-สรุปเหตุการณ์และสมมติฐานเหตุไฟไหม้ปริศนาพัทลุง- ไม่อยากปล่อยให้เป็นเรื่องไสยศาสตร์

กระทู้สนทนา

สรุป: สมมติฐานคือ แบคทีเรียชนิดที่ชอบความร้อน "thermophilic bacteria" ที่ไม่พบในสิ่งแวดล้อมปกติแต่อาศัยอยู่ในแหล่งอุณหภูมิสูง
เช่น บ่อน้ำพุร้อน โดยแบคทีเรียนี้สามารถย่อยสลายสารอินทรีย์ได้ในอัตราที่สูงกว่าปกติมากและคายความร้อนขณะเกิดกระบวนการ สิ่งที่ได้คือสารอินทรีย์โมเลกุลเล็ก(ปกติเป็นก๊าซมีเทน) และ CO2 โดยคาดว่าเป็น Anaerobic Process(กระบวนการไม่ใช้ออกซิเจน)

เนื้อหาของเหตุการณ์ไฟไหม้/ไฟลุก โดยตัดเรื่องอย่างว่าทิ้งไป ก็จะเหลือ….
ไฟไหม้นั้นเกิดขึ้นเอง โดยส่วนมากเป็นช่วงกลางวัน สิ่งที่เกิดไฟลุกได้แก่
1.    เสื้อผ้าต่างๆ
2.    ปลอกหมอน
3.    กกน
4.    เสื้อผ้าที่ใส่อยู่(จากคำบอกเล่า)
5.    ผ้าถุงตากที่ศาลา
6.    ถุงพลาสติกใส (PE) ใส่ขนมปัง แต่ไหม้ใต้ก้นถุง
7.    ถุงก๊อบแก๊บใส่อาหาร
8.    ถุงก๊อบแก๊บใส่อาหารอยู่ ในตู้เย็น
9.    กล่องยา
10.     ซองน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เทหมดแล้ว (หมกไว้ในเครื่องซักผ้า)
11.     ถุงธูป(ไม่ใช่ธูป)
12.     เครื่องใช้ไฟฟ้า(จากคำบอกเล่า)

          โดยเจ้าของบ้านเล่าว่า ส่วนมากจะเป็นผ้าชื้นๆ หรือถุงพลาสติกเปียกที่มักจะติดไฟ….
มาเริ่มวิเคราะห์กันได้
          เริ่มจาก ทำไมต้องผ้าชื้น ผ้าชื้นๆมันแตกต่างอะไรกับผ้าแห้ง ทำไมไฟชอบลุก ตรงนี้หละที่คนจะคาดว่าอ๋อ ชื้นแล้วใช้ Na ไปจุดไง หรือชื้นแต่แอบมีมีฟอสฟอรัสขาว เดี๋ยวมันเริ่มแห้งไฟก็ลุก อันนั้นก็พอไปได้ แต่ว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว จะ 200 ครั้งแล้ว เรื่องใหญ่มากแล้ว
ร่างทรงจะมากันหมดประเทศแล้ว ลองเปลี่ยนแง่คิดกันมั้ย

          ผ้าชื้นๆ เวลาคุณหมกผ้าอับๆชื้นๆ คุณได้กลิ่นเหม็นเพราะเชื้อโรค เพราะแบคทีเรีย
ใช่ความชื้นคือสิ่งจำเป็นในการเจริญของแบคทีเรีย และอากาศคือแหล่งออกซิเจน เพื่อปฏิกิริยาสันดาปให้พลังงานแก่เซลล์(ก็บางชนิดอะนะ) ขอแค่มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ยิ่งเหมาะมาก ก็ยิ่งเจริญได้ดี

