อยากเฟี้ยวต้องเที่ยวกรุงฯชวนเที่ยว "เกาะรัตนโกสินทร์"

มีใครเคยเป็นกันไหม ? วันๆหนึ่งถ้าเราไม่ได้ทำอะไรเลย เราจะเสียเวลาชีวิตไปกับการหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเฟส เล่นไลน์ เล่นไอจี เล่นเกมแล้วก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผมเคยเป็นนะมีช่วงหนึ่งเล่นเกิน 10 ชม.ต่อวัน ผมรู้สึกเลยว่าความสนุก ความตื่นเต้นในชีวิตมันหายไปแถมยังขี้เกียจอีก ผมก็เลยตัดสินใจว่า ต้องหาอย่างอื่นทำแล้วละ !

หลายคนมักจำกัดตัวเองว่าไม่มีเวลา ที่นี่ไกลไป ไปไม่ได้หรอกต้องค้างคืน แพง…ไม่เอา หลากหลายข้ออ้างที่เคยได้ยินมา คือถ้าจะกลัวเยอะขนาดนี้ทำไมไม่ลองมองหาที่ๆไปง่าย ใกล้ๆบ้านดู แบบไม่ต้องพักค้างคืนมันมีเยอะครับตามพันทิป อย่างเมื่อครั้งก่อนตอนเดือนมกราคม ผมก็ไปปั่นจักรยานเล่นกับเพื่อนที่บางกระเจ้า ซึ่งก็ได้อานิสงค์มาจากพันทิปนี่แหละ เป็นอารมณ์แบบ โอ้ เย โอ้ เย ครั้งแรกในชีวิตมหาลัยเลย (ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรุงเทพนะ ผมว่าต่างจังหวัดเนี่ยยิ่งน่าสนใจเลย) วันนี้ผมมีอีกที่มาแนะนำ หลายคนอาจจะผ่านจนเคยชิน ไม่มีความน่าสนใจ แต่ถ้าลองทำตัวเองเป็นนักท่องเที่ยวความรู้สึกมันก็เปลี่ยนไป   การเดินทางง่ายครับ แถมยังได้เปิดหูเปิดตากับประสบการณ์ใหม่ด้วย ที่ๆผมจะไปคือ เกาะรัตนโกสินทร์ครับ

ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณ อาจารย์เตือนใจ โก้สกุล อาจารย์ประจำวิชา National resource ซึ่งเป็นวิชาการศึกษาทั่วไป (วิชาเจนเอ็ด) หมวดสหศึกษา ที่ได้เปิดโอกาสให้ทำงานจิตอาสาขึ้น บางคนอาจจะพูดว่า อ้าววว รีวิวนี้งานอาจารย์สั่งนี่หว่า ก็ถูกแล้วววว แต่…บอกเลยว่าผมก็ตั้งใจทำนะ ไม่ใช่เขียนเพื่อเอาคะแนนเพราะผมเคยเขียนอีกเรื่องมาแล้วๆรู้สึกสนุกกับการทำรีวิว


+++หมายเหตุ+++
ก่อนออกเดินทางอย่าลืมอาบโลชั่นหรือครีมกันแดดมาก่อนด้วยล่ะ เพราะว่าแดดแรงมาก ถ้ามาฤดูหนาวได้จะดีมาก 55555 และที่สำคัญ ! อย่าลืมใส่ขายาวเตรียมเข้าวัดด้วยนะครับ

เข้าเรื่องกันเลยนะครับ สถานที่ๆพวกเราได้วางแผนกันไว้จากเริ่มจนจบคือ 1 สนามหลวง 2 นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 3 วัดพระแก้ว 4 วัดโพธิ์ 5 มิวเซียมสยาม 6 วัดสุทัศน์  7 เสาชิงช้า และ 8 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

>>>คำถามแรกของทริป ทำไมถึงเรียก เกาะรัตนโกสินทร์ ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เกาะรัตนโกสินทร์ คือชื่อที่สมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อมตั้งขึ้นเพื่อเรียกบริเวณ เมืองเก่าชั้นใน เริ่มตั้งแต่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้าไปตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา  ผ่านท่าพระจันทร์ ท่าช้าง ท่าเตียน จนถึงปากคลองตลาด และย้อนกลับมาตามแนวคลองหลอดผ่านวัดราชประดิษฐ์ หลังกระทรวงกลาโหมหลังกระทรวงยุติธรรม ไหลออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า บริเวณนี้จึงนับได้ว่ามีน้ำล้อมรอบ มีลักษณะเป็นเกาะ
          เกาะรัตนโกสินทร์มีพื้นที่ ๑.๘ ตารางกิโลเมตร หรือ  ๑,๑๒๕ ไร่ ถือเป็นสถานที่เริ่มต้นราชวงศ์จักรี เป็นศูนย์กลางที่แสดงถึงอารยธรรมและความเจริญทางศิลปกรรมของกรุงรัตนโกสินทร์
“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”


