เราคือ หนึ่งในผู้หญิงหลายคน ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว เราหลงรักการเดินทางจริงๆ นะ
เราชอบตัวเองเวลาได้แพคกระเป๋า ชอบตัวเองเวลาที่ได้นั่งรถ เรือ เครื่องบิน รถไฟ มอไซต์
แล้วมองฉากนอกหน้าต่าง มองวิวรอบๆ ตัว ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ
เราเป็นฝ่ายเฝ้ามองเรื่องราวระหว่างทาง ถ่ายรูป และจดบันทึกไว้ในความทรงจำ และไว้ในไดอารี่
กระทั่งถึงเป้าหมาย และเมื่อถึงเป้าหมายได้แล้ว เรายิ้มหมดใจเลยนะ
จากนั้นสองเท้าของเราก็เริ่มออกเดิน เรารู้สึกว่า โลกนี้มีอะไรให้เรามองอีกเยอะเลยล่ะ
ตลอดการเดินทาง เราได้เรียนรู้ ได้สัมผัสอะไรมากมาย ทุกอย่างคือ ประสบการณ์ ทุกอย่างคือ ความทรงจำ
แม้บางครั้ง เราจะหลงทาง เราจะหาเป้าพิกัดที่ตั้งใจไว้ไม่เจอ แต่มันก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่ง ที่สร้างเรื่องราวให้เราได้ย้อนกลับมานึกถึง
และเม้ามอยส์ได้บ่อยกว่าการที่เราไม่หลง หรือเจอเป้าหมายนั้นได้เร็วและง่ายๆ กว่าที่คิด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันสร้างเรื่องราวมากมายจริงๆ
อีกอย่าง คนข้างๆ ที่เดินทางไปกับเรา ช่างสำคัญ .... คุณว่างั้นมั้ย???
เพราะ ... (ครั้งหนึ่ง) เรา (เคย) คิดว่า เขาสำคัญ ...
จนวันหนึ่ง การเดินทางที่เราชอบ ตัวตนที่เราเป็น ขัดแย้งกับคนข้างกาย ...
จากที่เขาเคยนำทางเราออกเดิน กลายเป็นรำคาญที่เราชอบออกเดินทาง มีคำพูดที่ปั่นทอนความรู้สึก
และทำให้คิดว่า เป็นผู้หญิงอย่างเรา มันดูเข้มแข็ง มันดูห้าว มันดูไร้สาระมากขนาดนั้นเลยหรอ ...
แค่เพียงเราชอบเดินทาง เราทำงานพนักงานเงินเดือน แต่เราแบ่งเวลา แบ่งเงินเพื่อเดินทาง และแบ่งเงินอีกส่วนเพื่อสร้างชีวิต (ของเรา ... แต่เขาไม่เคยรู้เลย) ทั้งๆ ที่ผ่าน เขาเป็นคนสอน และมอบแรงบันดาลใจในการเดินทางมาให้เราตลอด ...
“เธอคิดแต่จะเที่ยวอย่างเดียวเลยหรอ ชีวิตของเธอมีแค่นี้น่ะหรอ เราว่า เราไปกับเธอไม่ได้แล้วล่ะ เธอดูไม่ต้องพึ่งพาอะไรเราเลย อีกอย่าง เรารู้สึกว่า เธอใช้ชีวิตเพื่อเดินทางได้ดี โดยที่ไม่ต้องมีเราก็ได้นี่ ” ... นี่คือ ประโยคของเขา ที่บอกกับเรา
ตอนนั้น เราฟังแล้ว เหมือนแค่เขางอนนิดหน่อย ที่วันๆ เราเอาอ่านแต่หนังสือท่องเที่ยว (อ่านหนังสืออย่างอื่นด้วย) แล้วกางแผนที่ เปิดปฏิทินหาวันหยุด
(เราทำเพื่อจัดการชีวิตกับงานของตัวเองให้สอดคล้องกัน หากมีช่องทางที่จะเดินทางได้เราก็จะทำ แต่หากไม่ได้ เราก็ใช้วันหยุดไปกับการหาเงินเพิ่มในแบบฉบับของเราเอง)
.... และอีกครึ่งปีต่อมา เขาก็เดินออกจากชีวิตของเราไปจริงๆ ... พร้อมกับประโยคนี้ "เรารักเธอ แต่เราอยู่กับเธอไม่ได้จริงๆ"
เราคิด! .... อย่างนั้น ที่ผ่านมา ผู้หญิงเข้มแข็ง ทำอะไรได้ด้วยตัวเอง และชอบเที่ยวอย่างเราเนี่ย .... มันเติมชีวิตเขาให้เต็มไม่ได้สินะ .... เฮ้อ!!!