          มีแบคทีเรียแล้วยังไง เวลามันโตมันก็แค่อุ่นๆหนิ เหมือนหมักปุ๋ยหมักยีสต์ ร้อนไปมันก็คงตายเอง ก็เหมือนต้มน้ำฆ่าเชื้อโรคไง
ใช่!ในกรณีทั่วๆไป แต่มีแบคทีเรียบางกลุ่ม ที่สามารถเจริญได้ดีมากที่อุณหภูมิสูง เรียกว่าเป็นกลุ่ม thermophilic bacteria
แต่แบคทีเรียกลุ่มนี้ไม่ใช่ว่าจะลอยไปเกาะอาหารของมัน แล้วฉายเดี่ยวเติบโตจนไฟลุกได้ง่ายๆ ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตมันซับซ้อนกว่านั้น
แบคทีเรียที่ทนความร้อนและเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิสูงนั้น อาจต้องอาศัยการปูทางโดยแบคทีเรียชนิดอื่นๆก่อน โดยที่เมื่อมีกิจกรรมปาร์ตี้
metabolism ของแบคทีเรียx ก็ย่อมเกิดความร้อนขึ้น (ซึ่งในระหว่างนี้น้ำก็จะค่อยๆระเหยออกไปจากพื้นผิว) จนถึงช่วงอุณหภูมิที่แบคทีเรียปกติจะเจริญไม่ค่อยดี และลดจำนวนลง(ไม่ไหว ร้อนเกิน) แต่แบคทีเรีย thermophile กลับสามารถเข้าเจริญเติบโตพรวดๆแทน
ซึ่งปกติแล้วการเจริญของแบคทีเรียจะคายความร้อนออกมา แต่ความร้อนนี้กลับทำให้แบคทีเรียยิ่งเติบโตได้ดีขึ้นไปอีก  โคโลนีแบคทีเรียนั้นก็จะเป็นศูนย์กลางของความร้อน จนทำให้วัสดุที่มันเกาะอยู่นั้นเกิด thermal run away ติดไฟขึ้นมาได้ หากจุดนั้นระบายความร้อนออกไปได้ช้ากว่าอัตราการเกิดความร้อน

           อ้าว…แล้วแบคทีเรียพิสดารนี้มันจะมาเผาบ้านเราตอนนี้มั้ย คำตอบคือ เป็นไปได้ ถ้าบ้านคุณอยู่ข้างบ่อน้ำพุร้อน เพราะแบคทีเรียกลุ่มนี้มันจะเจริญอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงๆเท่านั้น เช่น รอบบ่อน้ำพุร้อน

           แล้วเจ้ากลุ่มแบคทีเรียนี้มันไปเจริญบนอะไรได้บ้าง ก็คงจะเป็นทุกส่วนที่มันเกาะอยู่แล้วพอจะมีอะไรเป็นอาหารให้มันได้ สภาพอับชื้นยิ่งส่งเสริม
ส่วนกลางแสงแดดที่มี UV คงไม่ดีแน่ นี่อาจเป็นสาเหตุว่าทำไมจึงมักไหม้ในบ้าน ยิ่งมาพรมน้ำเลยยิ่งไปกันใหญ่ ช่วงกลางวันร้อนกว่าก็เริ่มได้ง่ายกว่า
ลองเจาะกันที่ละจุดเลย ว่ามีอะไรไหม้บ้างแล้วแบคทีเรียมันมาโตได้จริงมั้ย

1.    เสื้อผ้า โดยที่ผ้าชื้นจะไหม้ง่ายกว่า และไม่ใช่จะไหม้ทุกตัว แต่ที่แปลกสุดคือไหม้ผ้าในถังซัก แปลกมั้ย ซักผ้ายังไงให้ไหม้ไปดูกัน

เห็นว่าใส่สิ่งนี้ลงไปด้วย ท่าทางจะหมดถุงพอดี คงเทแล้วจุ่มๆไว้ ถุงไหม้ซะด้วย ชัดเจนว่าเป็นการแช่ปรับผ้านุ่มหลังซักเสร็จแล้ว

หยิบผ้าถุง มาให้ดูรอยไหม้ เป็นวงคาดว่าคงเป็นส่วนที่โผล่พ้นน้ำตอนที่แช่ไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Active agent ของน้ำยาปรับผ้านุ่มโดยตัวมันแล้ว ไวไฟ และยังทำให้เสื้อผ้าที่ผ่านการเคลือบสารนี้ไวไฟมากขึ้น มีรายงานเด็กทารกถูกส่งเข้าโรงบาลรักษาแผลไฟไหม้เพราะเสื้อผ้าที่ใช้ fabric softener
โดยโมเลกุลของมัน “ควอทแอม” มี N ประจุบวก ต่อกับหางยาวๆ คล้ายสายคาร์บอนของน้ำมัน
โดย N+ จะไปจับกับผิวผ้าซึ่งเป็นประจุลบ และหันหางยาวๆคล้ายไขมันออกมา ทำให้ผ้านุ่ม อาจไม่ค่อยซับน้ำ และไวไฟมากขึ้น สันนิฐานว่าสภาพผิวที่เป็นไขมันฟูๆเช่นนี้ จะเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียได้ดีกว่าผ้าเปล่าๆมาก
กลไลการไหม้ก็น่าจะเป็น ความร้อนจากactivity ของแบคทีเรีย ทำให้น้ำระเหยไป จนถึงจุดที่ความชื้นและอุณหภูมิพอเหมาะกับแบคทีเรียที่ชอบความร้อน ทำให้แบคทีเรียนี้เจริญพรวดพราด เมื่ออุณหูมิสูงมากพอ ก็เกิดการสลายตัวของวัสดุ thermal run away เป็นแค่รอยไหม้เพราะอยู่บนน้ำ