เริ่มต้นทริปด้วยการนัดเจอที่สนามหลวง วันนี้ออกมาเช้าครับนัดกัน 9 โมงเจอกันจริงๆ 10 โมง 5555 สนามหลวงตอนเช้าไม่ค่อยมีอะไร ถ้ามาเช้าหน่อยอาจจะมาเดินเล่น วิ่งออกกำลังกายได้ แต่ถ้าสายแล้วคงได้แค่พักผ่อนกับถ่ายรูปเล่น อยากจะบอกว่าตอนเช้านี่คนน้อยมากครับ เย็น ๆ คนจะเริ่มเยอะ เจอกันเสร็จก็ไม่รอช้าเข้าที่แรกก่อนเลย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ตอนเข้ามาถึงก็จะเจอกับห้องโถงโล่งด้านหน้ารอรับอยู่ ส่วนลำดับห้องนั้นหายไปตั้งแต่เข้าไปในอาคารละ ก็เริ่มจากเดินวนซ้ายก่อนเข้าไปดูประวัติความเป็นมาของแต่ละห้อง
ใครที่จะมาที่นี่ต้องเช็คตารางเวลาด้วยนะครับเพราะที่นี่ไม่ได้เปิดทุกวัน นิทรรศการเปิดปิดดังนี้ครับ
เปิดบริการ : วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 9.00 - 16.00 น.
ปิดบริการ :  วันจันทร์ - วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ที่สำคัญไม่เสียค่าเข้าชมงานด้วย แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้คือตัวอาคารโดยเฉพาะบริเวณทางเข้าไม่ค่อยเด็ดซักเท่าไร หาจุดสังเกตยากเพราะบริเวณทางเข้าที่ต้องเดินขึ้นอาคารเล็กไปหน่อย แถมถ้าวันไหนเจอโรงเรียนพามาทัศนศึกษานะแทบจะไม่มีที่วางรองเท้าเลยละ

บรรยากาศก็จะประมาณนี้นะครับ



>>>คำถามที่สองนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจัดแสดงอะไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นสถานที่ให้บริการความรู้เกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว ในรูปแบบของนิทรรศการถาวร จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส 100 ปีแห่งการสวรรคต 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553
นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว มีห้องจัดแสดง ดังนี้
- ห้องที่ 1 ปิยมหาราช จัดแสดงพระราชประวัติ และจุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์
- ห้องที่ 2 ราชเคียงประชา จัดแสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการปฏิรูปสังคมให้มีความเสมอภาคโดยเฉพาะการเลิกทาส ทำให้ราษฎรทุกคนเป็นไทแก่ตัว การเสด็จประพาสต้นเพื่อดูแลทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์
- ห้องที่ 3 ธำรงเอกราช จัดแสดงพระราชกรณียกิจในการปฏิรูปการปกครองทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ การเจริญทางพระราชไมตรีกับนานาประเทศ ทำให้ชาติไทยผ่านพ้นวิกฤติการณ์ทางการเมืองและสามารถดำรงรักษาความเป็นเอกราชไว้ได้
- ห้องที่ 4 สยามใหม่ จัดแสดงภาพบ้านเมืองในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้มีการวางรากฐานกิจการด้านสาธารณูปโภคของไทยทุกด้าน อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาบ้านเมืองต่อมาทุกยุคทุกสมัย
- ห้องที่ 5 มรดกสถาปัตยกรรมของสยาม จัดแสดงแบบจำลองสามมิติของสถาปัตยกรรมที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้แก่ วัดเบญจมบพิตร พระที่นั่งอนันตสมาคม อาคารธนาคารไทยพาณิชย์ สขาตลาดน้อย และตึกถาวรวัตถุ
- ห้องที่ 6 มรดกความทรงจำแห่งโลก จัดแสดงตัวอย่างสำเนาเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก เมื่อ พ.ศ. 2552 จัดแสดงภายถ่ายส่วนพระองค์
- ห้องที่ 7 ปิยมหาราชรฦก จัดแสดงภายถ่ายส่วนพระองค์
               ภายในอาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ยังเป็นศูนย์จำหน่ายหนังสือ ที่สำนักต่างๆ ภายในกรมศิลปากรจัดพิมพ์ขึ้น คือ สำนักบริหารกลาง กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักการสังคีต สำนักช่างสิบหมู่ สำนักโบราณคดี สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ สำนักสถาปัตยกรรม สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ และสำนักหอสมุดแห่งชาติ
                ฯพณฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นประธานในพิธีเปิดอาคาร เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553
“ข้อมูลสนับสนุนจากเว็บไซต์ของหอสมุดแห่งชาติ www.nlt.go.th”


ที่ต่อไปเดี๋ยวมาต่อนะครับ