมันตอนตีสี่ได้ อีก 2 วันต้องกลับไปทำงานปกติ คิดว่าต้องปล่อยมันไว้บ้านตอนกลางวันไม่มีใครดู มันต้องเห่าเสียงลั่นบ้านแน่นอน แต่คิดว่ามันก็ต้องปรับตัวเห่าน้อยๆลงบ้างก็ดี เช่นเวลาฉี่และอึลงใต้พื้นกรง ตัวมันไม่ได้เลอะไม่ต้องเห่าก็ได้
    วันที่ 6 หลังจากคอยจับมันพลิกตัวมาหลายวัน เห็นว่าทั้งหัวไหล่และสะโพกมันเริ่มเป็นแผลกดทับ เลยหาผ้ามาทำเปลเล็กๆแขวนกลางตัวมันให้ยกพ้นจากพื้นกรงเล็กน้อย น้ำหนักจะได้ไม่ไปลงที่ไหล่และสะโพกมาก เข้าใจว่ามันคงสบายตัวขึ้น ดูจากมันเห่าเฉพาะหิว อึ ฉี่ ไม่เห่าให้ไปพลิกตัวอีก
    วันที่ 8 ต้องออกจากบ้านไปธุระตอนสายและซื้อเสบียงตอนบ่าย ลองปล่อยมันไว้ถือเป็นการทดสอบดูด้วยว่ามันจะเห่ามากขนาดไหน ตีสี่ตื่นมาป้อนเนื้อไก่ก้อน มันไม่กินก้อนที่สี่...  
    กลับถึงบ้านตอนเย็นไม่ได้ยินเสียงเห่า คิดว่ามันคงเห่าจนเหนื่อยเลยเงียบไปเอง ไปดูที่กรงเห็นมันนอนนิ่ง มีอึและฉี่ที่ถาดรองใต้กรง เปิดกรงไปจับตัวมัน  ตัวแข็ง  มันตายแล้ว...
    จนถึงวันนี้ก็ยังแว๊บเข้ามาในหัวบ่อยๆว่าดูแลจัดการกับมันขั้นตอนไหนผิดไปมันเลยตาย
    เพราะไม่อยู่บ้านปล่อยให้มันเห่านานไปรึเปล่า
    เพราะเปลที่คิดว่าลดการเป็นแผลกดทับรึเปล่า
    เพราะเนื้อไก่บดแช่แข็งรึเปล่า
    เพราะการดูแลก่อนหน้านี้ทำให้มันน้ำหนักมากเกินไปรึเปล่า
    เพราะถอยรถไม่มองรึเปล่า....
    คุณมีวิธีก้าวผ่านความผิดพลาดของตัวเองยังไงบ้าง.....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่