2.   กล่องยาสามัญประจำบ้าน พวกกล่องยาน่าถ้าเป็น PVC อาจมี plasticizer ออกมาที่ผิว เป็นอาหารแก่แบคทีเรียได้ดีกว่าตัวพอลิเมอร์มันเอง
      พอมีเริ่มมีแบคทีเรียมาเจริญหากมีชนิดที่ชอบความร้อนด้วย ก็เข้าขั้นตอนเดิม คือร้อนขึ้น แห้งขึ้น ติดไฟ

3  ชั้นวางจานพลาสติกน่าจะเป็น PP >> [กินได้?]

4  ถุงพลาสติกชื้น เห็นว่ามักเป็นถุงใส่ของอยู่พวกอาหาร ถ้ามีคราบน้ำมันพืช จะเป็นปัจจัยบวกต่อแบคทีเรียมากกว่าด้วย

5 ผ้าถุงที่ตาก ที่ศาลา>>นอกบ้านชัดเจน   ผ้าเปียกก็เข้าทางกรณีเดิม ซึ่งปกติอาจซักโดยใส่ปรับผ้านุ่มตลอดอยู่แล้ว

ถ้าเป็นเพราะแบคทีเรียจริง ทำไมต้องมาเจาะจงเกิดเหตุที่บ้านหลังนี้ด้วย ทีแรกสันนิฐานว่าคงเป็นเพราะเคยทำลานเผาถ่านมาก่อน อีกทั้งในภาพยังมีลักษณะคล้ายอะไรไหม้ๆที่พื้นอยู่ อาจสะสมแบคทีเรียชอบความร้อนอยู่ก็เป็นได้

แล้วสิ่งที่เป็น trigger ของเหตุการณ์นี้คืออะไร? เข้าหน้าร้อนอุณหภูมิสูงขึ้น? ไม่ก็ไม่แน่ชัด
แต่ลองคิดดูว่าลานเผาถ่านก็มีเยอะทั่วประเทศ ทำไมไม่เจอเหตุการณ์เช่นนี้ จะมีปัจจัยแวดล้อมอื่นหรือไม่
จึงลองค้นตำแหน่งที่อยู่ของอะไรบางอย่างแถวบ้านลุง พบว่า
>> นายล้อม บ้านเลขที่ 144 ถนนสายกงหรา – ป่าบอน หมู่ 6 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง
>> สถานที่ท่องเที่ยว: บ่อน้ำร้อนโหล๊ะจันกระ ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ตำบลตะโหมด ห่างจากที่ว่าการอำเภอตะโหมด 17 กิโลเมตร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เม่าอุ้มห่าน

โป๊ะเช๊ะ!... ซึ่งถ้าเป็นแบคทีเรียจริง ไม่ใช่อะไรที่จงใจ แปลว่าที่อื่นๆบนโลกนี้ ถ้ามีแหล่งอาศัยแบคทีเรียชอบความร้อนเหมือนๆกัน
ก็น่าจะเกิดเหตุการประหลาดเช่นนี้ได้เช่นกัน!!
ก็ลอง search ดู พบว่า....