.... แต่ก่อนที่เราจะดราม่าไปกว่านี้ ... ขอเข้าคำถามเลยก็แล้วกันนะ ...
“คุณคิดอย่างไร กับผู้หญิงที่หลงรักการเดินทาง”
เราอยากรู้จริงๆ ว่า คนอื่นๆ คิดยังไง โดยเฉพาะผู้ชายคนอื่นๆ ที่ชอบเดินทางเหมือนเรา เราอยากรู้จริงๆ ... มันค้างใจ ... ช่วยชี้เป้าให้รู้ที ....
ปล-1. ปัจจุบัน เรายังเดินทางเหมือนเดิม แม้ไม่มีเขา แต่เรามีครอบครัว มีตัวเราเอง และมีเพื่อนสนิท
ไม่มีเขา เราก็ยังเดินทาง ...
แต่มันคงจะดีเนอะ หากมีคนที่เข้าใจ พร้อมจะเดินทางไปด้วยกันจนเป็นตาลุง ยัยป้าที่ขับรถปุเลงไปกางเต้นท์ ริมน้ำ นั่งคุยกันไปตลอดทาง ...
ปล.-2 การเดินทางครั้งล่าสุดคือ กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไปลั๊ลลา ที่ตะกั่งป่า 1 คืน กางเต้นท์ริมทะเลที่หมู่เกาะสุรินทร์ 3 คืน ปอดทริปด้วยนอนที่พะโต๊ะอีก 1 คืน ... กับครอบครัว สนุกลืมเธอเลยงานนี้
คิดอย่างไร กับผู้หญิงที่หลงรักการเดินทาง
เราชอบตัวเองเวลาได้แพคกระเป๋า ชอบตัวเองเวลาที่ได้นั่งรถ เรือ เครื่องบิน รถไฟ มอไซต์
แล้วมองฉากนอกหน้าต่าง มองวิวรอบๆ ตัว ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ
เราเป็นฝ่ายเฝ้ามองเรื่องราวระหว่างทาง ถ่ายรูป และจดบันทึกไว้ในความทรงจำ และไว้ในไดอารี่
กระทั่งถึงเป้าหมาย และเมื่อถึงเป้าหมายได้แล้ว เรายิ้มหมดใจเลยนะ
จากนั้นสองเท้าของเราก็เริ่มออกเดิน เรารู้สึกว่า โลกนี้มีอะไรให้เรามองอีกเยอะเลยล่ะ
ตลอดการเดินทาง เราได้เรียนรู้ ได้สัมผัสอะไรมากมาย ทุกอย่างคือ ประสบการณ์ ทุกอย่างคือ ความทรงจำ
แม้บางครั้ง เราจะหลงทาง เราจะหาเป้าพิกัดที่ตั้งใจไว้ไม่เจอ แต่มันก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่ง ที่สร้างเรื่องราวให้เราได้ย้อนกลับมานึกถึง
และเม้ามอยส์ได้บ่อยกว่าการที่เราไม่หลง หรือเจอเป้าหมายนั้นได้เร็วและง่ายๆ กว่าที่คิด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันสร้างเรื่องราวมากมายจริงๆ
อีกอย่าง คนข้างๆ ที่เดินทางไปกับเรา ช่างสำคัญ .... คุณว่างั้นมั้ย???
เพราะ ... (ครั้งหนึ่ง) เรา (เคย) คิดว่า เขาสำคัญ ...
จนวันหนึ่ง การเดินทางที่เราชอบ ตัวตนที่เราเป็น ขัดแย้งกับคนข้างกาย ...
