น้ำแข็งก็ลอยไปในอากาศได้ อากาศก็สามารถตกลงสู่พื้นได้

กระทู้สนทนา
เราจะทำน้ำแข็งให้ลอยไปให้อากาศ   ก็โดยเพิ่มอุณหภูมิจนน้ำแข็งกลายเป็นน้ำแล้วน้ำกลายเป็นไอ  ไอ (น้ำแข็ง) จึงลอยไปในอากาศได้  

ส่วนอากาศ ถ้าจะทำให้กลายจากของเบาเป็นของหนัก ก็โดยลดอุณหภูมิ  ให้อากาศควบแน่นกลายเป็นน้ำ  แล้วน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง   อากาศจึงจะตกลงมาสู่พื้นดินได้  (เช่น ลูกเห็บ, หิมะ เป็นต้น)

แสดงว่าในของสิ่งเดียวกันนั้น   มีส่วนหยาบก็มีส่วนละเอียดซ้อนอยู่ด้วย นั่นคือ น้ำแข็งหยาบกว่า น้ำ  และอากาศ  แต่ในน้ำแข็งก็มีส่วนละเอียดซ้อนอยู่ด้วยนั่นคือ น้ำและอากาศ   
และในละเอียดก็มีหยาบซ้อนอยู่ด้วย นั่น  คือ  ในอากาศก็ย่อมมีน้ำแข็งหรือน้ำซ้อนอยู่ภายในอากาศด้วยนั่นเอง  

นอกจากนี้ ถ้ามองว่า  ในของหนักก็ย่อมมีของเบาซ้อนอยู่ด้วย (ในก้อนน้ำแข็งมีอากาศซ้อนอยู่ด้วย) และในของเบาก็ย่อมมีของหนักซ้อนอยู่ด้วย (ในอากาศก็มีน้ำแข็งซ้อนอยู่ด้วย)


เพียงแต่เรารู้วิธีแปลงหยาบให้กลายเป็นละเอียด  แปลงละเอียดกลายเป็นหยาบ  หรือ แปลงของหนักให้กลายเป็นของเบา หรือแปลงของเบาให้กลายเป็นของหนัก  ทั้งนี้ ในมวลวัตถุก้อนเดียวกันนั้น   เช่น  กรณีอากาศ  น้ำ  น้ำแข็ง  เรารู้วิธีแปลงว่า อยู่ตรงอุณหภูมิและการควบแน่น

ดังนั้น  เมื่อเทียบกรณีอื่นๆ เช่น  มนุษย์  ก็อาจเป็นได้ว่า มนุษย์ที่มีน้ำหนักมาก ก็อาจกลายเป็นมนุษย์ที่มีน้ำหนักเบาขนาดลอยไปในอากาศก็ได้  

เพียงแต่ว่า  เรายังไม่รู้กลไกการแปลงน้ำหนักเท่านั้นเอง

นี่เป็นเพียงตั้งข้อสังเกตไว้   ซึ่งเป็นเพียงการคิดเล่นๆ  ให้ลองพิจารณากันดูครับ

ไม่เชื่อก็หย่าลบหลู่

ส่วนตัวผมนั้น ไม่ได้สนใจหรอกครับว่า  พระไตรปิฎกกล่าวถึงคนเหาะได้นั้น จะจริงหรือไม่  แต่จากผลการปฏิบัติส่วนตัวมองว่า ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่เท่านั้นเองครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่