สวัสดีฮะ

นี่เป็นกระทู้แรกของผม ผมขอใช้ภาษาพูดในการรีวิวละกัน เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ
ตามหัวข้อกระทู้ที่เข้ามา สำหรับคนที่ไม่เคยไปคงคิดว่า ดูไบ .. ร้อน แดด ทะเลทราย ผิดครับ !

สำหรับผมก่อนไปก็คิดเหมือนพวกคุณๆทั้งหลายนั่นแหละครับ มันต้องร้อนแน่เลย แดดต้องแรง กันแดดแค่ไหนก็เอาไม่อยู่5555555555555555555555 แต่พอได้ไปมานะครับ ผมนี่ไม่อยากกลับไทยเลย อากาศไม่ร้อนเท่าประเทศไทยด้วยซ้ำ บ้าจริง ! ณ จุดๆนี้ขอบอกก่อนเลยนะครับว่า แดดไทยแรงกว่า ร้อนกว่า !

ในเรื่องของงบประมาณและค่าใช้จ่ายที่ไปรอบนี้ไม่ได้ไปเองนะครับ ผมไปกับทัวร์ ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับทางทัวร์นั้น ตกอยู่ที่ประมาณ 45,000 บาทไทย แต่ถ้าไปเองจะตกอยู่ประมาณ 60,000 บาทไทยนะครับ (เฉพาะค่าตั๋วและโรงแรมนะครับ)
ส่วนอัตตราเงินที่แลกไปนั้นทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาจะใช้ค่าเงินเป็น ดีแรมห์ ครับ แต่ทางไกด์เขาแนะนำมาว่าให้แลกเป็น US ไปดีกว่า แต่ถ้าท่านไหนนิยมบัตรเครดิตก็ไม่จำเป็นครับ : )
ในเรื่องของการซื้อของฝากนี่ ต้องนี่เลยครับ อินทผาลัม ซึ่งในประเทศไทยนั้นนะครับ จะบอกว่าหากินแบบสดๆนี่ยากมากครับ ส่วนมากในบ้านเรานี่จะมีแต่แบบเชื่อม แบบ อบแห้ง อะไรประมานนั้นนนน - - ซึ่งรสชาตินั้นก็หวานครับ หวานมว๊ากกกกกกกกกกกกกกก - - ''
เดี๋ยวเรามาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่าาาา

ผมเทคออฟจากสุวรรณภูมิประมาณ 4 โมงเย็นครับ ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงกว่า ไปถึงนู้นนนนน ก็ประมาณ 2 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นครับ ซึ่งเวลาที่ดูไบจะห่างจาก บ้านเรา 3 ชั่วโมงเศษๆ ครับ จริงๆอยากถ่ายรูปที่สนามบินมาเก็บไว้ด้วยครับ แต่รู้สึกว่าเค้าจะห้ามถ่าย ละก็วิวบนเครื่องบินในระหว่างที่เข้าไปในเขตพื้นที่ของประเทศเขา เขาห้ามถ่ายจ้า Crew ประกาศบนเครื่องเลยว่าห้ามถ่าย นี่ก็ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน - -
พอไปถึงก็เหนื่อยละครับ ไปรับประทานอาหาร ละก็เข้า โรงแรม โรงแรมที่พักนั้น ผมพักอยู่ที่ JW Marriott Marquis Dubai โรงแรมที่สูงที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ครับ ซึ่งเรตราคาที่ผมไปนอนนั้นเป็นห้องธรรมดา ราคาตกอยู่ที่ประมาณ หมื่นเศษๆ

วันที่1
ตื่นเช้ามาเจอหมอกเลยจ้าา มันคือหมอกอะไรไม่รู้ รู้แค่ตื่นเข้ามาเจอเลย 5555555555555
วันแรกก็ประเดิมที่หาด Jumeiriah เลยครัย ชายหาดสวยมากกกกกกกกกกกก ชอบบบบบบ >< ทะเลฟ้าใสมากกกกกกกกกกก ละก็วิวดีครับ เป็นหาดที่โรงแรม Burj al arab ตั้งอยู่ครับ พอนึกถึงดูไบก็น่าจะเป็นสิ่งแรกที่นึกถึงแหละครับ โรงแรมรูปเรือ 55555555

สำหรับข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับโรงแรมนี้ที่ได้จากทางไกด์มาเนี่ย ราคาเริ่มต้นห้องธรรมดาจนถึงห้องรอยัลนี่ก็ตกประมาณ 7,0000-455,520 บาทไทยครับ ซึ่งพวกของใช้ที่อยู่ในห้องน้ำนี่ก็จะเป็น HERMES ครับ ส่วนถ้าเรา Booking ล่วงหน้าไว้นั้น เค้าจะให้เราเลือกยานพาหนะสองอย่างครับคือ Rolls Royce และ Helicopter ครับ พระเจ้าาาา
สถานที่ต่อไปคือ Souk Madinat Jumeiriah ครับ ตรงนี้เขาบอกว่าเป็นเวนิซดูไบครับ น้ำสีครามๆ เขียวๆ ใสๆ มันคือสีอะไรว่ะ -0- แต่ที่แน่ๆมันสวยครับ ละด้านในก็จะมีร้านขายของทั่วไป Starbuck ละก็ร้านอาหารครับ
สถานที่ตรงนี้จะอยู่ถัดขึ้นมาจากหาด Jumeiriah ครับ เราจะสามารถมองเห็น Burj al arab ได้พอดีตรงทางเข้าครับ ของขายส่วนมากก็จะเป็นของเล็กๆน้อยๆครับ พวกของฝากที่เป็นพวงกุญแจครับ

ต่อไปเป็น The Palm Project ครับ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เวลาเรานึกถึงดูไบอีกเช่นกัน ตามข้อมูลที่ผมได้รับมาจากไกด์นั้น เดอะปาล์มเนี่ยสร้างขึ้นมาเพื่อในชาวต่างชาติอยู่ครับ เพราะอะไร ? ทำไมต้องให้ชาวต่างชาติอยู่ ? ก็เพราะว่า ที่ดูไบจะมีกฎหมายอยู่ข้อนึง ที่บอกว่า บุคคลใดที่ไม่ใช่ชาวต่างชาติ จะไม่สามารถซื้อที่ดินในพื้นที่ของเมืองดูไบได้ครับ ทางรัฐบาลเขาเลยถมทะเลให้ชายต่างชาติอยู่เลยครับ ถามว่าทำไมทางรัฐบาลเขาต้องลงทุนมหาศาลเพื่อให้ชาวต่างชาติมาอยู่ ? เพราะว่า ชายต่างชาติส่วนใหญ่ จะเข้ามาทำธุรกิจที่ดูไบครับ เพราะดูไบเป็นประเทศที่ไม่มีภาษี ต่างกันกับไทยมากเลย5555555555555555 จะซื้อรถ สร้างตึกเป็นพันๆล้าน ก็ไม่เสียภาษี ดีจังงงง อิจจจจจจจ -0-
เราจะสังเกตุเห็นวิลล่าและบ้านเดี่ยวเยอะแยะ ซึ่งราคาเริ่มต้นก็ตกอยู่ประมาน 71,250,000 บาทไทยเลยแหละครับ

วันนี้พอแค่นี้ เดี๋ยวไว้จะมาต่อนะฮะ

[CR] รีวิว ดูไบ & อาบูดาบี & สถานที่ถ่ายทำ Fast 7