จากที่เขาเคยนำทางเราออกเดิน กลายเป็นรำคาญที่เราชอบออกเดินทาง มีคำพูดที่ปั่นทอนความรู้สึก
และทำให้คิดว่า เป็นผู้หญิงอย่างเรา มันดูเข้มแข็ง มันดูห้าว มันดูไร้สาระมากขนาดนั้นเลยหรอ ...
แค่เพียงเราชอบเดินทาง เราทำงานพนักงานเงินเดือน แต่เราแบ่งเวลา แบ่งเงินเพื่อเดินทาง และแบ่งเงินอีกส่วนเพื่อสร้างชีวิต (ของเรา ... แต่เขาไม่เคยรู้เลย) ทั้งๆ ที่ผ่าน เขาเป็นคนสอน และมอบแรงบันดาลใจในการเดินทางมาให้เราตลอด ...
“เธอคิดแต่จะเที่ยวอย่างเดียวเลยหรอ ชีวิตของเธอมีแค่นี้น่ะหรอ เราว่า เราไปกับเธอไม่ได้แล้วล่ะ เธอดูไม่ต้องพึ่งพาอะไรเราเลย อีกอย่าง เรารู้สึกว่า เธอใช้ชีวิตเพื่อเดินทางได้ดี โดยที่ไม่ต้องมีเราก็ได้นี่ ” ... นี่คือ ประโยคของเขา ที่บอกกับเรา
ตอนนั้น เราฟังแล้ว เหมือนแค่เขางอนนิดหน่อย ที่วันๆ เราเอาอ่านแต่หนังสือท่องเที่ยว (อ่านหนังสืออย่างอื่นด้วย) แล้วกางแผนที่ เปิดปฏิทินหาวันหยุด
(เราทำเพื่อจัดการชีวิตกับงานของตัวเองให้สอดคล้องกัน หากมีช่องทางที่จะเดินทางได้เราก็จะทำ แต่หากไม่ได้ เราก็ใช้วันหยุดไปกับการหาเงินเพิ่มในแบบฉบับของเราเอง)
.... และอีกครึ่งปีต่อมา เขาก็เดินออกจากชีวิตของเราไปจริงๆ ... พร้อมกับประโยคนี้ "เรารักเธอ แต่เราอยู่กับเธอไม่ได้จริงๆ"
เราคิด! .... อย่างนั้น ที่ผ่านมา ผู้หญิงเข้มแข็ง ทำอะไรได้ด้วยตัวเอง และชอบเที่ยวอย่างเราเนี่ย .... มันเติมชีวิตเขาให้เต็มไม่ได้สินะ .... เฮ้อ!!!
.... แต่ก่อนที่เราจะดราม่าไปกว่านี้ ... ขอเข้าคำถามเลยก็แล้วกันนะ ...
“คุณคิดอย่างไร กับผู้หญิงที่หลงรักการเดินทาง”
เราอยากรู้จริงๆ ว่า คนอื่นๆ คิดยังไง โดยเฉพาะผู้ชายคนอื่นๆ ที่ชอบเดินทางเหมือนเรา เราอยากรู้จริงๆ ... มันค้างใจ ... ช่วยชี้เป้าให้รู้ที ....
ปล-1. ปัจจุบัน เรายังเดินทางเหมือนเดิม แม้ไม่มีเขา แต่เรามีครอบครัว มีตัวเราเอง และมีเพื่อนสนิท
ไม่มีเขา เราก็ยังเดินทาง ...
แต่มันคงจะดีเนอะ หากมีคนที่เข้าใจ พร้อมจะเดินทางไปด้วยกันจนเป็นตาลุง ยัยป้าที่ขับรถปุเลงไปกางเต้นท์ ริมน้ำ นั่งคุยกันไปตลอดทาง ...
ปล.-2 การเดินทางครั้งล่าสุดคือ กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไปลั๊ลลา ที่ตะกั่งป่า 1 คืน กางเต้นท์ริมทะเลที่หมู่เกาะสุรินทร์ 3 คืน ปอดทริปด้วยนอนที่พะโต๊ะอีก 1 คืน ... กับครอบครัว สนุกลืมเธอเลยงานนี้