Long time residents of Tarpon Springs—believed to be in one of the most haunted places of Florida—claimed every year that when the wind came from the south, fires would start in the same wooded area. Fires, they claimed, set by a ghost.
In 1952, the “ghost fire” destroyed 2,000 acres of woodland between the community and the Gulf of Mexico, and hundreds of citizens joined firefighting volunteers to prevent the blaze from destroying their homes. Fire investigators preferred to place the blame on an arsonist, though no evidence was found and the fire’s origin remains unproved.
http://coolinterestingstuff.com/the-ghost-fires-of-tarpon-springs-1952
อ่านแล้วขนลุกเลย

Willey Farm (1948)

The Willey family in Macomb, Illinois, endured hundreds of fires in a two week ordeal which destroyed their home, two barns, and damaged the milk house. The inexplicable fires began as brown spots on the wallpaper which burst into flames. In the following week, they extinguished more than 200 fires in the home—which wasn’t wired for electricity, ruling out faulty wiring as a cause.

The Willeys moved into a makeshift tent just in time—the very next day, their house was destroyed in a blaze. The following day, their first barn burned to the ground. An investigation by the state fire marshal yielded no explanation, although US Air Force officials believed the fires might be caused by radio waves, radioactivity, natural gas, or “atomic energy.”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สุดท้าย
Can Bacteria Cause Fire on Ships? > Yes

สรุปคร่าวๆ คือไฟไหม้ถังขยะในห้องเครื่อง ทั้งๆที่ไม่มีใครสูบบุหรี่ มีการทิ้งขยะประจำทุกเย็น แต่สาเหตุที่แท้จริงถูกพบในภาคหลัง คือ.......
The samples which were kept at a temperature of 20 to 30 degree Celsius did not show any considerable change in its behaviour. However, the samples which were kept at 40 degrees and above showed a strange behaviour. Even after the heating element for the sample was turned off, their temperature went up rapidly to more than 90 degree Celsius. Later upon testing, it was found that the steep increase in temperature was due to a peculiar kind of bacteria called the “thermophilic bacteria”.

The thermophilic bacteria (Thermophile) grow with liberation of heat at the right atmospheric conditions. It requires hot and humid atmosphere to multiply. When it multiplies, it liberates heat. This was the reason the oily cotton rags, which were inside the bin caught fire.
http://www.marineinsight.com/misc/marine-safety/can-bacteria-cause-fire-on-ships/

แปลไม่ไหวจริงๆ ลองอ่านกันดูนะครับ
>ใช้คำว่าแบคทีเรีย ทั้งๆที่ยังไม่รู้ชนิดที่แท้จริง microbes เอาว่าละไว้ในฐานที่เข้าใจก่อนนะ

เพิ่งไปเจอคลิปมาครับ ให้ภาพอธิบายเองแล้วกัน

อ่านข่าวมาหลายแหล่ง ไม่น่าเชื่อภาพข่าวกับบรรยากาศจริงๆมันต่างกันมาก
-  จะเห็นเลยว่าเจ้าของบ้านหวังพึ่งนักวิทยาศาตร์แค่ไหน
-  ถ้าฟังไม่ผิด เจ้าของบ้านขอให้ช่วยทำหนังสือไปถึงราชการให้มาตรวจสอบเหตุไฟไหม้บ้านปริศนานี้ โดยได้มาเก็บตัวอย่างดิน
   เทียบกับบ้านข้างๆ แต่ไม่พบความแตกต่าง
-  ผู้ใหญ่(ผมไม่ทราบว่าใคร)มานั่งอ่านผลวิเคราะห์ทางดิน ที่เก็บตัวอย่างไปตั้งแต่เดือนมีนาคมก่อนเป็นข่าวให้เจ้าของบ้านฟัง
   ฟังไปก็เกาหัวไป
-  เด็ก 2 ขวบนั่งเล่นไม่ประสา ถามหนูชื่ออะไร ก็บิดไปมา ตามประสาไม่ยอมตอบ
-  ส่วนตรงที่ไหม้ผ้าบนศาลา ก็เห็นควันนำมาก่อน ทุกอย่างดูเป็นปกติ(แค่หัวลุงบังกล้องไปนิด) แต่ภาพข่าวที่เคยเห็น เหมือนลุงเสื้อม่วงไปนั่งโง่ดูไฟใกล้ๆทำ..อะไร > จะเห็นว่าผ้าไหม้ตรงฝั่งที่หันเข้าหาโต๊ะ ไม่ใช่ฝั่งที่โดนแดด

คลิปนี้อย่างน้อยก็ให้เห็นสภาพความเป็นจริงกันมากขึ้น
ขออนุญาตเจ้าของคลิป ณ ที่นี้ด้วย

[ต่อที่ คห.12]

แก้ไขข้อความเมื่อ